สภาการหนังสือพิมพ์ฯ เตรียมส่งผลสอบกรณี “เพื่อไทย” ซื้อสื่อ ให้ นสพ.ที่ถูกพาดพิง 5 ฉบับ และผู้ถูกกล่าวหา 5 ราย รับทราบ พร้อมให้เวลาอีก 20 วัน ยื่นคัดค้าน และจะตั้งอนุกรรมการรับอุทธรณ์เพื่อแสวงหาข้อเท็จจริง-พยานหลักฐานเพิ่มเติม หากมีการคัดค้าน เผยยังไม่ได้วินิจฉัยความผิดของผู้ถูกกล่าวหา เพียงแต่ได้ดำเนินการตามขั้นตอนในธรรมนูญสภาการฯ
วันที่ 17 ส.ค.นายสุนทร จันทร์รังสี รองประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ทำหน้าที่แทนประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ เปิดเผยกรณีข่าวสรุปข้อเท็จจริงกรณีการส่งอีเมลของนักการเมือง ระบุการให้เงินและผลประโยชน์แก่ผู้ประกอบอาชีพสื่อมวลชน ของคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่สภาการหนังสือพิมพ์ฯ ตั้งขึ้นว่า หลังจากรับทราบรายงานดังกล่าวแล้ว ที่ประชุมสภาการฯ มีความเห็นให้ดำเนินการตามธรรมนูญสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติต่อไป
ทั้งนี้ ธรรมนูญสภาการหนังสือพิมพ์ข้อ 22 กำหนดว่า หลังจากคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง รายงานผลการศึกษาแล้ว จะต้องแจ้งให้กับต้นสังกัดทั้ง 5 ฉบับ และผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 5 ราย รับทราบภายใน 30 วัน ซึ่งผู้ที่ถูกพาดพิงยังมีสิทธิ์ยื่นคำคัดค้าน ภายใน 20 วัน หากเห็นว่า ยังมีพยานหลักฐานและเหตุผลอื่นที่ยังไม่ได้รับการพิจารณา โดยหากมีการร้องคัดค้านดังกล่าว สภาการหนังสือพิมพ์ฯ จะต้องตั้งคณะอนุกรรมการรับอุทธรณ์เพื่อดำเนินการแสวงหาข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเพิ่มเติม ก่อนที่จะนำเสนอสู่การพิจารณาของที่ประชุมสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติต่อไป
“สภาการหนังสือพิมพ์ฯ ยังไม่ได้วินิจฉัยความผิดของผู้ถูกกล่าวหา ว่า ผิดตามข้อกล่าวหาหรือไม่ เพียงแต่ได้ดำเนินการขั้นตอนตามธรรมนูญของสภาการหนังสือพิมพ์ฯ ตามที่ชี้แจงมาข้างต้นเท่านั้น และจะมีการพิจารณาเรื่องนี้ต่อไปในการประชุมของสภาการหนังสือพิมพ์ฯครั้งหน้าคือ วันที่ 13 ก.ย.” รองประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ กล่าวสรุป
วันที่ 17 ส.ค.นายสุนทร จันทร์รังสี รองประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ทำหน้าที่แทนประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ เปิดเผยกรณีข่าวสรุปข้อเท็จจริงกรณีการส่งอีเมลของนักการเมือง ระบุการให้เงินและผลประโยชน์แก่ผู้ประกอบอาชีพสื่อมวลชน ของคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่สภาการหนังสือพิมพ์ฯ ตั้งขึ้นว่า หลังจากรับทราบรายงานดังกล่าวแล้ว ที่ประชุมสภาการฯ มีความเห็นให้ดำเนินการตามธรรมนูญสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติต่อไป
ทั้งนี้ ธรรมนูญสภาการหนังสือพิมพ์ข้อ 22 กำหนดว่า หลังจากคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง รายงานผลการศึกษาแล้ว จะต้องแจ้งให้กับต้นสังกัดทั้ง 5 ฉบับ และผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 5 ราย รับทราบภายใน 30 วัน ซึ่งผู้ที่ถูกพาดพิงยังมีสิทธิ์ยื่นคำคัดค้าน ภายใน 20 วัน หากเห็นว่า ยังมีพยานหลักฐานและเหตุผลอื่นที่ยังไม่ได้รับการพิจารณา โดยหากมีการร้องคัดค้านดังกล่าว สภาการหนังสือพิมพ์ฯ จะต้องตั้งคณะอนุกรรมการรับอุทธรณ์เพื่อดำเนินการแสวงหาข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเพิ่มเติม ก่อนที่จะนำเสนอสู่การพิจารณาของที่ประชุมสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติต่อไป
“สภาการหนังสือพิมพ์ฯ ยังไม่ได้วินิจฉัยความผิดของผู้ถูกกล่าวหา ว่า ผิดตามข้อกล่าวหาหรือไม่ เพียงแต่ได้ดำเนินการขั้นตอนตามธรรมนูญของสภาการหนังสือพิมพ์ฯ ตามที่ชี้แจงมาข้างต้นเท่านั้น และจะมีการพิจารณาเรื่องนี้ต่อไปในการประชุมของสภาการหนังสือพิมพ์ฯครั้งหน้าคือ วันที่ 13 ก.ย.” รองประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ กล่าวสรุป