สังเกตว่าพรรค “เพื่อไทย” จะเก่งอยู่สองอย่าง คือ ประชานิยม และเมกะโปรเจกต์ (ซึ่งต้องใช้เงินมากทั้งสองอย่าง)
วันนี้ประชานิยมจนได้ตั้งรัฐบาลก็จะทำเมกะโปรเจกต์ถมทะเลทันที (เพื่อหาเงินไปประชานิยมต่อ?) จะสร้างเมืองใหม่หรูหราหาเงินเข้าประเทศ (ยืมจมูกต่างชาติหายใจ คิดเก่าทำเก่า ไม่คิดพึ่งตนเอง) แต่หยอดมุกว่าจะกันน้ำท่วมกรุงได้ด้วย (ซึ่งจะชี้ให้เห็นตอนท้ายว่า ป้องไม่ได้หรอก)
พรรคนี้ไม่เคยทิ้งนิสัยเดิมที่ “เห่อเหิมฟุ้งเฟ้อ” ไม่สนใจความพอเพียง สมัยก่อนก็คิดจะสร้าง entertainment complex กับ เขตเศรษฐกิจพิเศษให้จงได้ แบบง่ายๆ โดยไม่เล็งเห็นผลเสียต่อสังคมแบบซึมลึกที่จะตามมาอีกสิบเท่า
ปัญหาใหญ่ของคนไทยวันนี้คือความโง่และจน จึงต้องขายเสียงกิน รับจ้างชุมนุม รับจ้างฟังการปราศรัยของนักหาเสียง ไม่น่าเชื่อว่านักการเมืองไทยกลับไม่คิดแก้ไขปัญหาโง่จนนี้เป็นอันดับแรก กลับมาคิดแต่จะทำอะไรกันฟุ้งเฟ้อเร่อร่านปานนี้
หรือว่าเขาคิดกันตกแล้วว่า ถ้าแก้ให้รวยฉลาดหมดเมื่อไหร่ แล้วใครมันจะง่าวมาเลือกพวกเราเข้าสภา?
เงินก้อนมหาศาลที่จะเอาไปทำบาป “ถมพระสมุทร” นี้ ขอบิณฑบาตเอามาทำอะไรที่เป็นบุญอย่างยั่งยืนต่อบ้านเมืองดีกว่าไหม ตายไปคนเขาจะได้นึกถึงบ้าง (นึกถึงอดีตนายกฯ สมัคร) ทำให้ดีจะมั่งมีมหาศาล และยังช่วยป้องกันน้ำท่วมได้ด้วย
เมกะโปรเจกต์มหากุศลที่ขอเสนอแทนการถมทะเล คือ การขุดคลองก้างปลาเชื่อมแม่น้ำทั่วประเทศเข้าด้วยกัน
ก่อนอื่นต้องสำรวจพื้นที่หาแอ่งน้ำธรรมชาติเสียก่อน ซึ่งอาจเป็นหนองบึงที่มีอยู่แล้ว หรือเป็นแอ่งแห้งน้ำก็ได้ ซึ่งมีกระจายอยู่นับหมื่นแอ่งทั่วประเทศ แล้วขุดคลองก้างปลาผ่านไปยังแอ่งเหล่านั้น กักน้ำไว้เพื่อใช้ทำการเกษตรได้ตลอดปี รวมทั้งทำนิคมอุตสาหกรรมขนาดย่อมริมอ่าง (นิคมฯ ก็ต้องการน้ำด้วย)
แอ่งมีอยู่แล้ว ไม่ต้องขุดใหม่ ก็ประหยัดเงินได้มาก โดยอาจต้องขุดลอกเสริมบ้างเท่านั้น นอกจากเกษตรและอุตฯ แล้วยังได้การประมง และสถานที่พักผ่อนหย่อนใจอีกด้วย เป็นการเพิ่มคุณภาพชีวิตให้ ปชช.
