xs
xsm
sm
md
lg

"พล.ร.ท.ประทีป" ตอกย้ำเหตุไม่เลือก ปชป- พท. ชี้14 เหตุผล"โหวตโน"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

  พล.ร.ท.ประทีป ชื่นอารมณ์
"พล.ร.ท.ประทีป " แนะ 3 ชะลอ แก้ไขปัญหาเขาวิหาร ยันจำเป็นอย่างยิ่งต้องทำตาม 3 ข้อเรียกร้องพันธมิตรฯ ทหารไทยต้องปฏิบัติไม่ใช่แค่ใช้คำพูดยื่นเงื่อนไข พร้อมวิเคราะห์สาเหตุทำไม ปชป-พท. ไม่เหมาะยืนบนเวทีการเมือง รวมถึงสาเหตุต้อง"โหวตโน"

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง "รวมพลัง ปกป้องแผ่นดิน" การเสวนา "ราชอาณาจักรกำลังจะเสียดินแดน"  

วันที่ 12 พ.ค.2554 บนเวทีปราศรัยการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ พล.ร.ท.ประทีป ชื่นอารมณ์ กรรมการรวมพลังปกป้องดินแดน กล่าวว่า ภายหลังคำพิพากษาศาลโลกเมื่อ พ.ศ. 2505 ไทยก็น้อมนำมาปฏิบัติด้วยการ ถอนกำลังทหารลงมา กั้นแนวรั่วรอบตัวปราสาทไว้ พร้อมกับคืนวัตถุโบราณ ซึ่งเขมรเองก็ยอมรับทำให้เห็นภาพ สมเด็จสีหนุ ขึ้นชมเขาวิหารทางช่องบันไดหัก ต่อมาศาลโลกก็ได้พูดไทยได้ปฏิบัติตามคำพิพากษาแล้ว

ทั้งนี้ น่าตำหนิ กับการปฎิบัติงานของฝ่ายไทย ที่กระทรวงต่างประเทศออกสมุดปกขาว เมื่อเดือน มิ.ย. 2551 ระบุ (1.) การปักปันเขตแดนเขาวิหารยังไม่แล้วเสร็จ ทั้งที่จริงมันปักเสร็จแล้วตั้งแต่ค.ศ.1907 แล้ว (2.)ตอกย้ำว่า แผนที่1:200000 เป็นผลงานของคณะกรรมการปักปันสยาม -ฝรั่งเศส เท่ากับยอมรับว่าแผนที่ในเอ็มโอยู 43ข้อ 1 ค. เป็นแผนที่ที่มีความชอบธรรม (3.) การกำหนดเส้นเขตแดนเขาวิหารเมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2505 เป็นมติของคณะรัฐมนตรี ทั้งที่จริงเป็นเพียงแค่แนวปฎิบัติไม่ใช่เส้นเขตแดน เพราะรัฐบาลไทยในยุคนั้นได้สงวนสิทธิ์ไว้ว่าจะทวงคืนตัวปราสาท แล้วจะบอกเป็นเส้นเขตแดนได้อยางไร นอกจากนี้ นายวศิน ธีรเวชญาณ เมื่อครั้งดำรงค์ตำแหน่งประธานเจบีซี ยังได้กล่าวเมื่อวันที่ 12 ต.ค. 2552 ผูกมัดไทยเข้าไปอีก ถึงสาเหตุต้องบรรจุแผนที่1:200000 ไว้ในทีโออาร์ ว่า เป็นแผนที่ของคณะกรรมการปักปันสยาม-ฝรั่งเศส และสยามขอร้องให้ฝรั่งเศสจัดทำแผนที่นี้ รวมถึงแผนที่ผูกพันธ์ตามคำพิพากษาของศาลโลกเมื่อ 2505 เป็นการกระทำที่บิดเบือน เข้าใจผิด จนทำให้เกิดการสู้รบจนถึงทุกวันนี้ ดังนั้นจำเป็นอย่างยิ่งต้องยกเลิกเอ็มโอยู 43 จำเป็นอย่างยิ่งต้องถอนตัวออกจากภาคีมรดกโลก และจำเป็นที่จะต้องผลักดันทหารกัมพูชาออกจาพื้นที่โดยรอบเขาวิหาร ด้วยการปฏิบัติจากกองทัพไทยไม่ใช่แค่คำพูดยื่นเงื่อนไข

