“มาร์ค” เรียก กต. คมนาคม คลัง อัยการสูงสุด กฤษฎีกา ถกคดีศาลเยอรมนีอายัดโบอิ้ง พระบรมฯ ยัน อสส.พร้อมสู้เต็มที่ คาดเดือนหน้าชัด ลั่นไทยมีโอกาสชนะ แย้มเอาคืนฟ้อง วอลเตอร์ บาว กลับ ยันไทยไม่ได้รับความเป็นธรรม เชื่อเยอรมนีเปลี่ยนใจแน่
วันนี้ (28 ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในคดีกรณีศาลประเทศเยอรมนี สั่งอายัดเครื่องบินโบอิ้ง 737-400 เพื่อชดใช้หนี้บริษัท วอลเตอร์ บาว คู่กรณีที่ฟ้องเรียกค่าชดใช้จากรัฐบาลไทย จากเรื่องขัดแย้งกันเกี่ยวกับสัมปทานในการก่อสร้างทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์หารือ ทั้งในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงคมนาคม กระทรวงการคลัง นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อัยการสูงสุด และเลขากฤษฎีกา เป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมง
โดย นายอภิสิทธิ์ เปิดเผยภายหลังการหารือ ว่า วันนี้ได้เชิญทุกหน่วยงานหารือ เพราะต้องการให้ทุกหน่วยงานทราบสถานะของคดีที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับเรื่องนี้ทั้งหมด ซึ่งประเด็นที่เป็นข้อพิพาทระหว่างบริษัท กับรัฐบาลไทย มันมีหลายแง่มุม และมีข้อมูลใหม่ที่ต้องดำเนินการต่อสู้ทางกฎหมายต่อไป ซึ่งสำนักงานอัยการสูงสุด และตัวอัยการสูงสุดได้เตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ หลายเรื่องจะมีความชัดเจนในช่วงเดือนสิงหาคมนี้ ไม่ขอลงรายละเอียดเพราะเดี๋ยวจะกระทบต่อรูปคดีที่เราไปดำเนินการ ยืนยันว่า ขณะนี้มีความพร้อมเต็มที่ และกำลังเดินหน้าในการที่จะต่อสู้ ได้มีการทำความเข้าใจกับหน่วยงานต่างๆ ถึงสถานะคดี เพื่อให้ทุกคนสามารถวางแผน และปฏิบัติได้ตรงกัน
เมื่อถามว่า คำว่าพร้อมที่จะเดินหน้าต่อสู้คดี คือ ไทยมีโอกาสที่จะชนะคดีใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ครับ ตนเห็นว่า น่าจะมีข้อมูลที่น่าจะมีความสำคัญต่อเรื่องทั้งหมด ซึ่งท่านอัยการสูงสุดได้มีการดำเนินการอยู่ในขณะนี้ ซึ่งจะมีหลายเวทีทั้งนิวยอร์ก และ เยอรมนี เมื่อถามต่อว่า ในส่วนที่จะมีการฟ้องคดีใหม่จะเริ่มต้นจากตรงไหน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ท่านอัยการสูงสุดให้ที่ประชุมได้รับทราบ แต่รายละเอียดขอไม่เปิดเผย เพราะไม่อยากให้กระทบต่อการต่อสู้คดี ส่วนเรื่องของการฟ้องร้องมีในส่วนของต่างประเทศด้วย ซึ่งการฟ้องร้องมีเรื่องอื่นที่นอกเหนือจากการใช้สิทธิที่ไม่สุจริตของ วอลเตอร์ บาว ด้วย อยู่ประมาณ 3 คดี ส่วนการเรียกค่าเสียงหายจากทางบริษัทหรือไม่นั้น ให้เป็นเรื่องของทางอัยการสูงสุดดีกว่า เพราะเป็นผู้ดำเนินการ และเชื่อว่า ช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาลจะไม่กระทบกับเรื่องนี้ เพราะการต่อสู้ทำมาอย่างต่อเนื่อง ช่วงเดือนสิงหาคมก้าวหน้าค่อนข้างมาก ไม่คิดว่า จะมีประเด็นในการตัดสินใจเชิงนโยบายเป็นเรื่องการต่อสู้ทางกฎหมายซึ่งทำได้ตามปกติ
ผู้สื่อข่าวถามว่า มั่นใจกับการดำเนินคดีใหม่ ว่า จะชนะหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนเห็นข้อเท็จจริงแล้ว มองว่า รัฐบาลไทยไม่ได้รับความเป็นธรรม ฉะนั้น การต่อสู้ก็จะดำเนินการต่อ เมื่อถามว่า การฟ้องกลับ วอลเตอร์ บาว คิดว่า รัฐบาลเยอรมนีจะมีปฏิกิริยาอะไรหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หากรัฐบาลเยอรมนีได้ทราบข้อมูลต่างๆ คงต้องปรับท่าทีตัวเอง หากดูด้วยความเป็นธรรม คิดว่าต้องปรับท่าทีพอสมควร และหวังว่า คดีจะไม่ยืดเยื้อ ซึ่งแต่ละคดีจะใช้เวลาแตกต่างกัน
เมื่อถามว่า เรื่องการอายัดเครื่องบินอัยการสูงสุดได้ให้ความมั่นใจว่าจะมีการถอนอายัด นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีอะไรเพิ่มเติมแนวทางการต่อสู้ การพิสูจน์ก็ยังเหมือนเดิม ส่วนการที่รัฐบาลเยอรมนีออกตัวยืนยันว่าไทยต้องจ่ายค่าชดเชยตามที่ศาลสั่ง เป็นเพราะรัฐบาลมีข้อมูลอะไรเพิ่มเติมหรือไม่นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ แถลงการณ์ของสถานทูตเยอรมนี เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา พูดเรื่องคดีเครื่องบินตอนต้นก็จริง แต่สิ่งที่เขามาพูดทีหลัง คือ คดีหลักที่เป็นข้อขัดแย้งระหว่างบริษัท กับรัฐบาลไทย และการที่มีการเรียกค่าชดเชยนั้น ตนก็เห็นว่า คดียังไม่สิ้นสุด เป็นเรื่องของศาล ฝ่ายบริหารไม่ควรเข้ามายุ่ง
ด้าน นายจุลสิงห์ เปิดเผยว่า เรื่องคดี วอลเตอร์ บาว ยังมีทางสู้ ยังไม่หมดหวัง