xs
xsm
sm
md
lg

“ผศ.ทวี” เชื่อ “ครม.ปู” ไร้เสื้อแดง แผนแบ่งงานกันทำรอสร้างรัฐไทยใหม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ผศ.ทวี” เตือนระวังเสื้อแดงแทรกซึมมวลชนแบบคอมมิวนิสต์ ส่วน “เพื่อไทย” จะทำงานสร้างภาพเพิ่มความนิยม จากนั้นจะยุบสภาเพื่อจะกวาด ส.ส.ให้มากกว่าเดิม พร้อมกับเอาบ้านเลขที่ 111 เข้ามา เชื่อถึงตอนนั้นจะดำเนินการสร้าง “รัฐไทยใหม่” ทันที ด้าน “ปานเทพ” ชี้ ครม.ไร้เสื้อแดงเพียงเพราะต้องการอยู่นานเพื่อไปถึงเป้าหมายที่ใหญ่กว่า พร้อมตั้งข้อสังเกต “ปู” ใช้นโยบายบาทแข็งทำให้เงินไหลเข้าเกร็งกำไร ส่งเสริมเจ้าพ่อตลาดหุ้นได้กำไรไปเต็มๆ แต่ภาคธุรกิจ-เกษตรกร มีแต่แย่


วันที่ 9 ส.ค. เวลาประมาณ 20.30 น. ผศ.ทวี สุรฤทธิกุล ประธานสาขารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัย และนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ร่วมพูดคุยในรายการ “คนเคาะข่าว” ถึงประเด็น ครม.ยิ่งลักษณ์ 1 โดยนายปานเทพกล่าวว่า การที่ประธานรัฐสภา และรัฐมนตรี ไม่ได้เป็นคนเสื้อแดง ไม่ใช่คนที่เคยจาบจ้วงสถาบันฯ แสดงว่า พ.ต.ท.ทักษิณ กำลังคิดในเบื้องต้นที่จะไม่เพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดการสั่นคลอนต่อรัฐบาลยิ่งลักษณ์

การที่ตั้งรัฐมนตรีที่ดูไม่โดดเด่น เนื่องจากปกติ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ชอบแต่งตั้งคนที่ใกล้เคียงตัวเอง และคนนั้นจะอยู่ได้ไม่นาน ยกตัวอย่างเคยตั้ง ดร.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ โพลก็บอกว่าจะได้เป็นนายกฯ คนต่อไป เขาก็จะเป็นคนแรกๆ ในการถูกกำจัดออกไป หรือนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ นายจาตุรนต์ ฉายแสง พอถึงช่วงที่มีอำนาจก็จะถูกจำกัดบทบาท

นายปานเทพกล่าวต่อว่า เขาวางตัวคนใกล้ชิดในหลายตำแหน่งเพื่อกระชับอำนาจได้ง่ายขึ้น อย่างกระทรวงการคลังตั้ง นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เป็นรัฐมนตรี เพื่อจัดการคดีความที่ค้างอยู่ที่กระทรวง หรือกระทรวงคมนาคมก็เป็นคนใกล้ชิดทั้งแผง แต่ก็มีบางตำแหน่งที่ตั้งเพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์ เช่น การตั้ง นายฐานิสร์ เทียนทอง เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย แสดงว่าให้ความสำคัญนายเสนาะ เทียนทอง ในฐานะตัวเชื่อมบูรพาพยัคฆ์ หรือนายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อตอบแทน พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ในการเป็นพรรคแรกๆที่ประกาศเข้าร่วมรัฐบาล

ส่วน พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก เป็น รมว.ยุติธรรม และพล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา เป็น รมว.กลาโหม ทั้งสองคนนี้มีท่าทีเป็นคนประนีประนอม แน่นอนเข้ามาสิ่งที่ต้องทำคือย้ายอธิบดี ดีเอสไอ เว้นเสียแต่ว่าพรรคเพื่อไทยต้องการกำจัดคนเสื้อแดง ซึ่งอาจเป็นฐานอำนาจมาท้าชิงอำนาจตัวเอง

นายปานเทพกล่าวอีกว่า การที่ ครม.ไม่เผชิญหน้าอย่างนี้ แสดงว่าไม่ต้องการเสี่ยง เพราะยังไม่มั่นใจว่ามีรัฐประหารหรือไม่ วัดไปเดือนเศษๆจะมีการโยกย้ายข้าราชการชุดใหม่ ตำแหน่งที่จะย้ายต่อไปต้องผ่านคณะกรรมการ ประกอบด้วย รมว.กลาโหม ปลัดกลาโหม ผู้บัญชาการกองทัพอากาศ ทัพเรือ ทัพบก ถือว่าเป็นบุคคลที่มีองค์ประกอบมากขึ้น ถ้ายังไม่แน่ใจว่าสามารถกระชับอำนาจอย่างสมบูรณ์เพื่อลดความเสี่ยงในการรัฐประหารแล้ว เชื่อว่าก็จะเลี้ยงเอาไว้เพื่อให้สถานการณ์ซึมลึกในเป้าประสงค์ตัวเองในอนาคต เป้าประสงค์ก็คือ 1. อยู่ให้นาน 2.เอา พ.ต.ท.ทักษิณกลับประเทศไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง

ผศ.ทวีกล่าวว่า ตนคิดว่าสิ่งสำคัญอยู่ที่กระบวนการทางรัฐสภาส่วนใหญ่ ฝ่ายนิติบัญญัติ ที่ต้องดำเนินการให้มีกฎหมายสำคัญๆ เพื่อเอาใจมวลชนฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามเพื่อให้เห็นว่าปรองดอง วิเคราะห์ว่ารัฐบาลนี้ต้องการสร้างภาพให้เหมือนว่าเขาไม่ได้มาทำอะไรรุนแรง เพื่อหล่อหลอมคนให้เชื่อว่าปรองดองจริง จากนั้นพยายามตะล่อมให้มาเป็นพวก แม้กระทั่งพันธมิตรฯก็ตาม อาจมีการนิรโทษกรรมให้ แล้วค่อยๆนิรโทษกรรมให้พวกเขาทีหลัง น่าจะเห็นผลชัดเจนในหนึ่งปีว่ากรณี พ.ต.ท.ทักษิณจะเอาอย่างไร นักกฎหมายวิเคราะห์ว่าน่าจะเป็น พ.ร.บ.นิรโทษกรรมผ่านทางรัฐสภา ซึ่งการผ่านกฎหมายมันก็ต้องให้ประชาชนในพื้นที่ต่างๆ เข้ามาหนุน ที่มีอยู่ยังไม่พอเพียง ต่อไปหากถึงขั้นทำประชามติถ้าเขามั่นใจว่าชนะก็จะทำเลย หลังตะล่อมหลายๆฝ่ายเข้ามาแล้ว จะไม่กระโชกโฮกฮากเหมือนสมัยนายสมัคร อันนี้ก็จะหลอกคนไทยยากเหมือนกัน ขึ้นอยู่กับว่าจะเข้ามาในรูปแบบไหน แต่คิดว่าไม่น่าจะเข้ามาโดยไม่มีความผิด แต่จะค่อยๆตั้งคนไปคุมส่วนต่างๆ เพื่อไปถ่ายเทให้เหมือนว่า พ.ต.ท.ทักษิณบริสุทธิ์ ถูกกลั่นแกล้ง

“มันมีกระแสว่าเขาอาจจะทำคุณงามความดีต่างๆ ไปก่อน ให้ความนิยมสูงขึ้นมากในปีหน้า พอใกล้มิถุนายน ตอนนั้นบ้านเลขที่ 111 จะหลุดพ้น ก็จะยุบสภาเพื่อเอาคนพวกนี้เข้ามา ยุบสภาตอนที่ความนิยมสูงเพื่อกวาด ส.ส.เข้ามาให้มากกว่าเที่ยวนี้ ซึ่งตรงนี้จะทำง่ายกว่า นั่นคือแผน 2 แผนแรกคือสร้างมวลชนสู่แผน 2 คือยุบสภา แต่ทักษิณยังไม่เข้ามาตอนนี้ ข้อมูลนี้มาจากฝ่ายความมั่นคง แล้วตอนนั้นรัฐไทยใหม่ เนปาลโมเดล ก็จะมาตอนนี้ จะมีการพลิกผันในบ้านเมืองเรา อันนี้ก็เป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วง เขามีทีมงานทำเรื่องนี้อยู่อย่างซึมลึก” ผศ.ทวีกล่าว

นายปานเทพกล่าวเสริมว่า เป็นไปได้สูงที่จะเอาบ้านเลขที่ 111 เข้ามา และเชื่อว่าการเริ่มต้นตอนนี้ต้องอยู่ให้นาน การเอาลูกนายเสนาะ และพลตรีสนั่น มาเป็นรัฐมนตรี ก็เพื่อสร้างสมดุลรักษาฐานอำนาจให้นานที่สุด สร้างกระแสนิยมให้มากสุดจนคนมองข้ามความผิดของทักษิณ ถ้าทุจริตก็จะแนบเนียนจนคนทั่วไปเข้าใจยาก บางอย่างก็จะสร้างกระแสว่าประสบความสำเร็จมากกว่าประชาธิปัตย์ เช่นความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา หรือดำเนินการมาตรการอื่นใดให้รู้สึกว่าแก้ปัญหาได้ดีกว่าประชาธิปัตย์ วิธีคิดแบบนี้คือสร้างความนิยมนำหน้าแล้วตลบที่หลังในการช่วยทักษิณ

