ประชาธิปไตยใหม่โผล่ร่วมผสมพันธุ์รัฐปูแดงอีก 1 อ้างเคยหาเสียงมอบพรรคให้ผู้ชนะ “อนุดิษฐ์” โวพรรคได้ ส.ส.เพิ่ม กทม.จากเดิมกว่า 70% คะแนนต่าง ปชป.แค่แสน ยังเทียบรัศมีได้ อ้างผู้ว่าฯ กทม.มีส่วนได้เสียประชาธิปัตย์ ทำเป็นทุกข์ จี้ กกต.พิจารณาให้ข้าราชการ กทม.จุ้นเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ เล็งร้องโกงเพิ่ม
วันนี้ (7 ก.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากที่นั่ง 299 ยังเป็นตัวเลขที่พรรคเพื่อไทยยังไม่รู้สึกว่าดีพอ แล้วบังเอิญว่านายวิชาญ มีนชัยนันท์ ประธาน ส.ส.ภาค กทม.ได้ทำการเจรจากับพรรคประชาธิปไตยใหม่ ซึ่งมี 1 เสียง ได้มาเข้าร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย
ด้าน นายวิชาญกล่าวว่า นายสุรทิน พิจารณ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ เองมองว่าปัญหาบ้านเมืองเป็นปัญหาสำคัญ จึงได้มีการพูดคุยกันถึงการเข้าร่วมงานทางการเมืองเพื่อผลักดันการแก้ไขปัญหาร่วมกัน
ขณะที่นายสุรทินกล่าวว่า ตนและนางพัชรินทร์ มั่นปาน ส.ส.1 เดียวของพรรค ตนได้เคยพูดเอาไว้ตอนที่ได้หาเสียงกับประชาชนแล้วว่า หากตนได้ที่นั่งในการเลือกตั้ง ตนก็จะมอบให้กับพรรคที่เป็นอันดับที่หนึ่งในการเลือกตั้ง ซึ่งวันนี้ก็คือพรรคเพื่อไทย จากคะแนนหนึ่งเสียงตนไม่ได้หวังอะไร เพียงแค่ต้องการให้ประเทศได้รับสิ่งๆ ดี และตนก็สนับสนุน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่นายกรัฐมนตรีด้วย
นอกจากนี้ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รองประธานภาค กทม.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ภาพรวมพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งใน กทม.ทั้งสิ้น 10 เขตจากทั้งหมด 33 เขต ถือว่าได้เพิ่มจากเดิม 70% และพื้นที่ที่ชนะเป็นพื้นที่ในเขต กทม.ตอนบนและฝั่งตะวันออกทั้งหมด และมีชั้นใน 1 เขต คือ เขตดุสิต-ราชเทวี และเมื่อเปรียบเทียบจากคะแนนแล้ว แบบเขตคะแนนต่างกันเพียง 100,322 คะแนน และแบบบัญชีรายชื่อต่างกันเพียง 60,072 คะแนน จึงชี้ให้เห็นว่าพรรคเพื่อไทยได้รับความนิยมจากชาว กทม.ใกล้เคียงกับพรรคประชาธิปัตย์
น.อ.อนุดิษฐ์กล่าวต่อว่า พรรคเพื่อไทยมีความทุกข์ใจกับกระบวนการจัดการเลือกตั้งใน กทม.เป็นอย่างมาก เพราะทุกคนก็ทราบกันดีว่าผู้บริหาร กทม.อยู่ภายใต้การบริหารงานของพรรคประชาธิปัตย์ ดังนั้น การที่มีผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียควบคุมการเลือกตั้ง จึงเป็นความทุกข์ใจของพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด เพราะจากการเลือกตั้งที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยได้มีการตรวจสอบพบพฤติกรรมที่ไม่ชอบมาพากล นำไปสู่การร้องเรียนการทุจริตการเลือกตั้ง เพราะสาเหตุหลักก็มาจากกระบวนการจัดการเลือกตั้งที่มอบหมายให้ กทม.เป็นผู้ดำเนินการ
น.อ.อนุดิษฐ์กล่าวอีกว่า ทั้งนี้อยากเรียกร้องไปยัง กกต.ได้โปรดพิจารณาเรื่องดังกล่าวสำหรับการเลือกตั้งครั้งต่อๆ ไป ว่าควรจะจัดให้ข้าราชการกทม.มาทำหน้าที่ต่อไปอีกหรือไม่ หรือถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ กกต.จะมีมาตราใดในการควบคุมให้ กทม.จัดการเลือกตั้งอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม และหลังจากนี้พรรคเพื่อไทยได้มอบหมายให้นายวิชาญเป็นผู้รับผิดชอบในการปรึกษาหารือกับ กกต.พร้อมทำหนังสือประสานขอเข้าพบทันที ส่วนในภาคกทม.มีการร้องเรียนเรื่องการเลือกตั้งไปแล้ว 6-7 เขต และกำลังรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อยื่นเรื่องต่อ กกต.เพิ่มอีกต่อไป