“เหลิม” ชี้เหตุสภาวุ่นเพราะฝ่ายค้านเล่นนอกบท ย้ำชัดแก้มาตรา 291 แน่ พร้อมระบุ พท.จงรักภักดี 700 ล้านเปอร์เซ็นต์ ยันแถลงนโยบายจบแล้วไม่เลย 15 วัน ป้อง “ปู” มาบริหารบ้านเมือง ไม่ใช่การเมือง ปัดหนีสื่อซักเพราะกลัวตรวจสอบ ระบุไม่ใช่นายกฯ โพเดียม
วันนี้ (25 ส.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภาว่า โดยหลักการถือว่าเรียบร้อยดี แต่มีข้อสังเกตจากฝ่ายค้านที่มีข้อสงสัยว่าจะแก้รัฐธรรมนูญและมีเรื่องนิรโทษกรรมหรือไม่ ซึ่งตนอธิบายชัดเจนว่าจะแก้รัฐธรรมนูญแน่ เพราะได้หาเสียงกับประชาชนไว้ แต่เป็นการแก้ไขในมาตรา 291 เพื่อจัดตั้ง ส.ส.ร.ที่มีที่มาจากการเลือกตั้ง และหลังจากเมื่อมี ส.ส.ร.แล้วรายละเอียดเป็นอย่างไรต้องไปทำประชามติจากประชาชน โดยตนได้ยืนยันหลายครั้งว่าระบบบัญญัติรัฐธรรมนูญไม่สามารถนิรโทษกรรมได้ ประการที่สอง พวกตนขอยืนยันว่ามีความจงรักภักดี และไม่เคยคิดว่าคนอื่นไม่จงรักภักดี ข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนคือพรรคเพื่อไทยมีนายทหาร ตำรวจระดับสูงจำนวนมาก ประการที่สาม เรื่องการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งก็ยืนยันแล้วว่าไม่มีการแก้แน่นอน ประการที่สี่ เรื่องการเก็บภาษี ตนได้อธิบายความตามคำพิพากษาของศาลไปแล้วเรียบร้อย และประการที่ห้า ความปรองดองสมานฉันท์ ซึ่งผู้ที่เกี่ยวข้องก็ได้ชี้แจงไปแล้ว แต่ว่าการอภิปรายก็ซ้ำซาก
“สำหรับนโยบายหลักจริงๆ ที่รัฐบาลแถลงก็ไม่ค่อยวิพากษ์วิจารณ์ เรียกว่าวิจารณ์กันนอกบทเสียมากกว่า แต่ก็เป็นสิทธิของฝ่ายค้าน มันถึงทำให้ประท้วงกันจนชุลมุน ถ้าวิพากษ์วิจารณ์นโยบายที่แถลงก็ไม่มีปัญหา ผมคิดว่าการประชุมสภาวันนี้ (25 ส.ค.) คงจะดีขึ้น รวมทั้งอยากจะให้ฝ่ายค้านจบเสียทีกับเรื่องที่โจมตีเดิมๆ” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองอย่างไรที่ฝ่ายค้านพยายามหยิบยกเรื่องความจงรักภักดีต่อสถาบันมาอภิปราย ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า สมัยพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลก็พูดทำนองนี้ แต่ประชาชนไม่เชื่อ พวกตนจึงได้มา 265 ที่นั่ง นอกจากนี้ยังมีบางพรรคไปหาเสียงโดยโจมตีพวกตนว่าจะก่อตั้งรัฐไทยใหม่ ซึ่งพวกตนจงรักภักดีแน่นอนชัดเจนเจ็ดร้อยล้านเปอร์เซ็นต์ เมื่อถามว่าการทำหน้าที่ของประธานสภาถือว่าแข็งเกินไปหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ เปรียบเสมือนงูหางกระดิ่ง นิ่งเงียบ แม่นยำเรื่องข้อบังคับ
เมื่อถามว่า การแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาที่ไม่จบในคืนวันที่ 24 ส.ค.ทำให้เลยกรอบเวลา 15 วันตามรัฐธรรมนูญจะมีปัญหาทางกฎหมายหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า หลักการแถลงนโยบายสิ้นสุดลงเมื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ กล่าวนโยบายจบพร้อม “ขอบคุณค่ะ” แล้ว ซึ่งไม่ว่าฝ่ายค้านจะใช้เวลาอภิปรายต่อไปอีกกี่วัน หรือจะใช้เวลาถึง 3 เดือน ก็ไม่มีปัญหา อย่างสมัยนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกฯ ก็เคยใช้เวลาอภิปรายเลยกรอบเวลา 15 วัน ไปถึง 45 นาที ก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไร ที่สำคัญการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 176 เป็นแค่วาระเพื่อทราบ ไม่มีการลงมติ
ส่วนการแบ่งงานในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีนั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า นายกรัฐมนตรียังไม่ได้มีการมอบหมาย ต้องรอแถลงนโยบายเสร็จสิ้นเสียก่อน อย่างไรก็ตาม วันนี้ (25 ส.ค.) จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่สภา ซึ่งน่าจะมีการทราบว่ารองนายกรัฐมนตรีแต่ละคนจะมีหน้าที่รับผิดชอบอะไร แต่ในส่วนตนนั้นรับผิดชอบเรื่องยาเสพติดแน่นอนแล้วหนึ่งเรื่อง โดยจะนั่งเป็นผู้อำนวยการปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ
เมื่อถามว่าจะให้เวลารัฐบาลทำงานกี่เดือน ถึงจะประเมินได้ว่าสอบผ่านหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีเก่ง เข้ามาเพื่อบริหารบ้านเมือง แต่ท่านไม่คิดมาบริหารการเมือง โดยท่านจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ยาเสพติด ความแตกแยก ความเหลื่อมล้ำ การทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ความเสมอภาคของประชาชน
เมื่อถามว่ามีเสียงวิจารณ์ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หนีการตรวจสอบด้วยการไม่ตอบคำถามสื่อมวลชนรวมถึงฝ่ายค้านในสภาโดยหันไปใช้การเขียนข้อความในเฟซบุ๊คส่วนตัวแทน ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ได้ต้องการหนีการตรวจสอบ แต่ท่านเข้ามาบริหารบ้านเมือง ไม่ใช่บริหารการเมือง ที่สำคัญนายกฯ ได้มอบหมายตนใน ครม.ให้ชี้แจงแทนแล้ว เพราะนายกฯ มีงานมากมาย
เมื่อถามว่า จากนี้ไป น.ส.ยิ่งลักษณ์จะมอบหมายให้คนอื่นชี้แจงแทนทุกเรื่องหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า บางเรื่องท่านอาจชี้แจงเอง แต่บางเรื่องอาจมอบหมายให้คนอื่นชี้แจง เพราะท่านไม่ใช่นายกฯ โพเดียม เมื่อถามว่า ข้อสงสัยเรื่องการเอื้อประโยชน์ให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่เป็นพี่ชาย นายกฯ จะตอบด้วยตัวเองหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า “ฮึ่ย! ไม่มีหรอก ใครจะไปทำ”