“มาร์ค” ซัด “รัฐบาลชายจืด-หมัก” เตือนแล้วไม่ฟังปล่อยเขมรขึ้นทะเบียนเขาวิหาร ชนวนเกิดแผนบริหารรอบปราสาท ซึ่งเป็นดินแดนของไทย โอดรับไม่ได้ “นพเหล่” วิจารณ์ ตอกกลับไปลงนามจอยต์คอมมูนิเกไทยได้ประโยชน์อะไร หว่านคารมณ์ขอเสียง ลั่นนโยบาย ปชป.ชัดเจนไม่รับแผนบริหาร ทำให้ไทยไม่ต้องเสียดินแดน เขมรรุกล้ำมาไม่ลังเลบอกกองทัพให้ทำเต็มที่ ย้ำเลือก ปชป.ป้องอธิปไตย เลือกเพื่อไทยสนิทกับฮุนเซน
เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. พรรคประชาธิปัตย์ได้จัดเวทีปราศรัยย่อยที่บริเวณลานคนเมือง หน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร โดยมีแกนนำพรรค เช่น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง รองหัวหน้าพรรค นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผอ.ศูนย์อำนวยการเลือกตั้ง กทม. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. และผู้สมัคร ส.ส.ระบบเขตทั้ง 32 เขต และผู้สมัครบัญชีรายชื่อบางส่วน โดยมีประชาชนมาให้กำลังใจผู้สมัครของตนเองในแต่ละเขต และร่วมฟังการปราศรัยประมาณ 1, 000 คน ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างราบเรียบมีการเปิดคลิปวิดีโอการให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรที่ยืนยันจะกลับประเทศไทย และบรรยากาศการปราศรับที่เวที่ราชประสงค์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่าน
ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์กล่าวย้ำว่า ถ้า ปชป.เป็นรัฐบาลจะประสานงานกับ กทม.ผลักดันโครงการต่างๆได้เป็นอย่างดี ที่ผ่านมาที่เป็นรัฐบาล 2 ปีเศษ ยังมีหลายกระทรวงที่ทำงานไม่ได้เต็มที่ แต่ครั้งนี้ถ้าประชาชนเลือกเราท่วมท้น เราจะประสานงานดูแลได้เต็มที่ทั่วประเทศ งานที่จำเป็นต้องเร่งรัด ดูแลกระทรวง ทบวง กรม จะประสานได้เต็มที่ และ กทม.เป็นเมืองหลวงศูนย์กลาง เป็นหน้าตาของประเทศ นโยบายหลายอย่างเริ่มต้นนำร่องที่นี่ เราจะทำสิ่งเหล่านี้ไปทั่วประเทศ เช่น ยาเสพติด สินเชื่อมอร์เตอร์ไซด์รับจ้าง หาบเร่แผงลอย จะมีการเดินหน้า และขยายผลไปทั่วประเทศ
นายอภิสิทธิ์กล่าวถึงปัยหาไทย-กัมพูชาที่ติดอยู่ในใจคน กทม.เพราะหวงแหนอธิปไตยที่สุด และต้องการปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ และห่วงใยประชาชนชายแดน ปัญหาที่เกิดขึ้นและยากสุดคือที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลกว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร เราควรแสดงความขอบคุณนายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่เดินทางไปทำงานนี้ใช้เวลานาน ตนมอบหมายงานให้ด้วยความเกรงใจเพราะอยู่ในช่วงหาเสียง ซึ่งการที่กัมพูชาเอาปราสาทเขาพระวิหารไปขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเป็นเพราะพรรคพลังประชาชนที่เป็นรัฐบาลในสมัยนั้น เราเตือนตลอดว่าสุมเสี่ยงเสียดินแดน เพราะต้องมีการเสนอแผนการจัดการบริเวณรอบๆ ซึ่งถือเป็นดินแดนของไทย กัมพูชาเสนอแผนพัฒนาพื้นที่มาตั้งแต่ปี 52 ตนมาเป็นรัฐบาลมีแนวนโยบายชัดว่า ไม่ให้มีการเดินหน้ายอมรับแผนนี้ เพราะเท่ากับกัมพูชากำหนดได้ว่าจะมาทำอะไรบนดินแดนของไทย