“ในเมื่อพื้นที่รอบปราสาทเขาวิหารยังคาอยู่ในช่วงการวินิจฉัยของศาลโลก สิ่งที่ควรทำ คือ 1. ชะลอการหาข้อยุติว่าจะส่งผู้สังเกตการณ์เข้ามา 2.ชะลอการทำงานของคณะกรรมการเจบีซี เพราะผูกพันธ์พื้นที่ที่ยังเป็นปัญหาอยู่บนศาลโลก 3.ควรชะลอแผนบริหารจัดการประกอบเป็นมรดกโลก เพราะเป็นพื้นที่ที่เป็นปัญหาอยู่บนศาลโลก”

พล.ร.ท.ประทีป กล่าวถึงเหตุผลการขับเคลื่อนโหวตโน โดยวิเคราะห์ถึงความเหมาะสมของนักการเมือง ว่า สมควรที่จะยืนบนเวทีการเมืองหรือไม่ เริ่มจากระบอบทักษิณ

1.เชื่อหรือไม่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร บอกจะสร้างกำแพงจากมหาชัย ถึงปากน้ำ แล้วจะได้พื้นที่ 1แสนไร่ สร้างเมืองที่ศิวิไล
2.เชื่อหรือไม่ที่บอกจะสร้างรถไฟความเร็วสูงจากจากรุงเทพฯ ถึงเชียงใหม่ หัวหิน โคราช
3.เชื่อหรือไม่ที่บอกจะสร้างแลนด์บริดจ์จากอ่าวไทย สู่ฝั่งอันดามัน ภายในยุคของเขา
4.เชื่อหรือไม่ที่บอกแจกไอแพดให้นักศึกษาทุกคน เพื่อเป็นคู่มือในการเรียนการสอน
5.เชื่อหรือไม่ที่บอกให้เขากลับเมืองไทย แล้วเขาจะจงรักภักดิ์ดี ไม่แก้แค้นใคร
6.เชื่อหรือไม่ที่บอกหากไม่จงรักภักดิ์ดี จะให้เหยียบหน้า
7.เชื่อหรือไม่ที่บอกสามเดือนแรกจะปลดหนี้ หกเดือนต่อไปจะหากงานให้ทำ หนึ่งปีทุกคนจะมีเงินไช้
8.เชื่อหรือไม่ที่บอกกลับมาจะไม่โกงชาติบ้านเมือง ที่ผ่านมาเป็นเพราะศาลสองมาตรฐาน กลับมาแล้วต้องนิรโทษกรรม9.ให้เขา แล้วเขาจะไม่โทษว่าศาลสองมาตรฐาน
10.เชื่อหรือไม่ที่บอกว่า ไปเป็นที่ปรึกษาให้ ฮุนเซ็น เป็นเพราะรักประเทศไทย
11.เชื่อหรือไม่ เขาไม่ได้อยู่เบื้องหลังการเผาบ้านเผาเมือง
12.เชื่อหรือไม่ว่า เขาไม่ได้สร้างตัวละคร ชื่อ ศิวรักษ์ ขึ้นมาตบตา เพื่อสร้างบารมี
13.เชื่อหรือไม่ที่บอกว่า หากเขากลับมา “วีระ-ราตรี” จะพ้นคุกแน่นอน และทำโดยไม่หวังผลประโยชน์ใดๆทั้งสิ้น
14.เชื่อหรือไม่ว่าไม่ได้อยู่เบื้องหลังการล้มประชุมอาเซียนที่พัทยา
15.เชื่อหรือไม่ว่าเขาไม่ได้อยู่เบื้องหลังกองคาราวาน เคลื่อนขบวนไปรบกวนคนกรุงเทพที่ผ่านมา
16.เชื่อหรือไม่ว่าไม่ว่าไม่ได้อยู่เบื้องหลังในการใช้อาวุธสงคราม ในการแก้ปัญหาทำให้ทหารบาดเจ็บล้มตาย
17.เชื่อหรือไม่ที่บอกส.ส.ภายใต้คอนโทรลของเขา จะเป็นส.ส.ที่ไม่อยู่ภายใต้เผด็จการของเขา และจะมีอิสระทางความคิด
18.เชื่อหรือไม่ที่เขาบอกหากพลาดพลั้งต้องโทษอีก จะไม่หนีคดีไปต่างประเทศอีก
19.เชื่อหรือไม่ที่บอกหากถูกคดีอาญาอีก จะไม่กล่าวหาว่ามี อำมาตย์หรือมือที่มองไม่เห็น อยู่เบื้องหลัง
20.เชื่อหรือไม่ที่บอกว่า เขาจะจงรักภักดิดี และจะไม่บั่นทอนสถาบันให้อยู่ใต้อำนาจของเขา จะไม่ทำตัวเหมือนฮุนเซน

