พล.อ.อ.วีรวิทย์ เชื่อ ฮ.ตกไม่น่าเกี่ยวกับการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้าง แต่กองทัพควรชี้แจงให้ชัดเพื่อลดความคลางแคลงใจของประชาชน เลิกอ้างเป็นความลับ ด้าน รศ.ดร.พิชาย แนะผบ.ทบ.ไม่ต้องเกรี้ยวกราดใคร เป็นผู้นำที่ดีต้องยอมรับความจริงเพื่อแก้ไขปัญหา
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ “คนเคาะข่าว”
เวลา 20.30 น. ของวันที่ 25 ก.ค. รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต อาจารย์คณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้ม นิด้า และพล.อ.อ.วีรวิท คงศักดิ์ ส.ว.สรรหา และกรรมาธิการตรวจสอบการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา ร่วมพูดคุยในรายการ “คนเคาะข่าว”
โดยช่วงหนึ่งผู้ดำเนินรายการได้ถามถึงกรณี เฮลิคอปเตอร์ 3 ลำตก ว่าเกี่ยวข้องกับการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างของกองทัพหรือไม่ รวมทั้งงบประมาณที่เสียไปเหมาะสมกับประสิทธิภาพของอาวุธยุทโธปกรณ์หรือไม่ พล.อ.อ.วีรวิทย์กล่าวว่า บางครั้งอาจเป็นการกล่าวหาที่ต้องดูข้อมูลหน่อย ตนมีข้อสังเกตว่าในการจัดซื้อจัดจ้างที่ไม่ชอบมาพากล ส่วนมากจะมีปัญหาตอนตรวจรับ อย่างกรณีบอลลูน และ GT200 อันนี้คือสิ่งที่ต้องตรวจสอบ และกองทัพต้องอธิบายต่อสังคมว่ามันเกิดจากอะไร สิ่งที่สังคมต้องการรู้คือ ถ้าโปร่งใสจริงต้องชี้แจงออกมาว่ากระบวนการเป็นอย่างไร ที่ว่าประสิทธิภาพของอุปกรณ์นั้นไม่ดีอย่างไร เพื่อให้คนไปพิสูจน์ จะบอกแต่ว่าดี ใช้ได้ กำลังทดลอง ไม่ได้ หมดสมัยแล้วที่จะมาบอกโดยไม่มีข้อมูล
การโปร่งใสทุกคนต้องมีส่วนร่วมในการบอกว่าสิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่กองทัพต้องการหรือเปล่า มันอาจไม่ใช่เรื่องอาวุธยุทโธปกรณ์อย่างเดียว แต่หมายถึงอุปรกรณ์ต่างๆ หรือสิ่งที่จะให้ท้องถิ่นเขาได้ด้วย คงเคยได้ยินเรื่องสนามเด็กเล่นที่ท้องถิ่นไม่ได้อยากได้ แต่ส่วนกลางส่งไปให้ ก็กลับกลายเป็นสนามร้าง ต่อไปนี้เรื่องของธรรมาภิบาลที่ต้องเข้ามา รัฐธรรมนูญได้เขียนแล้ว ทุกหน่วยต้องดำเนินการ ทุกกระทรวง ทบวง กรม โดยเฉพาะกระทรวงกลาโหมต้องเข้ามาอยู่ในการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี เพราะว่า พ.ร.บ.การจัดระเบียบกระทรวงกลาโหมปี 51 กระทรวงกลาโหมเป็นคนเขียนเองในมาตรา 7 ว่าการบริหารกิจการของกลาโหมนั้นจะใช้มาตรการตามกฎหมายว่าด้วยการบริหาร กิจการบ้านเมืองที่ดี ซึ่งขณะนี้ก็คือพระราชฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี ปี 2548
