“สุนันท์” ระบุยังมองไม่เห็นอนาคตตลาดหุ้นสดใส เตือนอย่าไว้ใจกู้วิกฤตอิตาลี อาจเหมือนต้มย้ำกุ้งปี 40 ชี้ดาวโจนส์ล่วงอีก 167จุด ช้อนหุ้นช่วงนี้ต้องเผื่อใจภาวะเสี่ยงสูง ชี้ รบ.ถลุงใช้งบฯ ขาดดุลทำหนี้สาธารณะยิ่งเพิ่ม กดดัน “ปูแดง” วัดใจจะเลือกรักษาฐานเสียงหรือรักษาประเทศ
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ “คนเคาะข่าว”
วันที่ 18 ก.ค. นายสุนันท์ ศรีจันทรา นักวิเคราะห์ตลาดหลักทรัพย์ ได้รับเกียรติให้เป็นแขกรับเชิญในรายการ “เคาะข่าวเศรษฐกิจ” ออกอากาศทางสถานีเอเอสทีวี ทีวีของประชาชน โดยมีนายกานต์ จอมอินคา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ ร่วมพูดคุยถึง บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นไทย รวมถึงนโยบายสัญญาประชาคมของพรรคเพื่อไทยที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ
นายสุนันท์กล่าวว่า ทิศทางหุ้นเคลื่อนไหวค่อนข้างเงียบ แกว่งตัวขึ้นในช่วงแคบๆ ล่าสุดดัชนีดาวโจนส์ลงไปอีก 167 จุด ส่ออาการไม่ค่อยดี นักลงทุนต้องเตรียมตัวเตรียมใจ สำหรับนักลงทุนที่มองว่า กกต.จะรับรอง ส.ส.เพิ่มจนสามารถทำให้เปิดสภาได้ รัฐบาลน่าจะพาประเทศไปในทิศทางที่สดใส เศรษฐกิจจะดี จะทำให้ราคาหุ้นดีดตัวขึ้นนั้น เป็นการมองโลกในแง่ดีเกินไป มองข้ามสถานการณ์ในยุโรป อีกทั้งในไทยเองยังมีปัญหาอีกมากมายซุกอยู่ใต้พรม ซึ่งยังไม่รู้เลยจะแก้กันยังไง ตนไม่เข้าใจมันจะดีได้อย่างไร
“การที่ประเทศอิตาลีผ่านการทดสอบสภาวะวิกฤต ทำให้ดูเหมือนว่าอาจคาดหวังอะไรได้บ้าง กรณีนี้ไม่ต่างจากเราเมื่อปี 2540 ที่มีปัญหาเกิดขึ้นเยอะ แล้วมาบอกว่าไม่มีปัญหาแบงค์ไม่ล้ม ไฟแนนซ์ปิดมาแล้ว 16 แห่งจะไม่มีปิดเพิ่มอีก ค่าเงินบาทไม่ลด แต่สุดท้ายไฟแนนซ์ แบงก์ ล้มกันเป็นแถว ค่าเงินบาทปล่อยลอยตัว ดังนั้นขอเตือนว่า อย่าเชื่อมาก”
นายสุนันท์กล่าวว่า รัฐบาลชุดใหม่มีนโยบายมากมายในการจ่ายเงิน เข้าใจสัญญาว่าจะให้กับประชาชน หากไม่ทำก็โดนด่า แต่ทำแล้วต้องดูผลว่ามันคุ้มกันหรือเปล่า จะมีปัญหาตามมาหรือไม่ วิกฤตหนี้ในประเทศอิตาลีเป็นตัวอย่างได้ดีในเรื่องการใช้จ่ายเงิน
มีข่าวเตรียมโยนภาระให้ภาคอุตสาหกรรมด้วยการปรับราคาแก๊สหุงต้มขึ้นอีก 3 บาทต่อกิโลกรัม ภาคอุตสาหกรรมเซรามิก จังหวัดลำปางออกมาคัดค้านหากรัฐบาลทำจริง ภาคอุตสาหกรรมจำเป็นต้องลดต้นทุน จะทำให้จังหวัดลำปางมีคนตกงานไม่ต่ำกว่า 2,000 คน นี่ยังไม่รวมถึงเรื่องค่าแรงที่บอกจะปรับขั้นต่ำ 300 บาทต่อวัน แค่เจอแค่เรื่องพลังงานอย่างเดียวก็ล่อแร่แล้ว ส่วนประเด็นจะก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ภายใน 14 ปีข้างหน้า โดยจะบรรจุเป็นวาระแห่งชาติ เรื่องนี้อันตรายมีหลายมุมมองที่ยังต้องถกเถียง หากถามว่าทำดีๆ ไม่ให้มีผลกระทบทำได้หรือป่าว ตนว่ามันก็ทำได้ แต่กลัวมากที่สุดคือการทุจริตคอร์รัปชั่น เรื่องนี้มีมาตรควบคุมดูแลดีพอหรือยัง ถึงเวลาและจำเป็นหรือยัง
นายสุนันท์กล่าวถึงเรื่องค่าแรงว่า หากจะปรับขึ้นเป็น 300 บาทต่อวัน แล้วช่วยเหลือผู้ประกอบการด้วยการลดภาษี ก็มีปัญหาผู้ประกอบการรายย่อยซึ่งปกติกำไรน้อยอยู่แล้ว ไม่อาจทำตามนโยบายรัฐบาลได้ ประกอบกับปัญหาหนี้ของไทยตอนนี้ไม่ใช่น้อย หากยังใช้งบประมาณขาดดุลอยู่ ยิ่งขยายเพดานมาก หนี้สาธารณะยิ่งเพิ่ม สุดท้ายจะบานปลาย อย่างไรก็ดี เรื่องนี้ก็แล้วแต่รัฐบาลจะเลือกเสี่ยงรักษาฐานเสียง หรือรักษาประเทศ เพราะหากเกิดปัญหาขึ้นมาประเทศจะสาหัสหนัก ถึงตอนนั้นก็แก้ปัญหาไม่ได้แล้ว