ยังเป็นการป้องกันน้ำท่วม เพราะถ้ามีน้ำหลากมาในจุดใด ก็สามารถผันถ่ายเทน้ำได้ง่ายเพราะคลองก้างปลาต่อถึงกันหมด เท่ากับว่าเรามีแก้มลิงเป็นหมื่นแก้มที่จะช่วยซับน้ำหลากล้นได้ อีกทั้งยังใช้เป็นเส้นทางเดินเรือขนส่งเพื่อนำสินค้ามาออกท่าเรือได้อีกด้วย ซึ่งการขนส่งทางน้ำมีราคาถูกกว่าทางบกประมาณ 20 เท่า
นิคมอุตฯ ขนาดย่อมที่กระจายทั่วประเทศนี้ ลงทุนเน้นไปที่อุตสาหกรรมเกษตร เพิ่มมูลค่าก่อนส่งออกขายทั่วโลก ผู้เขียนได้คำนวณตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ พบว่าอุตฯการเกษตรมีตัวคูณทางเศรษฐกิจถึงประมาณ 350 เท่า ดังนั้นถ้าผลิตสินค้าเกษตรดิบ 3 แสนล้านบาท แล้วทำให้ดีแบบสหรัฐฯ จะสร้างรายได้ประชาชาติ (GDP) ถึง 150 ล้านล้านบาท
ซึ่งมีมูลค่าสูงกว่ารายได้จากเมืองวิเศษที่จะได้จากการถมทะเลเป็นร้อยเท่า (แถมยั่งยืนกว่าอีกร้อยเท่า)
ดังนั้นผลโดยอ้อมที่สำคัญที่สุด คือ คนชนบทมีงานทำและมีรายได้สูง (เกษตรทั้งปีและงานอุตฯ ขนาดย่อม) ไม่ต้องทิ้งถิ่นไปหากินในนิคมอุตฯ ริมทะเล ปล่อยลูกเต้าให้เกเร ขาดความอบอุ่น เพราะไร้แม่พ่อ ซึ่งจะเป็นปัญหาสังคมต่อไป ช่วงปีใหม่สงกรานต์ก็ไม่ต้องทุกข์ทรมานเสี่ยงตายกลับไปเยี่ยมบ้านเกิด
ถ้าพรรคเพื่อไทยเลิกคิดฟุ้งเฟ้อเห่อเหิม เปลี่ยนมาทำเมกะโปรเจกต์เพื่อชาติดังที่เสนอมานี้ ชาวประชาจะเทิดทูนไว้ในดวงใจอีกแสนนาน เขาจะเลือกท่านเข้าสภาด้วยใจ โดยไม่ต้องไปทำบาปหลอกล่อเขาด้วยประชานิยมอีกต่อไป
สำหรับการป้องกันน้ำทะเลหนุน กทม.นั้น เสนอว่าให้ทำถนนเกือกม้าโอบเมือง โดยขุดดินขึ้นมาทำเป็นถนนเลียบทะเลริมป่าชายเลน ส่วนร่องดินที่บุ๋มด้านในก็กลายเป็นคลองระบายน้ำท่วมและเป็นเส้นทางขนส่งไปในตัว ประหยัดและได้ประโยชน์หลายต่อ
ส่วนปากพระคงคาและตาพระสมุทรนั้น ถ้าเอาดินไปถมให้ผิดเพี้ยนรับรองว่าจะทรงพิโรธจนสาปแช่งให้ประเทศนี้ทุกข์หนักมหาศาล เพราะแหล่งปากน้ำเป็นแหล่งอภิบาลตัวอ่อนสัตว์ทะเลทั้งหลาย เนื่องเพราะมีป่าชายเลนและอาหารอุดมที่มาพร้อมกับแม่น้ำ ถ้าไปถมปิด ปลาทะเลจะวอดวายหมดอ่าวไทยในที่สุด
แล้วที่คิดกันง่ายๆ ว่า จะแก้น้ำท่วมได้นั้นก็จะไม่ได้
ถ้าเผอิญน้ำป่าไหลหลากในขณะที่น้ำทะเลก็หนุนเข้ามาพร้อมกันพอดี ถามว่า..จะปิดประตูน้ำไม่ให้น้ำทะเลหนุนเข้า หรือจะเปิดประตูเพื่อระบายน้ำป่าออก?
