xs
xsm
sm
md
lg

อสส.ฟ้องวอลเตอร์บาว ลั่นอยากได้ทรัพย์สินให้มาไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - อัยการสูงสุดเล็งฟ้องกลับ “วอลเตอร์ บาว” ลั่นถ้าอยากได้ทรัพย์สินให้มาฟ้องที่ศาลไทย พร้อมแสดงหลักฐานต่อศาลเยอรมนี 16 ส.ค. นี้ด้าน “กต.” ระบุ อสส.มีเอกสารข้อมูลแน่น ยื่นแล้วขอให้ศาลที่นิวยอร์กให้มีคำสั่งบังคับคดีตามคำร้องขออนุญาโตตุลาการ

เมื่อเวลา 15.00 น. วานนี้ (29 ก.ค) ที่สำนักงานอัยการสูงสุด จัดเสวนาทางวิชาการเรื่อง “การประชาสัมพันธ์ยุคใหม่ : อัยการไม่ห่างไกลประชาชน” โดยมีนายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อัยการสูงสุด เป็นองค์ปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “ทิศทางการบริหารของสำนักงานอัยการสูงสุดในฐานะองค์กรอื่นตามรัฐธรรมนูญ”

โดยนายจุลสิงห์ ยังได้ตอบเกี่ยวกับขั้นตอนและความคืบหน้าการต่อสู้คดี ที่ศาลแห่งกรุงเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมันมีคำสั่งอายัดเครื่องบิน โบอิ้ง 737-400 เครื่องบินพระราชพาหนะส่วนพระองค์ของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามกุฎราชกุมาร ด้วยว่า อัยการจะเร่งดำเนินการฟ้องกลับแน่นอน ในเดือนส.ค.นี้ แต่จะฟ้องใคร ที่ไหน ข้อหาอะไร ในเรื่องมูลเหตุใดขออุบไว้ก่อน เพราะเป็นเทคนิคทางคดี ซึ่งต้องมีมาตรการคุ้มครองประเทศไทย และจะแจ้งให้ทราบหากดำเนินการแล้ว

นายจุลสิงห์ ระบุถึงความคืบหน้า คดีที่ บริษัท วอเตอร์ บาว ฟ้องศาลนิวยอร์ก บังคับให้ไทยทำตามคำชี้ขาดอนุญาโตตุลาการ ว่า เมื่อวันที่ 28 ก.ค. ที่ผ่านมา อัยการได้ยื่นอุทธรณ์คดีแล้ว เชื่อว่าพยานหลักฐานที่ยื่นไปดีที่สุด และมีโอกาสที่จะชนะคดีได้ ส่วนที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่าทำไมอนุญาโตฯตัดสินแล้วรัฐบาลยังไม่จ่ายเงิน เป็นการเบี้ยวหรือไม่ ข้อชี้แจงว่าอนุญาโตฯ ไม่ใช่ศาลเป็นเพียงผู้ได้รับอนุญาตให้ตัดสินในข้อพิพาท ซึ่งที่สุดแล้วต้องให้ศาลมีคำสั่งบังคับว่าจะเห็นด้วยกับอนุญาโตฯหรือไม่ เป็นกติกาสากลที่ทั่วโลกใช้กัน

ในกรณีนี้รัฐบาลไทยใช้สิทธิในการยื่นอุทธรณ์ประเด็นว่าอนุญาโตฯปฏิบัติถูกต้องหรือไม่ ถ้าศาลเห็นว่าอนุญาโตฯ ทำไม่ถูกต้องก็จะตัดสินให้ไทยไม่ต้องปฏิบัติตามคำชี้ขาดของอนุญาโตฯ แต่ที่ผ่านมาอนุญาโตฯ ไม่ได้เปิดโอกาสให้ฝ่ายไทยนำพยานบุคคลเข้าพิสูจน์อย่างเต็มที่ ตัดพยานปากสำคัญซึ่งเป็นผู้รู้เรื่องราวการทำสัญญา และเป็นตัวกลางในการเจรจาของไทย-เยอรมัน ซึ่งคนนี้เป็นชาวต่างชาติถือเป็นคนกลางที่มีน้ำหนัก ออกอย่างไม่มีเหตุผล ซึ่งอัยการไทยยังติดใจที่จะต้องให้นำตัวมาสืบเพื่อให้ได้ความจริงครบถ้วน เชื่อว่าหากได้นำสืบพยานปากนี้ก็จะชี้ให้ศาลเห็น การเข้ามาทำสัญญาของเยอรมันเป็นการลงทุน ไม่ใช่การเข้ามาถือหุ้นในโครงการนั้น และจะทำให้การวินิจฉัยของอนุญาโตฯ ไม่อาจบังคับได้