ผศ.ทวีกล่าวว่า ตนคิดว่าเขาจะเลี้ยงดูเสื้อแดง อาจไม่ได้ส่งเสริมในทางบริหาร แต่เป็นไปในทางมวลชนต้องทุ่มเท อ่านจากที่นายวีระกานต์ (วีระ มุสิกพงศ์) ให้สัมภาษณ์ว่าเสื้อแดงต้องไปทำงานด้านอื่น แบ่งงานกันทำกับเพื่อไทย ตรงนี้จะทำให้เสื้อแดงเข้มแข็งยิ่งใหญ่ ระดับนายวีระพูดมาแสดงว่ามีสัญญาณให้ทำและทำได้ ต้องจับตาถ้าเสื้อแดงแทรกซึมไปยังหมู่บ้าน ชุมชน โรงเรียน เข้าไปเปลี่ยนแปลงในกลุ่มนักเรียน นักศึกษาอันนี้น่ากลัว เพราะเหมือนการแทรกซึมของคอมมิวนิสต์ในยุคก่อน เราอาจจะเห็นกลุ่มเสื้อแดงเคลื่อนไหวไม่ชัดเจน เพราะจับตามแต่ที่รัฐสภา แต่เสื้อแดงเข้าไปในรูปของพนักงานขาย หรือกลุ่มอะไรต่างๆที่เข้าไปให้สินเชื่อ เขาจะมีวิธีสร้างมวลชนแบบใหม่ ให้เชื่อมโยงกับนโยบายรัฐบาลเพื่อผูกมัดใจประชาชน

นายปานเทพกล่าวเพิ่มเติมว่า เป็นที่น่าสังเกต ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช ไม่ได้ตำแหน่งใดๆ แสดงให้เห็นว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ และพ.ต.ท.ทักษิณ มองตลาดหุ้นเป็นประเด็นหลักมากกว่าภาคการผลิตจริง (Real sector) เพราะดร.สุชาติ มีแนวคิดที่จะคง 3 อ.คือ ดอกเบี้ยอ่อน ภาษีอ่อน ค่าเงินอ่อน ค่าเงินอ่อนก็เพื่อช่วยเรื่องการส่งออก แต่ตนจับสัญญาณน.ส.ยิ่งลักษณ์ จากการเคยให้สัมภาษณ์ว่าจะใช้นโยบายค่าเงินบาทแข็ง เพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อ วิธีคิดอย่างนี้เหมือนเป็นข้ออ้างว่าจะแก้ปัญหาสินค้าแพงได้ แต่ทางปฏิบัติ การประกาศแบบนี้เป็นการส่งเสริมการเกร็งกำไรในตลาดหุ้นทันที หมายถึงทันทีที่ประกาศนโยบายค่าบาทแข็ง แสดงว่าดอกเบี้ยจะขึ้น เงินจากต่างประเทศจะไหลเข้ามาในตลาดหุ้น และไม่ต้องแปลกใจว่าใครเป็นเจ้าพ่อหุ้นที่ได้ผลประโยชน์ไปเต็มๆ เขาจึงได้กำหนดตัวละครที่เป็นคนหุ้น นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เป็นรมว.คลัง นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เป็นรมว.พาณิชย์ เพราะฉะนั้นแนวนโยบายจะส่งเสริมตลาดหุ้น เป็นการปั่นหุ้นครั้งใหญ่ แน่นอนคนรู้ข้อมูลล่วงหน้าว่าจะมีการออกมาตรการกันเงินไหลเข้า-ออกเมื่อไหร่ อยู่แถวนี้หมด เป็นเศรษฐกิจที่ส่งเสริมตลาดหุ้น แต่ภาคธุรกิจอาจถูกมองข้าม อันนี้คือเรื่องที่น่าเป็นห่วง

และจะส่งผลต่อสินค้าเกษตร เพราะเมื่อค่าเงินบาทแข็ง ต่างชาติจะมองสินค้าของไทยแพง ดังนั้นสินค้าเกษตรก็ยากที่จะขึ้นราคา สุดท้ายราคาสินค้าเกษตรตกต่ำได้ แต่อย่างไรก็ตามเงินทุนที่ไหลเข้าตลาดหุ้นเพื่อเกร็งกำไร ก็ไม่ได้หมายว่าจะกำไรตลอดไป เพราะก็จะมีการไหลออก เอาทุนกลับไป จะได้ประโยชน์เพียงคนบางกลุ่มเท่านั้น แต่พวกแมงเม่าจำนวนไม่น้อยที่จะเสียประโยชน์ตรงนี้



กำลังโหลดความคิดเห็น