จะกลืนก็ไม่ได้..จะคายไม่พ้น กลายเป็นอนุสาวรีย์ประจานตนเองไปอีกนาน
ถ้าน้ำทะเลหนุนมาสูงกว่า ก็คงปิดประตูน้ำ ลูกปลาทะเลที่ถูกกักไว้ด้านใน ที่เคยอยู่น้ำกร่อย จะทนน้ำจืดที่หลากบ่ามาไม่ได้ ก็คงตายหมด แล้วปลาทะเลจะหดหายหมดอ่าวไทย
entertainment complex และเขตเศรษฐกิจพิเศษ อาจถูกซุกซ่อนเข้ามาในโครงการนี้ กาสิโนอาจแอบเกาะหลังมาเงียบๆ พอน้ำท่วมลดลงแล้วตอเหล่านี้คงผุดให้เห็นเป็นระลอก
พระสมุทรลึกล้นขนดินถมเต็มได้ แต่ถมใจโลภมากยากล้นเหลือ
วันนี้ประชานิยมจนได้ตั้งรัฐบาลก็จะทำเมกะโปรเจกต์ถมทะเลทันที (เพื่อหาเงินไปประชานิยมต่อ?) จะสร้างเมืองใหม่หรูหราหาเงินเข้าประเทศ (ยืมจมูกต่างชาติหายใจ คิดเก่าทำเก่า ไม่คิดพึ่งตนเอง) แต่หยอดมุกว่าจะกันน้ำท่วมกรุงได้ด้วย (ซึ่งจะชี้ให้เห็นตอนท้ายว่า ป้องไม่ได้หรอก)
พรรคนี้ไม่เคยทิ้งนิสัยเดิมที่ “เห่อเหิมฟุ้งเฟ้อ” ไม่สนใจความพอเพียง สมัยก่อนก็คิดจะสร้าง entertainment complex กับ เขตเศรษฐกิจพิเศษให้จงได้ แบบง่ายๆ โดยไม่เล็งเห็นผลเสียต่อสังคมแบบซึมลึกที่จะตามมาอีกสิบเท่า
ปัญหาใหญ่ของคนไทยวันนี้คือความโง่และจน จึงต้องขายเสียงกิน รับจ้างชุมนุม รับจ้างฟังการปราศรัยของนักหาเสียง ไม่น่าเชื่อว่านักการเมืองไทยกลับไม่คิดแก้ไขปัญหาโง่จนนี้เป็นอันดับแรก กลับมาคิดแต่จะทำอะไรกันฟุ้งเฟ้อเร่อร่านปานนี้
หรือว่าเขาคิดกันตกแล้วว่า ถ้าแก้ให้รวยฉลาดหมดเมื่อไหร่ แล้วใครมันจะง่าวมาเลือกพวกเราเข้าสภา?
เงินก้อนมหาศาลที่จะเอาไปทำบาป “ถมพระสมุทร” นี้ ขอบิณฑบาตเอามาทำอะไรที่เป็นบุญอย่างยั่งยืนต่อบ้านเมืองดีกว่าไหม ตายไปคนเขาจะได้นึกถึงบ้าง (นึกถึงอดีตนายกฯ สมัคร) ทำให้ดีจะมั่งมีมหาศาล และยังช่วยป้องกันน้ำท่วมได้ด้วย
เมกะโปรเจกต์มหากุศลที่ขอเสนอแทนการถมทะเล คือ การขุดคลองก้างปลาเชื่อมแม่น้ำทั่วประเทศเข้าด้วยกัน
ก่อนอื่นต้องสำรวจพื้นที่หาแอ่งน้ำธรรมชาติเสียก่อน ซึ่งอาจเป็นหนองบึงที่มีอยู่แล้ว หรือเป็นแอ่งแห้งน้ำก็ได้ ซึ่งมีกระจายอยู่นับหมื่นแอ่งทั่วประเทศ แล้วขุดคลองก้างปลาผ่านไปยังแอ่งเหล่านั้น กักน้ำไว้เพื่อใช้ทำการเกษตรได้ตลอดปี รวมทั้งทำนิคมอุตสาหกรรมขนาดย่อมริมอ่าง (นิคมฯ ก็ต้องการน้ำด้วย)
แอ่งมีอยู่แล้ว ไม่ต้องขุดใหม่ ก็ประหยัดเงินได้มาก โดยอาจต้องขุดลอกเสริมบ้างเท่านั้น นอกจากเกษตรและอุตฯ แล้วยังได้การประมง และสถานที่พักผ่อนหย่อนใจอีกด้วย เป็นการเพิ่มคุณภาพชีวิตให้ ปชช.
