อสส.มั่นใจสู้คดี วอลเตอร์ บาว บังคับคดีอนุญาโตฯ ศาลนิวยอร์ก ยื่นอุทธรณ์ถูกตัดคนกลาง รู้ดีสัญญาไทย-เยอรมนี พยานปากเอก ท้าอยากยึดทรัพย์สินให้ฟ้องที่ศาลไทย ส่วนคดีโบอิ้ง ย้ำ รู้ผลสิ้น ส.ค.พร้อมเตรียมฟ้องกลับสู้คดี
วันนี้ (29 ก.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น.ที่โรงแรมทีเค.พาเลซ ถนนแจ้งวัฒนะ สำนักงานอัยการสูงสุด ได้จัดเสวนาทางวิชาการเรื่อง “การประชาสัมพันธ์ยุคใหม่ : อัยการไม่ห่างไกลประชาชน” โดยมี นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อัยการสูงสุด ได้แสดงปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “ทิศทางการบริหารของสำนักงานอัยการสูงสุดในฐานะองค์กรอื่นตามรัฐธรรมนูญ”
นายจุลสิงห์ อัยการสุงสุด กล่าวว่า อัยการต้องทำให้เกิดความเสมอภาคต่อการบังคับใช้กฎหมาย ทำให้ประชาชนเชื่อมั่นและศรัทธาในองค์กร เนื่องจากงานของอัยการหลักๆ คือ เป็นโจทก์แทนรัฐ ถ้าผิดเราฟ้อง ถ้าไม่ผิดเราสั่งไม่ฟ้อง ซึ่งความเป็นกลางสำคัญที่สุด การสั่งคดีจึงต้องเป็นกลางด้วย และเราจะไม่เข้าข้างใคร ดังนั้น จะมาบอกว่าเราทำงานแทนผู้เสียหายไม่ได้ หรือทำแทนผู้ต้องหาก็ไม่ได้ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของอัยการ คือ เที่ยงธรรม เป็นกลาง ขอยืนยันว่า การทำหน้าที่ของอัยการยึดหลัก ONE STANDARD ไม่มีสองมาตรฐาน การมีคำสั่งใดๆ ต้องเป็นไปด้วยหลักเหตุผลภายใต้เงื่อนไขอย่างเดียวกัน
นอกจากนี้ นายจุลสิงห์ อัยการสูงสุด ยังได้ตอบเกี่ยวกับขั้นตอนและความคืบหน้าการต่อสู้คดี ที่ศาลแห่งกรุงเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี มีคำสั่งอายัดเครื่องบิน Boeing 737-400 เครื่องบินพระราชพาหนะส่วนพระองค์ของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามกุฎราชกุมาร ด้วยว่า อัยการจะเร่งดำเนินการฟ้องกลับแน่นอน ในเดือน ส.ค.นี้ แต่จะฟ้องใคร ที่ไหน ข้อหาอะไร ในเรื่องมูลเหตุใดขออุบไว้ก่อน เพราะเป็นเทคนิคทางคดี ซึ่งต้องมีมาตรการคุ้มครองประเทศไทย และจะแจ้งให้ทราบหากดำเนินการแล้ว ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวยึดเครื่องบินส่วนพระองค์ลำที่ 2 นั้น เป็นเพียงข่าวลือ โดยเครื่องบินลำที่ 2 ไม่เคยเป็นของกองทัพอากาศ ทรงใช้พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ซื้อ ดังนั้น ถ้ายังมาวุ่นวายคงต้องมีอะไรแรงๆ กลับไปบ้าง
นายจุลสิงห์ ยังกล่าวถึงความคืบหน้า คดีที่ บริษัท วอลเตอร์ บาว ฟ้องศาลนิวยอร์ก บังคับทางการไทยทำตามคำชี้ขาดอนุญาโตตุลาการ ว่า เมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา อัยการได้ยื่นอุทธรณ์คดีแล้ว เชื่อว่า พยานหลักฐานที่ยื่นไปดีที่สุด และมีโอกาสที่จะชนะคดีได้ ส่วนที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมอนุญาโตตุลาการตัดสินแล้วรัฐบาลยังไม่จ่ายเงิน เป็นการเบี้ยวหรือไม่ ขอชี้แจงว่า อนุญาโตฯ ไม่ใช่ศาล เป็นเพียงผู้ได้รับอนุญาตให้ตัดสินในข้อพิพาท ซึ่งที่สุดแล้วต้องให้ศาลมีคำสั่งบังคับว่าจะเห็นด้วยกับอนุญาโตฯหรือไม่ เป็นกติกาสากลที่ทั่วโลกใช้กัน ในกรณีนี้รัฐบาลไทยใช้สิทธิในการยื่นอุทธรณ์ประเด็นว่าอนุญาโตฯปฏิบัติถูกต้องหรือไม่ ถ้าศาลเห็นว่า อนุญาโตฯ ทำไม่ถูกต้อง