ที่ประชุม กกต.มีมติเสียงข้างมาก แจกใบแดง “บุญจง” จัดเลี้ยงเลือกตั้งซ่อมโคราชย้อนหลังปี 53 เตรียมยื่นศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งวินิจฉัย
วันนี้ (23 ส.ค.) นายสมชัย จึงประเสริฐ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้เปิดเผยว่า ที่ประชุม กกต.มีมติ 3 ต่อ 2 เสียงให้ใบแดงนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ส.ส.จังหวัดนครราชสีมา ในข้อหาจัดเลี้ยง ซึ่งขั้นตอนต่อไปจากนี้ กกต.จะต้องส่งเรื่องไปยังศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งเพื่อพิจารณาคำวินิจฉัย ซึ่งหากศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งมีมติเห็นด้วยกับ กกต.ก็จะต้องสงเรื่องให้ประธานสภาให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยต่อไป
ด้าน นายโคทม อารียา อดีต กกต.กล่าวว่า สถานะของนายบุญจงจะต้องรอให้ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งพิพากษาความผิด หากเป็นผิดทางอาญาต้องมีโทษจำคุกนายบุญจง และนายบุญจงจะต้องพ้นสถานนะความเป็น ส.ส. และหากว่ามีความผิดทางด้านการเมือง ก็ต้องถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี ทั้งนี้ กรณีของนายบุญจงยังไม่ถือว่าคดีหมดอายุความ แม้ว่าจะผ่านพ้นรัฐบาลในชุดของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ที่นายบุญจงร่วมรัฐบาลไปแล้วก็ตาม แต่คดีก็ยังคงจะต้องดำเนินต่อไปว่า ส่วนจะมีการยุบพรรคภูมิใจไทยหรือไม่นั้น เนื่องจากนายบุญจงมีตำแหน่งเป็นถึงรองหัวหน้าพรรค ซึ่งอาจจะเข้าข่ายถึงขั้นยุบพรรคหรือไม่ คงจะต้องดูสำนวนของ กกต.ว่า กกต.จะฟ้องเอาผิดกับนจายบุญจงในฐานะที่เป็นรองหัวหน้พรรคหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีของนายบุญจงที่ กกต.ให้ใบแดง เป็นกรณีที่เป็นการเลือกตั้งซ่อมเขตเลือกตั้งที่ 6 (เดิม) จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. 2553 ที่ผ่านมา และนายบุญได้รับเลือกตั้งเข้าอีกครั้ง แต่มีการเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการจัดเลี้ยง ซึ่ง กกต.ได้มีการพิจารณาสำนวนการร้องเรียน แต่กกต.ได้มีการกระกาศรับรองนายบุญจงให้เป็น ส.ส.ไปก่อน จากนั้นจึงได้มีการพิจารณาสำนวนร้องเรียนดังกล่าวอีก จนกระทั่ง กกต.มีมติให้ใบแดง แต่การให้ใบแดงของ กกต.ในครั้งนี้ จะต้องส่งให้ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งเป็นวินิจฉัย
เนื่องจากเป็นการพิจารณาหลังการรับรองผลการเลือกตั้งไปแล้ว ซึ่งเป็นตามขั้นตอนของกฎหมาย และเมื่อศาลฎีกาได้มีคำตัดสินว่านายบุญจงได้ทำผิดตามกฎหมายเลือกตั้ง อาจจะต้องส่งให้นายบุญจงถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ทำให้นายบุญจงพ้นจากสมาชิกภาพความเป็น ส.ส. อย่างไรก็ตาม การสั่งเลือกตั้งใหม่จะถูกจำหน่าย เพราะสภาชุดที่ผ่านมาได้สิ้นสุดลง แต่เมื่อนายบุญจงได้พ้นจากความเป็นสมาชิกภาพการเป็น ส.ส. ทำให้ตำแหน่งของนายบุญจงว่างลง และจะต้องดำเนินการเลือกตั้งใหม่