ถ้าอยากได้ทรัพย์สินก็ควรมาฟ้องที่ศาลไทย ซึ่งมีทรัพย์สินของรัฐบาลอยู่มากมาย หากคิดว่าอนุญาโตฯวินิจฉัยถูกต้องจริง ก็เรียนเชิญให้มาฟ้องที่ศาลไทย ถ้าชี้ขาดถูกต้องศาลไทยก็จะบังคับคดีให้ แต่คดีนี้ชี้ขาดมากกว่า 2 - 3 ปีแล้ว ไม่เห็นมาฟ้อง ไปฟ้องที่ศาลเยอรมัน แล้วยึดเครื่องบินพระองค์ท่าน ทั้งที่มีเอกสารตราสัญลักษณ์ถูกต้องตามหลักสากล” อัยการสูงสุดกล่าวและว่า ในการรับผิดชอบคดีครั้งนี้ อัยการไม่รู้สึกหนักใจ เราทำตามหน้าที่

นายจุลสิงห์กล่าวต่อว่า คาดว่าเรื่องการถอนอายัดน่าจะเสร็จสิ้นในช่วงปลายเดือน ส.ค.นี้ ขณะที่คดีซึ่งบริษัทวอเตอร์ บาว ร้องขอต่อศาลเบอร์ลิน ประเทศเยอรมัน ให้วินิจฉัยเกี่ยวกับทรัพย์สินเพื่อบังคับตามคำวินิจฉัยชี้ขาดของอนุญาโตฯ นั้น ขณะนี้คดีอยู่ในการพิจารณาศาลชั้นต้นซึ่งยังไม่ได้เริ่มสืบพยาน โดยอยู่ระหว่างการให้คู่ความยื่นเอกสาร บัญชีพยานที่จะต่อสู้ ซึ่งพยานคนกลางที่อัยการยื่นต่อสู้อุทธรณ์คดีต่อศาลนิวยอร์กเราก็จะนำมาใช้คดีนี้ด้วย ซึ่งศาลเบอร์ลินนัดส่งเอกสารในวันที่ 16 ส.ค.นี้ อย่างไรก็ดีเกี่ยวกับคดีวอเตอร์ บาวนั้น ที่ผ่านมา อัยการเรายังได้ยื่นคำร้องต่อศาลปกครอง เพื่อขอให้เพิกถอนคำวินิจฉัยคำชี้ขาดอนุญาโตฯ ด้วยแต่ศาลปกครองชั้นต้น ได้ส่งให้ศาลปกครองสูงสุดพิจารณาเป็นคดีข้อพิพาทเรื่องสัญญาคุ้มครองการลงทุนระหว่างไทยเยอรมัน เรื่องทางด่วน ซึ่งยังอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะรับฟ้องหรือไม่

**กต.เผยอสส.ยื่นศาลนิวยอร์กวันนี้

นายเจษฎา กตเวทิน รองอธิบดีกรมสารนิเทศ ปฏิบัติหน้าที่แทนโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ในวันที่ 29 ก.ค.เป็นวันครบกำหนดการยื่นเอกสารเพิ่มเติมในการอุทธรณ์ ตามที่บริษัท วอลเตอร์ บาว ได้ยื่นขอให้ศาลที่นิวยอร์ก มีคำสั่งบังคับคดีตามคำร้องขออนุญาโตตุลาการ ซึ่งเรื่องนี้ อยู่ในขอบเขตอำนาจหน้าที่ของสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ในการดำเนินการรวบรวมเอกสาร และหลักฐานที่หนักแน่น เพื่อดำเนินการทางกฎหมายของฝ่ายไทยและคาดว่าทาง อสส.ยื่นเอกสารต่อศาลได้ทันอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศรับผิดชอบในเรื่องการดำเนินการทางกฎหมาย กรณีให้ถอนอายัดโบว์อิ้ง 737 ราชพาหนะส่วนพระองค์เท่านั้น โดยคงต้องรอลุ้นคำพิจารณาของศาลเยอรมนีอีกครั้ง ในช่วงกลางเดือน ส.ค.นี้.
กำลังโหลดความคิดเห็น