บทความนี้เขียนในสถานการณ์ที่คณะกรรมการเลือกตั้งยังไม่ประกาศรับรองชื่อ และกระแสข่าวอื่นๆ ที่ไม่เป็นมงคลกับตัวคุณยิ่งลักษณ์ ดูจะทำให้เธอถูกต้อนให้เข้ามุมอับมากยิ่งขึ้น จนน่าเห็นใจว่าเธอจะทนแรงเสียดทานนี้ไปได้นานเท่าใด และหลายฝ่ายเกรงกันว่าหากครบ ๓๐ วัน แล้วยังไม่มีการรับรองชื่อและว่าจะมีการเปลี่ยนตัวนายกฯ กันหรือไม่ เพราะพูดกันมากว่าจะเป็น นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ขึ้นมาเป็นแทน แม้เรื่องนี้จะได้รับการปฏิเสธไปแล้ว แต่มันยังมีปัญหาเรื่อง ๓๐ วันอยู่ ทำให้เกรงกันว่าถ้าเป็นอย่างนั้นจะหาทางออกกันอย่างไรจึงจะรอดพ้นวิกฤตไปได้
กระนั้นก็ตาม ยังมีความคิดในหมู่นักการเมืองแกนนำของพรรคเพื่อไทยว่า ปัญหาคุณยิ่งลักษณ์นั้นอาจจะผ่านพ้นไปได้โดยไม่ยากนัก เพราะหลักฐานต่างๆ นั้นล้วนแต่ไม่ปรากฏแน่ชัดหรือว่าจะเป็นไปแล้ว ก็ข้อสงสัยก็หาเป็นไปตามที่กล่าวหาไม่ อีกทั้งประเด็นต่างๆ ก็ล้วนแต่อธิบายได้ทั้งหมด
เพื่อให้ภาพลักษณ์ดูดี คณะทูตต่างๆ ยังคงแวะมาแสดงความยินดีกับว่าที่นายกฯ คนใหม่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งนอกจากจะเป็นการเสริมความเชื่อมั่นแล้ว ยังชี้ว่ายามยากลำบากเธอก็ยังมีกำลังใจจากมิตรต่างประเทศที่เข้าใจสถานการณ์ได้ดี มาเยี่ยมเยียนเสริมบารมีอยู่เสมอ
กระนั้นก็ตาม สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ช่วยให้เธอพ้นจากความย่ำแย่ที่ประดังเข้ามาในขณะนี้เลย
ยังมีปัญหาที่เผชิญอยู่คือ เรื่องที่ฟ้องร้องกันว่าทักษิณเข้ามาเกี่ยวข้องกับการหาเสียงให้พรรคเพื่อไทยหรือพรรคเพื่อไทยนำเอาทักษิณมาหาเสียง เช่น ใช้สโลแกนที่บ่งบอกว่า ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ แต่เรื่องนี้พรรคเพื่อไทยร้อนตัวมาก ต้องออกมาชี้แจงว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับทักษิณเลย เพราะนโยบายเป็นเรื่องของคณะกรรมการบริหารพรรคจะพิจารณาเท่านั้น ทักษิณนั้นมาเกี่ยวข้องไม่ได้ ข้อกล่าวหาที่ว่าทักษิณเป็นเพียงสโลแกนเพื่อโฆษณาหาเสียงเท่านั้นและไม่มีอะไรนอกเหนือไปกว่านี้
กล่าวให้ตรงตัวแล้ว ข้อกล่าวหาเหล่านี้พุ่งตรงเข้ามาเอาผิดต่อยิ่งลักษณ์ทั้งสิ้น
ปัญหาอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้ยิ่งลักษณ์และพรรคเพื่อไทยดูจะยิ่งแย่ก็คือ การที่ กกต.แขวนว่าที่สส.พรรคเพื่อไทยอีกจำนวนมาก โดยยังไม่บอกเหตุผลอย่างชัดเจน และในจำนวนนี้มีแกนนำเสื้อแดงรวมอยู่ด้วย โดยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ว่า ตนกับ นพ.เหวง นายก่อแก้ว นายจตุพร และนายวิภูแถลง แม้จะเคยถูกคุมขังแต่ก็ยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์เพราะยังไม่มีคำตัดสินจากศาล และชัดเจนว่าไม่ขัดต่อการเป็นสมาชิกพรรค และตอนที่พวกตนไปสมัครรับเลือกตั้ง กกต.ก็รับรองคุณสมบัติกันหมด จะมากลับคำกันในภายหลังไม่ได้ และพวกตนก็ไม่ได้คิดจะนำมวลชนเสื่อแดงมากดดันแต่อย่างใด
โดยสรุปกลุ่มแกนนำคนเสื้อแดงก็ทำให้ยิ่งลักษณ์ยิ่งมีปัญหายิ่งแย่ไปด้วยอย่างเลี่ยงไปไม่ได้ เพราะชะตากรรมของคนเหล่านี้ย่อมกระทบกระเทือนไปถึงพรรคเพื่อไทยด้วย
ในส่วนของสำนักกฎหมายพรรคที่ได้เตรียมข้อมูลเพื่อนำไปชี้แจงต่อ กกต. ในเรื่องของยิ่งลักษณ์ที่ถูกแขวนขณะที่ยังไม่มีหนังสือจาก กกต. นั้น ทางฝ่ายกฎหมายเห็นว่า เท่าที่ทราบได้มีผู้ถูกตัดสิทธิทางการเมืองไปช่วยหาเสียง ช่วยปราศรัยและปกติ พ.ร.บ.พรรคการเมืองระบุห้ามผู้ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเฉพาะตั้งพรรคการเมืองหรือมีตำแหน่งบริหารภายในพรรคเท่านั้น นอกเหนือจากนั้นก็ไม่ได้ห้าม ทำให้เกิดความสับสนในกิจกรรมอื่น
เมื่อสำนักกฎหมายของพรรคเพื่อไทยออกมาชี้แจงเช่นนี้ ก็ช่วยแก้ปัญหาให้กับยิ่งลักษณ์ได้บ้าง แต่ใช่ว่าปัญหาจะมีอยู่แค่นี้
เพราะนอกจากเรื่องการเมืองและเรื่องทางกฎหมายแล้ว ยังมีเรื่องทางนโยบายเศรษฐกิจและโครงการประชานิยมที่ยิ่งลักษณ์ถูกโจมตีอยู่บ่อยๆ ว่าหากทำไปจะไม่เกิดผลดี ซ้ำบางโครงการทำไม่ได้หรือถ้าทำได้ก็จะเกิดผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวม
โดยเฉพาะเสียงตอบรับเรื่องขึ้นค่าแรงขั้นต่ำวันละ ๓๐๐ บาท
ประธานสภาอุตสาหกรรมออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ไม่เห็นด้วยและว่ายิ่งลักษณ์ต้องปรับเปลี่ยนนโยบายนี้เพราะจะกระทบต่อผู้ประกอบการและระบบเศรษฐกิจของประเทศอย่างมาก
เขากล่าวว่า ค่าแรงควรปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด และคาดว่าค่าแรงจะขึ้นไปถึง ๓๐๐ บาทต่อวัน ก็ต้องใช้เวลาอีก ๓ ถึง ๔ ปีข้างหน้า และควรให้คณะกรรมการไตรภาคีพิจารณากำหนดค่าแรงขั้นต่ำที่เหมาะสมโดยปราศจากการแทรกแซงหรือกดดันจากภาครัฐ
พูดง่ายปล่อยให้เป็นไปตามเดิมนั่นแหละดีแล้ว
แต่หากยิ่งลักษณ์ยืนยันจะทำให้ได้ก็ต้องหาทางชดเชยส่วนต่างให้กับผู้ประกอบการเพื่อบรรเทาผลกระทบที่จะเกิดขึ้น
ครับ....นี่คือข้อต่อรองจากผู้ประกอบการ
