กกต.ประกาศผลคะแนนเลือกตั้ง ส.ส.ปี 54 อย่างเป็นทางการ ระบุมีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งรวม 75% บัตรเสีย 5.79% และไม่ประสงค์ลงคะแนน 2.03 ล้านใบ คิดเป็น 4.03% ระบุจังหวัดที่มีผู้ออกมาใช้สิทธิมากสุด ได้แก่ จ.ลำพูน คิดเป็น 88% ส่วนพรรคเพื่อไทยได้รับเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อมากที่สุด คือ 15,744,190 คะแนน
วันนี้ (5 ก.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต.แถลงสรุปข้อมูลเกี่ยวกับผลการเลือกตั้ง ส.ส.เมื่อวันที่ 3 ก.ค.54 อย่างเป็นทางการ ว่า การลงคะแนนเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อมีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 35,203,107 คน คิดเป็น 75.03% จากจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 46,921,682 คน มีบัตรเสีย 1,726,051 ใบ คิดเป็น 4.9% บัตรไม่ประสงค์ลงคะแนน มีจำนวน 958,052 ใบ คิดเป็น 2.72% สำหรับการลงคะแนนเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งจำนวน 35,119,885 คน คิดเป็น 74.85% มีบัตรเสีย 2,039,694 ใบ คิดเป็น 5.79% บัตรไม่ประสงค์ลงคะแนน 1,419,088 คิดเป็น 4.03%
นายสุทธิพล กล่าวว่า สำหรับบัตรเสียในการเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อครั้งนี้ เมื่อเทียบกับการเลือกตั้งเมื่อปี 50 นั้น พบว่า มีจำนวนลดลง โดยปี 50 อยู่ที่ 5.56% และบัตรเสียการเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งเมื่อเทียบกับปี 50 พบว่า มีจำนวนมากขึ้น ซึ่งปี 50 อยู่ที่ 2.56% ส่วนบัตรไม่ประสงค์ลงคะแนนแบบแบ่งเขตเมื่อเทียบกับปี 50 ถือว่าลดลง เพราะปี 50 อยู่ที่4.58% และบัตรไม่ประสงค์ลงคะแนนแบบบัญชีรายชื่อเมื่อเทียบกับปี 50 ถือว่าลดลงเช่นกัน โดยปี 50 อยู่ที่ 2.85%
นายสุทธิพล กล่าวต่อว่า จังหวัดที่มีผู้มาใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งมากที่สุด 3 จังหวัด ได้แก่ จ.ลำพูน มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 88.61% รองลงมาคือ จ.เชียงใหม่ 83.13% จ.ตรัง 82.65% สำหรับพรรคการเมืองที่มีผู้สมัครได้การเลือกตั้ง ดังนี้ พรรคเพื่อไทย 265 คน แบ่งเป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 61 คน ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง 204 คน พรรคประชาธิปัตย์ 159 คน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 44 คน ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง 115 คน พรรคภูมิใจไทย 34 คน ส.ส.บัญชีรายชื่อ 5 คน ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง 29 คน พรรคชาติไทยพัฒนา 19 คน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 4 คน ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง 15 คน พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน 7 คน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 2 คน ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง 5 คน พรรคพลังชล 7 คน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 1 คน ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง 6 คน พรรครักประเทศไทย ได้รับเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 4 คน พรรคมาตุภูมิ 2 คน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 1 คน ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง 1 คน พรรครักษ์สันติ พรรคมหาชน และ พรรคประชาธิปไตยใหม่ ได้รับเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคละ 1 คน
นายสุทธิพล กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ หากไม่มีการร้องเรียนผู้สมัคร กกต.สามารถประกาศรับรองผู้สมัครที่ได้รับการเลือกตั้งได้ภายใน 7 วัน คือ ในวันที่ 12 ก.ค.ที่จะมีการเสนอให้ กกต.พิจารณารับรอง แต่ถ้ามีเรื่องร้องคัดค้าน กกต.ดำเนินการสืบสวนสอบสวนให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน คือ วันที่ 2 ส.ค.หลังจากนั้น กกต.จะให้การรับรองผู้สมัครที่ได้รับการเลือกตั้งไปก่อนแต่การสืบสวนสอบสวนยังดำเนินการต่อไป อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีการคัดค้านทั้งผู้สมัคร ส.ส.ที่ได้รับการเลือกตั้งและไม่ได้รับการเลือกตั้งเข้ามา 207 เรื่อง
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีการร้องคัดค้านไม่ให้ กกต.ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งให้ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายสุทธิพล กล่าวว่า กรณีดังกล่าว กกต.ยังไม่ได้มีการพิจารณา แต่จากที่เคยปัญหาในอดีตกรณีของ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ทาง กกต.สามารถประกาศผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองได้รับการเลือกตั้ง แต่จะเว้นไว้เฉพาะผู้ที่มีปัญหาและถูกร้องคัดค้าน หลังจากนั้น เมื่อมีการตรวจสอบเรียบร้อยแล้วก็สามารถประกาศรับรองผลภายหลังได้
ด้าน นายบุณยเกียรติ รักชาติเจริญ รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวว่า พรรคที่ได้รับเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อมากที่สุดคือ พรรคเพื่อไทย 15,744,190 คะแนน รองลงมาคือ พรรคประชาธิปัตย์ 11,433,501 คะแนน พรรคภูมิใจไทย 1,281,522คะแนน พรรครักประเทศไทย 998,527คะแนน พรรคชาติไทยพัฒนา 906,644 คะแนน พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน 494,894 คะแนน พรรครักษ์สันติ 284,112 คะแนน พรรคมาตุภูมิ 251,581 คะแนน พรรคพลังชล 178,106 คะแนน พรรคมหาชน 133,767 คะแนน พรรคประชาธิปไตยใหม่ 125,781 คะแนน ทั้งนี้ คะแนนที่นำมาหาค่าเฉลี่ยของ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อครั้งแรกอยู่ที่จำนวน 260,193 คะแนน ทำให้ได้ ส.ส.115 คน ส่วนอีก 10 คนที่เหลือ นำมาหาเฉลี่ยครั้งที่ 2 จึงได้ ส.ส.อีก 10 คน