xs
xsm
sm
md
lg

"สุรวิทย์" ป้อง"วิม"ไม่เชื่อผลสอบสภาการฯ อีเมล์ซื้อสื่อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

 นพ.สุรวิทย์  คนสมบูรณ์
รมต.สำนักนายกฯ ไม่เชื่อ ผลสอบสภาการหนังสือพิมพ์ กรณีอีเมล์ “เพื่อไทย” ซื้อสื่อฯ บอกไม่สร้างแรงเสียดทานต่อพรรค มั่นใจ สื่อมีศักดิ์ศรีทุกคน ป้อง"วิม"ถูกป้ายสี จ้องโชว์ผลงานชิ้นแรก ซ่อมห้องน้ำ หลังนายกฯ มอบหมายให้กำกับดูแลสื่อ ระบุ ไม่ปิดกั้นเปิดพื้นที่สื่อให้ฝ่ายค้าน ปัดรัฐแก้รธน.ช่วย “ทักษิณ” เผยยิ่งลักษณ์สนใจออกรายการนายกฯ พบประชาชน แต่ยังสรุปวันเวลาไม่ได้

วันนี้ (19 ส.ค.) นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีสภาการหนังสือพิมพ์ฯ ระบุผลตรวจสอบข้อเท็จจริงการส่งอีเมล์ของนักการเมืองที่ระบุการให้เงินและผลประโยชน์แก่ผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชน ว่า ไม่เชื่อว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องจริง และตนได้สอบถามความจริงจากนายวิม รุ่งวัฒนจินดา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยแล้ว ซึ่งนายวิมยืนยันว่าไม่ได้ทำอย่างที่เป็นข่าว ทั้งนี้ ทราบว่าทางสภาการหนังสือพิมพ์ฯได้พิจารณาเรื่องนี้ แต่ตนยังคิดว่าเมื่อได้ซักถามนายวิม และนายวิมไม่ได้ทำอะไรผิด ก็ไม่น่ากังวลอะไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากเรื่องดังกล่าวไปถึงศาลรัฐธรรมนูญจริง ทางพรรคมีข้อมูลและหลักฐานที่จะไปชี้แจงเพื่อแก้ข้อกล่าวหานี้อย่างไร นพ.สุรวิทย์ กล่าวว่า ตนไม่ได้ลงลึกขนาดนั้น เพียงแต่สอบถามว่าไม่ได้ทำอย่างที่เป็นข่าว และคิดว่าเรื่องนี้คงไม่มีปัญหาอะไร เมื่อถามต่อว่า แต่จากผลสรุปการสอบ จะสรุปในลักษณะที่ว่าผิดในแง่ของจริยธรรมแต่ในเรื่องของหลักฐานที่จะนำไปสู่การกระทำความผิดนั้นไม่มี ส่วนนี้จะสร้างแรงเสียดทานไปยังพรรคเพื่อไทยได้หรือไม่ นพ.สุรวิทย์ กล่าวว่า ไม่น่าจะขนาดนั้น เพราะปกติแล้วพรรคเพื่อไทยรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้เน้นเรื่องการปราศรัยหาเสียง จะเห็นได้ว่าการรณรงค์หาเสียงครั้งนี้มีพรรคการเมืองเดียวที่หาเสียงโดยการรณรงค์ปราศรัย ทั้งปราศรัยใหญ่ ปราศรัยกลาง และปราศรัยย่อย ซึ่งในช่วงที่ตนลงสมัครอยู่นั้น ก็รู้ว่าคู่แข่งไม่ได้หนักหนาสาหัส แต่ก็ลงพื้นที่ปราศรัยครบทุกหมู่บ้านทุกคนเน้นนโยบายอย่างนี้ ตนในฐานะที่เป็นเลขานุการส.ส.ภาคอีสานพรรคเพื่อไทย ได้รับทราบนโยบายจากพรรคและไปพูดคุยกับผู้สมัครเกือบทุกเขตในภาคอีสาน ว่าเราเน้นการเดินพบปะพี่น้องประชาชนและการปราศรัย รวมทั้งกับย้ำว่าให้อยู่ในกรอบของกฎหมาย

เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้ พรรคเพื่อไทย มีนโยบายเอื้อประโยชน์ให้สื่อ เนื่องจากจะให้สื่อช่วยประชาสัมพันธ์และเชียร์ในช่วงการเลือกตั้ง นพ.สุรวิทย์ กล่าวปฏิเสธว่า ไม่มี ตนเชื่อว่าพี่น้องสื่อมวลชนเองก็มีศักดิ์ศรีกันทุกคน ทุกฉบับและคงไม่ทำอย่างนั้น พรรคเพื่อไทยเองก็เน้นกรอบของกฎหมาย ตนเชื่อว่าใครจะมาใส่ร้ายอะไร หรือพูดอะไรอย่างไร ก็ไม่หนักใจ เพราะเชื่อว่าเรื่องนี้นายวิมไม่ได้ทำตามที่ถูกกล่าวหา

เมื่อถามว่า ในช่วงที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น จะถูกโจมตีในเรื่องของการกำหนดทิศทางกับการแลกโฆษณา และสนับสนุนด้านการตลาด เรื่องแบบนี้จะกลับมาถูกวิพากษ์วิจารณ์อีกหรือไม่ นพ.สุรวิทย์ กล่าวว่า ตนไม่ได้ยินอย่างนั้นและไม่ได้ฟังว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ทำแบบนั้น โดยเฉพาะในชุดนี้ ยุคนี้ คงไม่มีสิ่งใดที่เป็นลักษณะที่ไม่ถูกต้องเช่นนั้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า แล้วในส่วนนโยบายของท่านเองนั้นจะให้สิทธิเสรีภาพกับสื่อมวลชนอย่างไร นพ.สุรวิทย์ กล่าวว่า ตอนนี้ตนเองนั้นยังไม่ได้รับมอบหมายอย่างเป็นทางการว่าให้ดูแลสื่อ เพียงแต่ทางผู้ใหญ่พูดไว้เพียงเบื้องต้น แต่ถ้าตนได้เป็นผู้กำกับดูแลสื่อจริง ตนต้องการให้สื่อมวลชนทุกแขนงได้ทำหน้าที่อย่างมีเสรี โดยมีกรอบที่ทุกคนยอมรับว่าในแนวทางสร้างสรรค์จะเป็นประโยชน์กับประเทศชาติ ในแนวทางที่สร้างความปรองดองสามัคคี ข้อมูลความจริงมีทุกคน สามารถ ปรากฏไปในแนวทางสร้างสรรค์ และแนวทางสร้างความสงบสามัคคีเป็นประโยชน์กับประเทศชาติ ตนจะเน้นกรอบในเรื่องนี้

เมื่อถามว่า ในส่วนของนายกรัฐมนตรี เรื่องของการสนับสนุนการทำหน้าที่ของสื่อ นายกรัฐมนตีได้บอกอะไรหรือไม่ นพ.สุรวิทย์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรียังไม่ได้บอกอะไร เพราะว่าตนยังไม่ได้รับมอบหมายงาน แต่ตนคิดเองและเตรียมในใจว่าถ้ามีโอกาสได้เข้ามาดูแลจริง ตนจะสอบถามสื่อเองว่ามีอะไรที่ทางภาคราชการจะเข้ามาสนับสนุนได้ ทั้งเรื่องสถานที่ เรื่องอุปกรณ์ เครื่องไม้เครื่องมือที่จะอำนวยความสะดวก โดยเฉพาะวันแรกที่ตนผ่านมานั้น ได้ยินว่าห้องน้ำไม่ดี และจากการสอบถามทราบว่ากำลังจะมีการซ่อมใหญ่ และคิดว่านี่จะเป็นงานแรกที่ทำ