กกต.จะพิจารณาเรื่องการแขวนยิ่งลักษณ์และอภิสิทธิ์ในวันที่ ๑๙ กรกฎาคมนี้แล้ว แต่ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร ผลของมันไม่ทำให้ยิ่งลักษณ์สบายมากไปกว่านี้ แต่ภาระหน้าที่จะตกหนักกว่ากับเธอในเรื่องการสรรหาคนที่จะมาเป็นคณะรัฐมนตรีซึ่งเป็นเรื่องใหญ่และมีปัญหาทั้งในพรรคและในพรรคร่วมรัฐบาลด้วย
เธอจะแสดงความเป็นผู้นำได้ดีแค่ไหน ก็ต้องดูไปหลังประกาศตั้งครม.เสร็จสิ้นแล้วนี้แหละครับ
กระนั้นก็ตาม ยังมีความคิดในหมู่นักการเมืองแกนนำของพรรคเพื่อไทยว่า ปัญหาคุณยิ่งลักษณ์นั้นอาจจะผ่านพ้นไปได้โดยไม่ยากนัก เพราะหลักฐานต่างๆ นั้นล้วนแต่ไม่ปรากฏแน่ชัดหรือว่าจะเป็นไปแล้ว ก็ข้อสงสัยก็หาเป็นไปตามที่กล่าวหาไม่ อีกทั้งประเด็นต่างๆ ก็ล้วนแต่อธิบายได้ทั้งหมด
เพื่อให้ภาพลักษณ์ดูดี คณะทูตต่างๆ ยังคงแวะมาแสดงความยินดีกับว่าที่นายกฯ คนใหม่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งนอกจากจะเป็นการเสริมความเชื่อมั่นแล้ว ยังชี้ว่ายามยากลำบากเธอก็ยังมีกำลังใจจากมิตรต่างประเทศที่เข้าใจสถานการณ์ได้ดี มาเยี่ยมเยียนเสริมบารมีอยู่เสมอ
กระนั้นก็ตาม สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ช่วยให้เธอพ้นจากความย่ำแย่ที่ประดังเข้ามาในขณะนี้เลย
ยังมีปัญหาที่เผชิญอยู่คือ เรื่องที่ฟ้องร้องกันว่าทักษิณเข้ามาเกี่ยวข้องกับการหาเสียงให้พรรคเพื่อไทยหรือพรรคเพื่อไทยนำเอาทักษิณมาหาเสียง เช่น ใช้สโลแกนที่บ่งบอกว่า ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ แต่เรื่องนี้พรรคเพื่อไทยร้อนตัวมาก ต้องออกมาชี้แจงว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับทักษิณเลย เพราะนโยบายเป็นเรื่องของคณะกรรมการบริหารพรรคจะพิจารณาเท่านั้น ทักษิณนั้นมาเกี่ยวข้องไม่ได้ ข้อกล่าวหาที่ว่าทักษิณเป็นเพียงสโลแกนเพื่อโฆษณาหาเสียงเท่านั้นและไม่มีอะไรนอกเหนือไปกว่านี้
กล่าวให้ตรงตัวแล้ว ข้อกล่าวหาเหล่านี้พุ่งตรงเข้ามาเอาผิดต่อยิ่งลักษณ์ทั้งสิ้น
ปัญหาอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้ยิ่งลักษณ์และพรรคเพื่อไทยดูจะยิ่งแย่ก็คือ การที่ กกต.แขวนว่าที่สส.พรรคเพื่อไทยอีกจำนวนมาก โดยยังไม่บอกเหตุผลอย่างชัดเจน และในจำนวนนี้มีแกนนำเสื้อแดงรวมอยู่ด้วย โดยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ว่า ตนกับ นพ.เหวง นายก่อแก้ว นายจตุพร และนายวิภูแถลง แม้จะเคยถูกคุมขังแต่ก็ยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์เพราะยังไม่มีคำตัดสินจากศาล และชัดเจนว่าไม่ขัดต่อการเป็นสมาชิกพรรค และตอนที่พวกตนไปสมัครรับเลือกตั้ง กกต.ก็รับรองคุณสมบัติกันหมด จะมากลับคำกันในภายหลังไม่ได้ และพวกตนก็ไม่ได้คิดจะนำมวลชนเสื่อแดงมากดดันแต่อย่างใด
