เอเอฟพี - เยาวชนมุสลิมในอินโดนีเซียจัดตั้งหน่วยต่อต้านความเชื่อแบบสุดโต่ง ซึ่งมุ่งปกป้องชุมชนจากลัทธิหัวรุนแรง และแม้แต่ช่วยเจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิด ประธานกลุ่มเผยวันนี้ (18)
กลุ่มเยาวชนอันซอร์ ซึ่งเป็นเครือข่ายองค์กรมุสลิมที่ใหญ่ที่สุดในอินโดนีเซีย นะห์ดาตุลอุลามะอ์ (เอ็นยู) ระบุว่า ปัจจุบันมีสมาชิกมากกว่า 200 คน โดยบางคนได้รับการฝึกฝนให้เก็บกู้วัตถุระเบิดเป็นด้วย
นุรซัน วาฮิด ประธานกลุ่มอันซอร์ เปิดเผยว่า หน่วยต่อต้านความเชื่อสุดโต่งนี้มีชื่อว่า กองกำลัง 99 (Detachment 99) เพื่อให้สอดคล้องกับหน่วยต่อต้านก่อการร้าย 88 ของรัฐบาลอินโดนีเซีย โดยสมาชิกทุกคนถูกฝึกฝนให้ป้องกันคนในชุมชนจากแนวคิดรุนแรง
“กองกำลัง 99 ของเราจะไม่ก้าวก่ายเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย หรือเข้าไปกวาดล้างกลุ่มก่อการร้ายโดยตรง” วาฮิดเผย พร้อมอธิบายว่าพวกเขามีหน้าที่ฝึกทูตเยาวชนเพื่อส่งไปยัง 17 ภูมิภาคที่มีการเผยแพร่คำสอนอิสลามแบบสุดโต่ง รวมถึงหลายเมืองบนเกาะชวา
อย่างไรก็ตาม นูร์ ฮุดา อิสมาอีล นักวิเคราะห์จากสถาบันเสริมสร้างสันติภาพสากล วิจารณ์การก่อตั้งกลุ่มเยาวชนดังกล่าวผ่านหนังสือพิมพ์ จาการ์ตา โกลบ ว่า “จะดียิ่งกว่าหากพวกเขาให้ความสำคัญกับสมาชิกของเอ็นยูเอง ที่เคยมีความศรัทธาแบบสายกลางมาก่อน แต่เปลี่ยนไปนิยมลัทธิหัวรุนแรงภายหลัง”
“การพยายามใช้กำลังเข้าสยบพวกสุดโต่ง จะมีแต่ผลเสียมากกว่า” อิสมาอีลระบุ
ด้านสำนักงานตำรวจอินโดนีเซียยังไม่ออกมาให้สัมภาษณ์ใดๆ ในเรื่องนี้
แม้ประชากรส่วนใหญ่ของอินโดนีเซียจะเป็นมุสลิมสายกลาง ทว่าทางการก็ยังต้องรับมือกับกลุ่มหัวรุนแรงจำนวนน้อยที่ก่อเหตุโจมตีมาแล้วหลายครั้ง รวมถึงเหตุระเบิดไนต์คลับบนเกาะบาหลีเมื่อปี 2002 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 202 ราย
กลุ่มเยาวชนอันซอร์ ซึ่งเป็นเครือข่ายองค์กรมุสลิมที่ใหญ่ที่สุดในอินโดนีเซีย นะห์ดาตุลอุลามะอ์ (เอ็นยู) ระบุว่า ปัจจุบันมีสมาชิกมากกว่า 200 คน โดยบางคนได้รับการฝึกฝนให้เก็บกู้วัตถุระเบิดเป็นด้วย
นุรซัน วาฮิด ประธานกลุ่มอันซอร์ เปิดเผยว่า หน่วยต่อต้านความเชื่อสุดโต่งนี้มีชื่อว่า กองกำลัง 99 (Detachment 99) เพื่อให้สอดคล้องกับหน่วยต่อต้านก่อการร้าย 88 ของรัฐบาลอินโดนีเซีย โดยสมาชิกทุกคนถูกฝึกฝนให้ป้องกันคนในชุมชนจากแนวคิดรุนแรง
“กองกำลัง 99 ของเราจะไม่ก้าวก่ายเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย หรือเข้าไปกวาดล้างกลุ่มก่อการร้ายโดยตรง” วาฮิดเผย พร้อมอธิบายว่าพวกเขามีหน้าที่ฝึกทูตเยาวชนเพื่อส่งไปยัง 17 ภูมิภาคที่มีการเผยแพร่คำสอนอิสลามแบบสุดโต่ง รวมถึงหลายเมืองบนเกาะชวา
อย่างไรก็ตาม นูร์ ฮุดา อิสมาอีล นักวิเคราะห์จากสถาบันเสริมสร้างสันติภาพสากล วิจารณ์การก่อตั้งกลุ่มเยาวชนดังกล่าวผ่านหนังสือพิมพ์ จาการ์ตา โกลบ ว่า “จะดียิ่งกว่าหากพวกเขาให้ความสำคัญกับสมาชิกของเอ็นยูเอง ที่เคยมีความศรัทธาแบบสายกลางมาก่อน แต่เปลี่ยนไปนิยมลัทธิหัวรุนแรงภายหลัง”
“การพยายามใช้กำลังเข้าสยบพวกสุดโต่ง จะมีแต่ผลเสียมากกว่า” อิสมาอีลระบุ
ด้านสำนักงานตำรวจอินโดนีเซียยังไม่ออกมาให้สัมภาษณ์ใดๆ ในเรื่องนี้
แม้ประชากรส่วนใหญ่ของอินโดนีเซียจะเป็นมุสลิมสายกลาง ทว่าทางการก็ยังต้องรับมือกับกลุ่มหัวรุนแรงจำนวนน้อยที่ก่อเหตุโจมตีมาแล้วหลายครั้ง รวมถึงเหตุระเบิดไนต์คลับบนเกาะบาหลีเมื่อปี 2002 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 202 ราย