นายอภิสิทธิ์ได้เล่าถึงขั้นตอนการต่อสู่ต่างๆ จนนำมาสู่การตัดสินใจถอนตัวจากภาคมรดกโลก วันนี้มีคนมาพูดให้เกิดความสับสนว่า ถ้าเราเดินหน้าถอนตัวจะเสียหายมาก ส่วนที่เราจะสูญเสียบ้างคือเรามีแผนไปขึ้นมรดกโลก แต่บอกว่าไม่ได้สูญเสียมากขนาดนั้นเพราะตนมั่นใจคุณค่าของโบราณสถานของไทยที่แม้ไม่เป็นมรดกโลกก็มีคนมาเที่ยวอยู่แล้ว ตนจึงยอมไม่ได้เด็ดขาด ที่เราเข้าไปดูแลเรื่องนี้ 3 ปี ทำให้เขาไม่สามารถพิจารณาแผนของกัมพูชาได้ ต้องยืนยันว่าเป็นเพราะนโยบายแน่วแน่ของรัฐ และการประสานกับนายสุวิทย์อยู่ตลอดเวลา นายฮุนเซนให้สัมภาษณ์ตามปกติที่มักจะด่าตน และท้าทาย มีอาการเยอะตนก็เข้าใจเพราะโฆษณาในประเทศมาก ว่าอย่างไรแผนนี้ต้องผ่าน ตนไม่จำเป็นตอบโต้เพราะปัญหาตนไม่ใช่กับนายฮุนเซน แต่ปัญหาตนคือทำให้ไทยไม่ต้องเสียดินแดน แต่ถ้ารุกล้ำมาตนก็ไม่ลังเล บอกกองทัพให้ทำเต็มที่
วันที่ 3 มีความหมายพิเศษ ตนไม่เชื่อว่าคนที่วิจารณ์นายสุวิทย์ หรือ ปชป.จะรวมถึงนายนพดล ปัทมะด้วย คนอื่นวิจารณ์พอเข้าใจ แต่นายนพดลเป็นผู้ดำเนินการเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหานี้ทั้งหมด และไม่เคยตอบคำถามว่าที่ทำไปมีประโยชน์อะไรกับไทย มีแต่คำถามว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อนอะไรกับนายของตัวเองหรือเปล่า มีต่างชาติหลายชาติเวลามาพบตนบอกอยากลงทนในพื้นที่พิพาท มีแก๊ส น้ำมันมาก ตนบอกว่าจะเดินหน้าได้ต่อเมื่อกัมพูชามาคุยกับเราเรื่องบริเวรปราสาทก่อน เราจะไม่คุยเรื่องอื่นที่เป็นเรื่องผลประโยชน์ ไม่ว่าใครจะมาพูดเรื่องผลประโยชน์อะไร พรรคยืนยันเราจะยึดถืออธิปไตยเราสูงสุด
“สิ่งหนึ่งที่ไม่ต้องสงสัยตนเลยคือผลประโยชน์ เพราะตนไม่มีผลประโยชน์อื่นใด แต่พรรคเพื่อไทยมีจุดยืนเรื่องนี้อย่างไร อย่าลืมว่าทักษิณคิดเพื่อไทยทำ ผมไม่รู้ทักษิณคิดอะไร แต่ถึงขั้นยอมเป็นที่ปรึกษาฮุนเซน ประชาชนจะยอมใหพรรคเพื่อไทยทำหรือไม่ เพื่อไทยมักจะด่า ปชป. และว่าถ้าเป็นรัฐบาลจะไม่มีปัญหา ผมไม่แปลกใจเพราะ ส.ส.บางคนเห็นเหมือนกัมพูชาในเรื่องดินแดน ฉะนั้นนอกจากเรื่องอื่นๆ ที่เป็นความแตกต่างแล้ว วันที่ 3 มีผลแน่นอนต่อการปกป้องอธิปไตย จึงขอให้คิดว่าจะเลือกประชาธิปัตย์ที่ป้องอธิปไตย หรือเลือกเพื่อไทยที่สนิทกับฮุนเซน”
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า หลังจากที่ปราศรัยที่ราชประสงค์ เกิดปรากฏการณ์แปลก พรรคเพื่อไทยออกมาตีโพยตีพายว่าไม่มีแผนนิรโทษกรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ตนตกใจวันรุ่งขึ้นไปดีเบทกับหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ตนถึงบอกให้อธิบายว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับมงานแต่งลูกได้อย่างไรถ้าไม่มีนิรโทษกรรม และจากคลิปที่เปิดให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศ ไม่เคารพศาล อ้างตัวเองไม่เคยผิด อ้างทั้งหมดเป็นเรื่องการเมือง และใช้คำว่ารัฐบาลปล้อนเงินของตัวเองไป แสดงให้เห็นว่าความคิดยังไม่เปลี่ยนแปลง มีการย้ำว่าถ้ากลับมาไม่ติดคุกเพราะแผนปรองดองบรรลุแล้ว อย่าหลงเพราะวัตถุประสงค์ที่จะช่วงชิงอำนาจรัฐผ่านการเลือกตั้ง ตนไม่เคยได้ยินทักษิณพูด ถ้ายืนยันพรคเพื่อไทย ไม่เกี่ยว พูดมาว่าตกลงยอมรับผิดแล้ว เงิน 4.6 หมื่นล้าน มากกว่าจ่ายเงินให้ผู้สูงอายุทุกคนทั้งปี สามารถไปช่วยเด็กนักเรียน สร้างโรงเรียน โรงพยาบาลได้อีกเยอะตนรับไม่ได้แทนที่จะให้ทักษิณ วันนี้ต้องพูดให้ชัดว่าการเลือกตั้งเป็นการเลือกอะไรกับอะไร ทั้งกัมพูชา นิรโทษกรรมมันชัด ย้อนไปเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนทั้งสิ้น พรรคประชาธิปัตย์จะเป็นผู้นำระฐบาลโดยไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนเด็ดขาด เลือกตั้งครั้งนี้ก้าวให้พ้นปัญหาของ พ.ต.ท.ทักษิณให้ได้ ถ้าพยายามมาแก้ปัญหาให้ทักษิณบ้านเมืองวุ่นวายไม่จบ ประชาชนหมดเวลามาคิดถึงปัญหาให้ทักษิณ แต่มาแก้ปัญหาให้ประชาชน สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้ราบลื่นแน่นอน และรวดเร็ว