โดยสรุปกลุ่มแกนนำคนเสื้อแดงก็ทำให้ยิ่งลักษณ์ยิ่งมีปัญหายิ่งแย่ไปด้วยอย่างเลี่ยงไปไม่ได้ เพราะชะตากรรมของคนเหล่านี้ย่อมกระทบกระเทือนไปถึงพรรคเพื่อไทยด้วย
ในส่วนของสำนักกฎหมายพรรคที่ได้เตรียมข้อมูลเพื่อนำไปชี้แจงต่อ กกต. ในเรื่องของยิ่งลักษณ์ที่ถูกแขวนขณะที่ยังไม่มีหนังสือจาก กกต. นั้น ทางฝ่ายกฎหมายเห็นว่า เท่าที่ทราบได้มีผู้ถูกตัดสิทธิทางการเมืองไปช่วยหาเสียง ช่วยปราศรัยและปกติ พ.ร.บ.พรรคการเมืองระบุห้ามผู้ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเฉพาะตั้งพรรคการเมืองหรือมีตำแหน่งบริหารภายในพรรคเท่านั้น นอกเหนือจากนั้นก็ไม่ได้ห้าม ทำให้เกิดความสับสนในกิจกรรมอื่น
เมื่อสำนักกฎหมายของพรรคเพื่อไทยออกมาชี้แจงเช่นนี้ ก็ช่วยแก้ปัญหาให้กับยิ่งลักษณ์ได้บ้าง แต่ใช่ว่าปัญหาจะมีอยู่แค่นี้
เพราะนอกจากเรื่องการเมืองและเรื่องทางกฎหมายแล้ว ยังมีเรื่องทางนโยบายเศรษฐกิจและโครงการประชานิยมที่ยิ่งลักษณ์ถูกโจมตีอยู่บ่อยๆ ว่าหากทำไปจะไม่เกิดผลดี ซ้ำบางโครงการทำไม่ได้หรือถ้าทำได้ก็จะเกิดผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวม
โดยเฉพาะเสียงตอบรับเรื่องขึ้นค่าแรงขั้นต่ำวันละ ๓๐๐ บาท
ประธานสภาอุตสาหกรรมออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ไม่เห็นด้วยและว่ายิ่งลักษณ์ต้องปรับเปลี่ยนนโยบายนี้เพราะจะกระทบต่อผู้ประกอบการและระบบเศรษฐกิจของประเทศอย่างมาก
เขากล่าวว่า ค่าแรงควรปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด และคาดว่าค่าแรงจะขึ้นไปถึง ๓๐๐ บาทต่อวัน ก็ต้องใช้เวลาอีก ๓ ถึง ๔ ปีข้างหน้า และควรให้คณะกรรมการไตรภาคีพิจารณากำหนดค่าแรงขั้นต่ำที่เหมาะสมโดยปราศจากการแทรกแซงหรือกดดันจากภาครัฐ
พูดง่ายปล่อยให้เป็นไปตามเดิมนั่นแหละดีแล้ว
แต่หากยิ่งลักษณ์ยืนยันจะทำให้ได้ก็ต้องหาทางชดเชยส่วนต่างให้กับผู้ประกอบการเพื่อบรรเทาผลกระทบที่จะเกิดขึ้น
ครับ....นี่คือข้อต่อรองจากผู้ประกอบการ
กกต.จะพิจารณาเรื่องการแขวนยิ่งลักษณ์และอภิสิทธิ์ในวันที่ ๑๙ กรกฎาคมนี้แล้ว แต่ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร ผลของมันไม่ทำให้ยิ่งลักษณ์สบายมากไปกว่านี้ แต่ภาระหน้าที่จะตกหนักกว่ากับเธอในเรื่องการสรรหาคนที่จะมาเป็นคณะรัฐมนตรีซึ่งเป็นเรื่องใหญ่และมีปัญหาทั้งในพรรคและในพรรคร่วมรัฐบาลด้วย
เธอจะแสดงความเป็นผู้นำได้ดีแค่ไหน ก็ต้องดูไปหลังประกาศตั้งครม.เสร็จสิ้นแล้วนี้แหละครับ