ก็จะตัดสินให้ไทยไม่ต้องปฏิบัติตามคำชี้ขาดของอนุญาโตฯ แต่ที่ผ่านมา อนุญาโตฯ ไม่ได้เปิดโอกาสให้ฝ่ายไทยนำพยานบุคคลเข้าพิสูจน์อย่างเต็มที่ ตัดพยานปากสำคัญ ซึ่งเป็นผู้รู้เรื่องราวการทำสัญญา และเป็นตัวกลางในการเจรจาของไทย-เยอรมนี ซึ่งคนนี้เป็นชาวต่างชาติ ถือเป็นคนกลางที่มีน้ำหนัก ออกอย่างไม่มีเหตุผล ซึ่งอัยการไทยยังติดใจที่จะต้องให้นำตัวมาสืบเพื่อให้ได้ความจริงครบถ้วน เชื่อว่า หากได้นำสืบพยานปากก็จะชี้ให้ศาลเห็น การเข้ามาทำสัญญาของเยอรมนีเป็นการลงทุน ไม่ใช่การเข้ามาถือหุ้นในโครงการนั้น และจะทำให้การวินิจฉัยของอนุญาโตฯ ไม่อาจบังคับได้
“ถ้าอยากได้ทรัพย์สินก็ควรมาฟ้องที่ศาลไทย ซึ่งมีทรัพย์สินของรัฐบาลอยู่มากมาย หากคิดว่าอนุญาโตฯวินิจฉัยถูกต้องจริง ก็เรียนเชิญให้มาฟ้องที่ศาลไทย ถ้าชี้ขาดถูกต้องศาลไทยก็จะบังคับคดีให้ แต่คดีนี้ชี้ขาดมากกว่า 2-3 ปีแล้ว ไม่เห็นมาฟ้อง ไปฟ้องที่ศาลเยอรมนี แล้วยึดเครื่องบินพระองค์ท่าน ทั้งที่มีเอกสารตราสัญลักษณ์ถูกต้องตามหลักสากล” อัยการสูงสุด กล่าวและว่า ในการรับผิดชอบคดีครั้งนี้ อัยการไม่รู้สึกหนักใจ เราทำตามหน้าที่
นายจุลสิงห์ กล่าวต่อว่า มีหลายคดีที่อนุญาโตฯชี้ขาดให้รัฐแพ้ แล้วไปจบที่ศาลฎีกา มีคำสั่งให้เพิกถอนคำชี้ขาดอนุญาโตฯ เพราะคำชี้ขาดขัดต่อความสงบเรียบร้อย ซึ่งเป็นหลักที่ทุกศาลในโลกใช้บังคับ หลายเรื่องรัฐแพ้ ก็ยินดีจ่ายเงินให้ทันที ถ้าไม่มีข้อกังขา อัยการก็แจ้งข้อหารือให้รัฐบาลจ่ายหลายคดี สำหรับคดีนี้ข้อกฎหมายก็เคลียร์ ข้อต่อสู้ก็เคลียร์ เรามีหลักฐานตามสมควร ที่ชี้ให้เห็นว่า เครื่องบินไม่ได้เป็นของรัฐบาล ซึ่งการฟ้องขอถอนอายัดเครื่องบินที่ไทยร้องต่อศาลแลนด์ชูตส์ ประเทศเยอรมนี นั้น ศาลนัดสืบพยานในช่วง ส.ค.นี้ แต่ยังไม่ระบุวันชัดเจน แต่คาดว่า เรื่องการถอนอายัดน่าจะเสร็จสิ้นในช่วงปลายเดือน ส.ค.นี้ ขณะที่คดีซึ่งบริษัท วอลเตอร์ บาว ร้องขอต่อศาลเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ให้วินิจฉัยเกี่ยวกับทรัพย์สินเพื่อบังคับตามคำวินิจฉัยชี้ขาดของอนุญาโตฯ นั้น ขณะนี้คดีอยู่ในการพิจารณาศาลชั้นต้น ซึ่งยังไม่ได้เริ่มสืบพยาน โดยอยู่ระหว่างการให้คู่ความยื่นเอกสาร บัญชีพยานที่จะต่อสู้ ซึ่งพยานคนกลางที่อัยการยื่นต่อสู้อุทธรณ์คดีต่อศาลนิวยอร์ก เราก็จะนำมาใช้คดีนี้ด้วย ซึ่งศาลเบอร์ลินนัดทั้งสองฝ่ายให้ส่งเอกสารในวันที่ 16 ส.ค.นี้ อย่างไรก็ดี เกี่ยวกับคดีวอลเตอร์ บาว นั้น ที่ผ่านมา อัยการเรายังได้ยื่นคำร้องต่อศาลปกครอง เพื่อขอให้เพิกถอนคำวินิจฉัยคำชี้ขาดอนุญาโตฯ ด้วยแต่ศาลปกครองชั้นต้น ได้ส่งให้ศาลปกครองสูงสุดพิจารณาเป็นคดีข้อพิพาทเรื่องสัญญาคุ้มครองการลงทุนระหว่างไทยเยอรมัน เรื่องทางด่วน ซึ่งยังอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะรับฟ้องหรือไม่
ส่วนกรณีที่ประเทศเยอรมนี ยกเลิกการถอนวีซ่า ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในการเข้าประเทศนั้น นายจุลสิงห์ กล่าวว่า ถือเป็นเอกสิทธิ์ของประเทศนั้นที่จะอนุญาตให้บุคคลใดเข้าออกได้หรือไม่ รัฐบาลไทยไม่อาจแทรกแซงได้ โดยเชื่อว่า เรื่องนี้จะไม่กระทบกับคดีส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดน หรือจะกระทบความสัมพันธ์ระหว่าง และคดีที่มีข้อพิพาทกันอยู่ระหว่างสองประเทศ