ยังเป็นการป้องกันน้ำท่วม เพราะถ้ามีน้ำหลากมาในจุดใด ก็สามารถผันถ่ายเทน้ำได้ง่ายเพราะคลองก้างปลาต่อถึงกันหมด เท่ากับว่าเรามีแก้มลิงเป็นหมื่นแก้มที่จะช่วยซับน้ำหลากล้นได้ อีกทั้งยังใช้เป็นเส้นทางเดินเรือขนส่งเพื่อนำสินค้ามาออกท่าเรือได้อีกด้วย ซึ่งการขนส่งทางน้ำมีราคาถูกกว่าทางบกประมาณ 20 เท่า
นิคมอุตฯ ขนาดย่อมที่กระจายทั่วประเทศนี้ ลงทุนเน้นไปที่อุตสาหกรรมเกษตร เพิ่มมูลค่าก่อนส่งออกขายทั่วโลก ผู้เขียนได้คำนวณตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ พบว่าอุตฯการเกษตรมีตัวคูณทางเศรษฐกิจถึงประมาณ 350 เท่า ดังนั้นถ้าผลิตสินค้าเกษตรดิบ 3 แสนล้านบาท แล้วทำให้ดีแบบสหรัฐฯ จะสร้างรายได้ประชาชาติ (GDP) ถึง 150 ล้านล้านบาท
ซึ่งมีมูลค่าสูงกว่ารายได้จากเมืองวิเศษที่จะได้จากการถมทะเลเป็นร้อยเท่า (แถมยั่งยืนกว่าอีกร้อยเท่า)
ดังนั้นผลโดยอ้อมที่สำคัญที่สุด คือ คนชนบทมีงานทำและมีรายได้สูง (เกษตรทั้งปีและงานอุตฯ ขนาดย่อม) ไม่ต้องทิ้งถิ่นไปหากินในนิคมอุตฯ ริมทะเล ปล่อยลูกเต้าให้เกเร ขาดความอบอุ่น เพราะไร้แม่พ่อ ซึ่งจะเป็นปัญหาสังคมต่อไป ช่วงปีใหม่สงกรานต์ก็ไม่ต้องทุกข์ทรมานเสี่ยงตายกลับไปเยี่ยมบ้านเกิด
ถ้าพรรคเพื่อไทยเลิกคิดฟุ้งเฟ้อเห่อเหิม เปลี่ยนมาทำเมกะโปรเจกต์เพื่อชาติดังที่เสนอมานี้ ชาวประชาจะเทิดทูนไว้ในดวงใจอีกแสนนาน เขาจะเลือกท่านเข้าสภาด้วยใจ โดยไม่ต้องไปทำบาปหลอกล่อเขาด้วยประชานิยมอีกต่อไป
สำหรับการป้องกันน้ำทะเลหนุน กทม.นั้น เสนอว่าให้ทำถนนเกือกม้าโอบเมือง โดยขุดดินขึ้นมาทำเป็นถนนเลียบทะเลริมป่าชายเลน ส่วนร่องดินที่บุ๋มด้านในก็กลายเป็นคลองระบายน้ำท่วมและเป็นเส้นทางขนส่งไปในตัว ประหยัดและได้ประโยชน์หลายต่อ
ส่วนปากพระคงคาและตาพระสมุทรนั้น ถ้าเอาดินไปถมให้ผิดเพี้ยนรับรองว่าจะทรงพิโรธจนสาปแช่งให้ประเทศนี้ทุกข์หนักมหาศาล เพราะแหล่งปากน้ำเป็นแหล่งอภิบาลตัวอ่อนสัตว์ทะเลทั้งหลาย เนื่องเพราะมีป่าชายเลนและอาหารอุดมที่มาพร้อมกับแม่น้ำ ถ้าไปถมปิด ปลาทะเลจะวอดวายหมดอ่าวไทยในที่สุด
แล้วที่คิดกันง่ายๆ ว่า จะแก้น้ำท่วมได้นั้นก็จะไม่ได้
ถ้าเผอิญน้ำป่าไหลหลากในขณะที่น้ำทะเลก็หนุนเข้ามาพร้อมกันพอดี ถามว่า..จะปิดประตูน้ำไม่ให้น้ำทะเลหนุนเข้า หรือจะเปิดประตูเพื่อระบายน้ำป่าออก?
จะกลืนก็ไม่ได้..จะคายไม่พ้น กลายเป็นอนุสาวรีย์ประจานตนเองไปอีกนาน
ถ้าน้ำทะเลหนุนมาสูงกว่า ก็คงปิดประตูน้ำ ลูกปลาทะเลที่ถูกกักไว้ด้านใน ที่เคยอยู่น้ำกร่อย จะทนน้ำจืดที่หลากบ่ามาไม่ได้ ก็คงตายหมด แล้วปลาทะเลจะหดหายหมดอ่าวไทย
entertainment complex และเขตเศรษฐกิจพิเศษ อาจถูกซุกซ่อนเข้ามาในโครงการนี้ กาสิโนอาจแอบเกาะหลังมาเงียบๆ พอน้ำท่วมลดลงแล้วตอเหล่านี้คงผุดให้เห็นเป็นระลอก
พระสมุทรลึกล้นขนดินถมเต็มได้ แต่ถมใจโลภมากยากล้นเหลือ