พล.ร.ท.ประทีป กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามเมื่อไม่เชื่อระบอบทักษิณ แล้ว คราวนี้มาดูการบริหารของระบอบประชาธิปัตย์บ้างว่า สมควรเป็น ส.ส.ในสภาหรือไม่

1.ชื่อหรือไม่ ประชาธิปัตย์ บอกจะฟังทุกเสียงไม่ว่าจะหนึ่งเสียง
2.ชื่อหรือไม่ ประชาธิปัตย์ บอกทั้งเหลืองและแดงเป็นภัยต่อประเทศ
3.ชื่อหรือไม่ ประชาธิปัตย์ บอกขอเสนอสามข้อของพันธมิตรฯ เป็นภัยต่อบ้านเมือง
4.เชื่อหรือไม่ ประชาธิปัตย์ บอก 7คนไทยถูกจับในพื้นที่กัมพูชา
5.ชื่อหรือไม่ ประชาธิปัตย์ บอกคนไทยที่ถูกจับกุมเป็นความคิดที่ถูกต้อง
6.ชื่อหรือไม่ ประชาธิปัตย์ มีความบริสุทธิ์ต่อกรณีที่ดิน สปก.
7.เชื่อหรือไม่ การจัดซื้อจัดหารถถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คันภายใต้การดูแลของประชาธิปัตย์ เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม
8.เชื่อหรือไม่ ไม่มีนอกมีในสำหรับโครงการถนนไร้ฝุ่น ของพรรคภูมิใจไทย
9.เชื่อหรือไม่ประชาธิปัตย์ ไม่เคยบอกไม่เคยบอกว่า "ไม่เลือกเรา เขามาแน่"
10.เชื่อหรือไม่ นโยบายปรองดองที่ประชาธิปัตย์ให้ นายสนั่น เป็นหัวเรือใหญ่ไปประกันตัวเสื้อแดง เป็นแผนปรองดองที่มีคุณค่า

พล.ร.ท.ประทีป กล่าวว่าเมื่อไม่เลือกทั้งเพื่อไทยและประชาธิปัตย์ หากจะถามว่าโหวตโน ดีอย่างไร นั้น

1.โหวตโน คือ การเลือกคนดีให้เข้ามาปกครองบ้านเมือง ป้องกันไม่ให้คนไม่ดีเข้ามามีอำนาจ
2.โหวตโน คือ ไม่เลือกทั้งคนเลวมากและเลวน้อย
3.โหวตโน คือ เป็นเครื่องมือสร้างแรงกดดันและควบคุมพฤติกรรมของนักการเมือง
4.โหวตโน คือ ปฎิเสธโครงสร้างการเมืองที่เลวร้าย
5.โหวตโน คือ ไม่จำยอมต่อนักการเมืองชั่วปัจจุบัน
6.โหวตโน คือ การไม่ยอมรับ ให้หนึ่งคะแนนเสียงของเราไปร่วมทำร้ายบ้านเมืองด้วยฝีมือนักการเมืองเลว
7.โหวตโน คือ ทำให้สามารถบอกนักการเมืองในสภาฯ อย่าอ้างว่าเป็นตัวเทนประชาชน
8.โหวตโน คือ เสียงที่มีสิทธิ์เรียกร้องให้เกิดการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทย
9.โหวตโน คือ เครื่องมือเตือนสตินักการเมืองอย่าทำชั่ว
10.โหวตโน คือ สัญญาณบอกสังคมให้เดินหน้าเปลี่ยนแปลงสังคมให้ดีขึ้น
11.โหวตโน คือ การใช้สิทธิอันชอบธรรมตาม มาตรา 67และมาตรา 72
12.โหวตโน คือ การบอกว่าเราไม่เลือกทั้งคนเผาบ้าน และคนปล่อยให้เผาบ้าน
13.โหวตโน คือ การไม่เลือกนักการเมืองที่ยกแผ่นดินให้กัมพูชา และปล่อยให้กัมพูชายึดแผ่นดินไทย
14.โหวตโน คือ การต่อต้านนโยบายประชานิยมของทุกพรรค ที่ประมูลซื้อสิทธิ์ ซื้ออำนาจอธิปไตย อำนาจรัฐ มาครอบงำประชาชนให้อ่อนแอโดยไม่รู้ตัว ทำให้ประชาชนจะตกเป็นธาตุในเรือนเบี้ยของนักการเมือง


กำลังโหลดความคิดเห็น