ปชป.ประโคมเชิญชวน ปชช.ทวงสัญญาประชานิยมเพื่อแม้ว ขีดเส้นไม่เคาะค่าแรง300-เงินเดือน ป.ตรี 15,000 บาท-แจกแท็บเล็ต มกราคม 55 เจอฟ้องยุบพรรคฐานหลอกลวงประชาชน แนะแก้เผ็ดเยอรมัน ยึดดอนเมืองโทลล์เวย์คืน หลังพบ บริษัท วอเตอร์ บร์าว เคยเป็นหุ้นส่วน
วันนี้ (17 ก.ค.) ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ว่าที่ส.ส.จังหวัดสงขลา คณะทำงานด้านกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวกรณีนโยบายหาเสียงของพรรคเพื่อไทย ที่เสนอให้ขึ้นค่าแรง 300 บาทต่อวัน และแจกเครื่องคอมพิวเตอร์ให้แก่เด็กนักเรียนจำนวนกว่า 12ล้านคนทั่วประเทศ รวมถึงนโยบายการขึ้นเงินเดือนให้แก่ผู้ที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรี 15,000 บาทต่อเดือน ว่า หากการประกาศนโยบายรัฐบาลในช่วงเดือนสิงหาคมนี้ ไม่มีการปฏิบัติจริงภายในมกราคม 2555 เหมือนกับที่หาเสียงไว้ จะถือว่าเป็นการหลอกลวงประชาชน อันเข้าข่ายกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ส.-ส.ว.ตามมาตรา 53 และหากพรรคเพื่อไทยรู้เห็น ก็อาจจะเข้าข่ายฐานความผิดร่วมกันจนนำไปสู่การพิจารณายุบพรรคได้ ทั้งนี้ หากถึงเวลาที่กำหนด ทางพรรคประชาธิปัตย์คงไม่จำเป็นต้องร้อง เพราะเชื่อว่าคงจะมีผู้ใช้แรงงาน นักเรียน และผู้จบปริญญาตรี ที่ผิดหวังจากการหลอกลวงไปร้องศาลเพื่อขอให้ยุบพรรคเพื่อไทยอย่างแน่นอน
ส่วนกรณีที่ก่อนหน้านี้ พรรคเพื่อไทย อ้างว่า พรรคประชาธิปัตย์เองก็เคยสัญญานโยบายว่าจะทำได้จริงภายใน99วัน แต่ก็ทำไม่ได้เช่นเดียวกันนั้น นายวิรัตน์ กล่าวยืนยันว่า ทุกนโยบายที่ประกาศไว้ พรรคประชาธิปัตย์ทำได้จริง อาทิ นโยบายเรียนฟรี 15ปี นโยบายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เบี้ยเลี้ยงอาสาสมัครสาธารณสุขขั้นมูลฐาน (อสม.) อีกทั้งการแก้ปัญหาภาคใต้ความรุนแรงก็ลดน้อยลง เห็นจากจำนวนคดีที่ลดน้อยลง ตั้งแต่รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์เข้ามาทำงาน
ด้าน นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ผู้สมัคร ส.ส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์และอดีตในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) สภาฯกล่าวถึงกรณีที่ทางการของเยอรมันสั่งอายัดเครื่องบินของสัญชาติไทย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาลเยอรมัน ว่า กรณีนี้หากมีการอายัดเครื่องบินจริงก็ถือว่ามีการทำผิดสัญญาสัมปทาน เนื่องจากตามสัญญาในข้อ 6.9 ระบุว่า หากมีคดีในข้อพิพาทซึ่งผู้รับสัมปทานได้ยื่นฟ้องต่อศาลหรือได้ยื่นคำเสนอข้อพิพาทต่ออนุญาโตตุลาการไว้ก่อนที่จะทำบันทึกข้อตกลง ผู้รับสัมปทานจะต้องถอนฟ้องหรือถอนข้อพิพาทที่เสนอต่ออนุญาโตตุลาการทั้งหมด ภายใน 30 วัน นับแค่วันที่ทำบันทึกข้อตลงนี้ มิฉะนั้น กรมทางหลวงมีสิทธิที่จะยกเลิกข้อตกลงฉบับนี้
ดังนั้น จึงถือว่า ทาง บริษัท วอเตอร์ บร์าวซึ่งเป็นอดีตหนึ่งในผู้ที่ถือหุ้นในโครงการก่อสร้างดอนเมืองโทลล์เวย์ ไม่ได้ปฏิบัติตามสัญญา รัฐบาลไทยจึงควรที่จะยึดสัมปทานดอนเมืองโทลล์เวย์กลับคืนมา ซึ่งในเรื่องนี้คณะกรรมาธิการ ป.ป.ช.ได้เคยมีมติในช่วงก่อนที่ยุบสภาว่า ให้มีการฟ้องร้อง แต่มีการยุบสภาไปก่อน
จึงไม่ได้มีการดำเนินการ ดังนั้น หลังจากเสร็จสิ้นคดีเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ตนในฐานะที่เป็นประชาชนคนไทยก็จะดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลอาญาเพราะถือว่ามีการร่วมกันฉ้อฉล และฉ้อโกงรัฐบาลไทย ซึ่งมีความผิดตามกฎหมายอาญา โดยยังพบหลักฐานว่า นายสมบัติ พานิชชีวะ ซึ่งเป็นตัวแทนผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ของโครงการดอนเมืองโทรเวย์ ได้มีการจ่ายเงินสำรองในการดำเนินกระบวนการอนุญาโตตุลาการ โดยจ่ายไม่เกิน1.5 หมื่นยูโร ต่อเดือน แสดงให้เห็นว่า คดีนี้มีข้อพิพาทในอนุญาโตตุลาการ จึงต้องมีการถอนฟ้องตามสัญญาในข้อ 6.9