ถ้าสิ่งใดทำไม่ได้ต้องออกพระราชกฤษฎีกายกเว้น อันนี้อยู่ในกฎหมาย เพราะฉะนั้นอาวุธยุทโธปกรณ์ทุกอย่างที่กองทัพจัดซื้อก็เข้าในเกณฑ์นี้ ต้องมีความโปร่งใส ต้องเอาทุกอย่างมาบอกว่าซื้ออันนี้เพื่ออะไร ประเทศได้อะไรจากสิ่งอันนี้ บางอย่างอย่าไปอ้างเป็นเรื่องของความลับ สมัยนี้ไม่สามารถปิดได้แล้ว บางอย่างอาจต้องมีกระบวนการในการให้ความโปร่งใส หรืออะไรที่ต้องปกปิดก็บอกในวงจำกัด แต่สิ่งที่ต้องเปิดเผยแน่ๆ คือประสิทธิภาพของสิ่งที่ซื้อมามันใช้ได้หรือเปล่า หลายคนที่คลางแคลงก็เอามาดู ให้ทุกคนพิสูจน์ให้เห็นกัน
พล.อ.อ.วีรวิทย์กล่าวอีกว่า แต่เรื่องเฮลิคอปเตอร์ที่มีปัญหา ตนคิดว่าคงไม่ใช่เรื่องการทุจิรต เพราะเป็นเรื่องที่เข้ามาสู่ระบบการทำงานตั้งแต่ปี 2545 เก้าปีแล้ว ฉะนั้น การทำงานอาจไม่เกี่ยวกับอุบัติเหตุอันนี้ แต่สิ่งต่างๆ ที่สังคมยังมีความคลางแคลงใจ เกี่ยวกับเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างของรัฐ โดยเฉพาะกองทัพ กองทัพต้องอธิบายให้ประชาชน เพราะเงินอันนี้คือเงินภาษีประชาชนที่ให้กองทัพไปใช้ กระบวนการตรงนี้อยากให้ปรับปรุงให้ดีขึ้น และขอย้ำสิ่งอันนี้คือสิ่งที่กองทัพเขียนขึ้นเองในกฎหมายของกระทรวงกลาโหม
รศ.ดร.พิชายกล่าวว่า การที่เฮลิคอปเตอร์ตก 3 ลำ ถึงเวลาที่กองทัพต้องทบทวน และสรุปบทเรียน ว่ามีอะไรเกิดขึ้น มันต้องมีอะไรผิดปกติบางอย่าง อาจจะเพราะตัวเครื่อง อาจผิดปกติในเรื่องของการประเมินประสิทธิภาพของเครื่อง การซ่อมบำรุง การประเมินสภาพอากาศ หรือแม้กระทั่งการฝึก ต้องมาทบทวนว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นมันช็อกคนไทย คิดว่าคนไทยอยากให้กองทัพไทยมีแสนยานุภาพที่สูง แล้วเราก็ใช้เงินกับกองทัพจำนวนมาก ข่าวคราวในอดีตที่ผ่านมามันก็มีปัญหาในหลายเรื่อง ที่กองทัพซื้อรถถัง ซื้อโน่นซื้อนี่ แล้วมันก็ใช้ไม่ได้
แต่ปัจจุบันข่าวสารมันปิดไม่ได้ อย่างซื้อเครื่องบินรบ สเปกก็หาได้ในอินเทอร์เน็ต ราคาเท่าไหร่ แม้กระทั่งคนวงในเองที่เขามีความรู้ก็บอกราคามาได้ถ้าซื้อแพงเกินไป การตั้งราคาเกินปัจจุบันมันเป็นไปได้ยาก การซื้อเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพก็เป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะต้องคำนึงถึงชีวิตของพี่น้องทหารของเรา
“ปัญหาที่เกิดขึ้น ต้องยอมรับความจริง แล้วค่อยๆ แก้ไขให้ได้ แก้ไขให้สิ่งต่างๆเหล่านี้ไม่มีในอนาคต เพื่อให้กองทัพแข็งแกร่ง ทั้งในด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ และบุคลากร ที่จะสร้างความมั่นใจให้ประชาชน ถ้าเป็นอย่างนี้ประชาชนก็คลางแคลงใจต่อกองทัพ ต้องรับความจริงไม่ต้องกราดเกรี้ยวใคร สำรวจดูตัวเองให้ชัดเจน ว่าสิ่งบกพร่องอยู่ที่ไหนอย่างไร ผู้นำที่ดีต้องยอมรับปัญหาที่เกิดขึ้น และแก้ปัญหาอย่างเป็นลูกผู้ชาย และกล้ายอมรับความจริง ความผิดพลาด ถ้าไม่กล้าไม่เป็นผู้นำที่แท้จริง” รศ.ดร.พิชายกล่าว