เมื่อถามว่า หากได้มีการกำกับดูแลสื่อจริงนั้น เรื่องการเปิดพื้นที่ให้ฝ่ายค้านหรือกลุ่มที่มีความเห็นต่างจากรัฐบาล เพื่อให้พื้นที่ในการออกสื่อบ้างนั้น จะมีการทำในลักษณะนั้นหรือไม่ นพ.สุรวิทย์ กล่าวว่า เราไม่ปิดกั้น แต่ช่องทางของแต่ละฝ่ายที่จะทำนั้นสามารถทำได้ เมื่อถามว่า ต้องมีการระมัดระวังมากขึ้นหรือไม่ เพราะเมื่อเกิดอะไรขึ้นนิดหน่อย ฝ่ายค้านก็จะคอยจับตาแทบทุกเรื่อง นพ.สุรวิทย์ กล่าวว่า ระวังอยู่แล้ว เราต้องไม่ทำในสิ่งที่ออกไปผิดกรอบที่ควรจะเป็น

นายสุรวิทย์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยถูกจับตาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นการช่วยเหลือให้พ.ต.ท.ทักษิณ พ้นจากคดีความ นพ.สุรวิทย์ กล่าวว่า ทางรัฐบาลไม่ได้คิดอย่างนั้น เท่าที่มีในนโยบายเร่งด่วนนั้นคือ การสร้างให้ประชาชนมีส่วนร่วมในประชาธิปไตย ตนเชื่อว่าพี่น้องประชาชนหรือคนที่เข้ามาเป็นตัวแทนในเรื่องนี้คงไม่ได้เข้ามาทำเพื่อใครคนใดคนหนึ่ง คงทำเพื่อให้เกิดประชาธิปไตยในบ้านเมืองมากกว่า เมื่อถามต่อว่า รูปแบบการแก้ไขนั้น ที่จะให้เป็นประชาธิปไตย เป็นอย่างไร ไม่มีมาตรา 309 เรื่องยุบพรรค รวมทั้งโละองค์กรอิสระต่างๆ ที่ทำให้รัฐธรรมนูญปี 2550 ทำให้คดีความต่างที่พันธนาการอยู่หลุดออกไปหมด นพ.สุรวิทย์ กล่าวว่า ยังไม่ได้ลงลึกไปขนาดนั้น ขึ้นอยู่กับผู้ที่เป็นตัวแทนนั้นจะแก้กันอย่างไร ยังไม่ลงว่าจะเป็นมาตราไหนอย่างไร เพียงแต่ให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากที่สุด จะออกมาอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับตัวแทนของประชาชนที่เข้าไปทำ

เมื่อถามว่าเท่าที่ในพรรคหารือกันนั้น จะใช้ช่องทางแก้ มาตรา 291 เพื่อให้มีสสร.ขึ้นมา แก้ไขร่างรัฐธรรมนูญใหม่ หรือรูปแบบอย่างไร นพ.สุรวิทย์ กล่าวว่า คือยังไม่ได้คุยว่าจะขนาดนั้น เพียงแต่คุยว่าให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมเพื่อให้เกิดประชาธิปไตยที่ทุกคนส่วนใหญ่ยอมรับ

นพ.สุรวิทย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีรูปแบบของรายการนายกรัฐมนตรีพบประชาชน ว่า นายกรัฐมนตรียังไม่ได้สั่งการ รวมทั้งยังไม่มีชื่อรายการหรืออะไรเลย แต่เท่าที่พูดคุยนั้น ท่านได้ให้ความสนใจส่วนรูปแบบจะเป็นอย่างไร จะมีใครบ้าง จะออกอากาศสดหรือบันทึกเทป ท่านคงจะมีแนวคิด อย่างไรก็ตาม ในส่วนของรายการนายกฯ พบประชาชนนั้น ขณะนี้ท่านให้ความสนใจ แต่จะเริ่มเมื่อไหร่นั้น ยังไม่ทราบ
กำลังโหลดความคิดเห็น