“อภิสิทธิ์” แนะ ธปท.เลี่ยงนโยบายเงินแรง เตือน พท.อย่าใช้ “แม้ว” สานเขมรเพื่อบางคน

นายกฯ แนะทิศทางการคลังต้องประสานกัน ปราม ธปท.เลี่ยงนโยบายแรง ทางการเงิน ก็ดี หวั่นกระทบการลงทุนตลาดเงิน ฝาก พท.รับมือของแพง สานต่อปัญหา ไทย-เขมร เตือนอย่าใช้สัมพันธ์ “นช.แม้ว” ให้เป็นประโยชน์เฉพาะบางกลุ่ม

วันนี้ (28 ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีที่ทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกมาส่งสัญญาณจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นต่อเนื่อง ในช่วงที่เหลือของปีนี้ เพื่อดูแลเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มสูงขึ้นอีกรอบ ว่า ตนได้ย้ำไปหลายครั้งแล้วว่า ทิศทางทางการเงินการคลังต้องประสานให้สอดคล้องกัน เพราะว่าตนได้คาดเดาเอาไว้ว่า ถ้าทางธนาคารแห่งประเทศไทย ไม่มีความชัดเจนจากฝ่ายการคลัง ว่า จะไปกดดันเรื่องเงินเฟ้อแค่ไหนนั้น จะต้องคิดแบบอนุรักษนิยมไว้ก่อน ฉะนั้น ภาระจะไปตกหนักในเรื่องของการขึ้นดอกเบี้ย แต่ตนไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น แต่จะให้ดีที่สุด ต้องสามารถตกลงเป้าหมายกันได้ และไม่ควรจะไปสุดโต่งด้านใดด้านหนึ่ง

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น จะส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนคิดว่า ถ้าเราหลีกเลี่ยง นโยบายแรงๆ ทางการเงินก็ดี เพราะการใช้นโยบายการเงินที่แรงนั้น จะกระทบการลงทุนทางการตลาดเงิน อัตราแลกเปลี่ยน และอัตราความมั่นใจในทางธุรกิจ ก็ไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น

เมื่อถามว่า ถ้าจัดลำดับนโยบายของรัฐบาลใหม่ ที่จะเข้ามาทำตามนั้น ควรจะเน้นถึงความสำคัญเรื่องใดก่อน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ของรัฐบาลใหม่ ที่จะต้องเป็นผู้กำหนด เพราะว่ามีเรื่องเร่งด่วนที่ค้างไว้อยู่ ที่ไม่ใช่เรื่องเศรษฐกิจ แต่เรื่องเศรษฐกิจนั้นแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องปัญหาของแพง ของวิกฤตที่ลุกลามในประเทศอื่น ก็เตรียมรับมือ แต่เรื่องที่เป็นเรื่องต้องเร่งด่วน ควรเร่งเข้ามาสานต่อมากที่สุด คือปัญหาเรื่องไทย-กัมพูชา เพราะว่าจะต้องมีกระบวนการหลายอย่างที่ต้องเร่งแก้ไข

เมื่อถามต่อว่า หากใช้ด้านความสัมพันธ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องหาก่อการร้าย เข้ามาช่วยจะส่งผลอย่างไรกับประเทศบ้าง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถ้าใช้แล้วเป็นประโยชน์ต่อประเทศ ก็ไม่เป็นปัญหา แต่อย่าไปใช้แล้วเป็นประโยชน์เฉพาะบางกลุ่มคนบางคน หรือส่งผลกระทบกระเทือน ทำให้ประเทศชาติเสียเปรียบ