“มาร์ค” ยันโพลของจริงคะแนนสูสี ลุ้นเสียงคนกรุงชี้ขาดชนะหรือแพ้

“มาร์ค” ลั่นบริหารประเทศ 2 ปีไม่เคยขี้เกียจไม่เคยโกงแม้แต่สตางเดียว ศึกนี้สู้ด้วยใจที่มีให้ประเทศ ไม่ใช้เงินไปสู้เงิน ระบุโพลของจริง ปชป.ตามหลัง พท.เล็กน้อย แพ้หรือชนะขึ้นอยู่ที่คนกรุง นัดปราศรัยใหญ่ราชประสงค์ เผยยุทธวิธีดับไฟให้ประเทศ 23 มิ.ย.นี้

เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กล่าวระหว่างปราศรัยที่สวนเบญจสิริ ว่า 2 สัปดาห์สุดท้ายก่อนถึงเลือกตั้งจะมีปราศรัยต่อเนื่องทั่วทุกภูมิภาค ทั้งเหนือ อีสาน ใต้ มีคนถามว่าทำไมประชาธิปัตย์ ไม่พูดเรื่องแก้แค้น เพราะผมไม่เคยแค้นใคร แม้จะถูกไล่ทุบ ไล่ตี ไล่ขว้าง แต่ก็ไม่แค้น แค่หลบๆ ซึ่งเราต้องเดินหน้าต่อไป ต้องเอาเหตุเอาผลมาว่ากัน และหาทางเดินไปข้างหน้า การเลือกตั้งวันที่ 3 ก.ค.ยังมีความหมายพิเศษ การเมืองของเพื่อไทยกับประชาธิปัตย์แตกต่างกันสิ้นเชิง

นายอภิสิทิธิ์กล่าวว่า วันที่ 3 ก.ค.นี้คือวันที่คนไทยจะบอกว่าประเทศไทยเป็นของคนทุกสี เราจะ​ไม่เอาเสียงดังไปสู้เสียงดัง เงินไปสู้เงิน อิทธิพลสู้อิทธิพล แต่เราจะเอาสติ ​สงบ เหตุผลเหนือสิ่งอื่นใด เราเอาใจที่มีให้ประเทศไปสู้เพื่อชัยชนะ วันที่ 3 ก.ค. นี้ คือวันที่เราต้องเลือกเพื่อไปเดินหน้า ทั้งนี้ โพลของจริงเราตามหลังอยู่เล็กน้อย ภาคใต้ยังให้ความไว้วางใจกับประชาธิปัตย์ แน่นอน ภาคกลาง ประชาธิปัตย์น่าจะชนะพรรคเพื่อไทย ส่วนภาคอีสาน เดิมมีน้อยมากคราวนี้ยืนยันว่าเพิ่มขึ้นแน่นอน

อย่างไรก็ตาม บวกกันอย่างไรเราคงตามหลังเขาเล็กน้อยถ้าไม่รวมกรุงเทพฯ เพราะฉะนั้นแพ้ชนะอยู่ที่คนกรุงเทพฯ ถ้าประชาธิปัตย์แพ้ ก็เรียบร้อย ไม่มีทางเป็นรัฐบาลเลย ถ้าชนะต้องถามต่อว่าชนะเท่าไหร่ ต้องชนะขาดถึงจะได้เป็นรัฐบาล เป็นภาระของพีน้องที่นี่ การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการตัดสินเส้นทางประเทศ เอาบ้านเมืองแบบไหน

“เหลือสิบกว่าวัน ต้องทำงานกันหนักทุกคน แต่เชื่อว่าประชาชนต้องการห็นประเทศเดินหน้า สงบบนความถูกต้อง รัฐบาลใส่ใจประชาชน ผู้นำซื่อสัตย์ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนเป็นหน้าเป็นตาของเวทีโลกได้ สองปีทำงานหลายเรื่องประชาชนอาจไม่พอใจ อาจผิดหวังบางเรื่องแต่ยืนยันว่าผมทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างสองปีกว่าผ่านไป ผมเหมือนใช้ชีวิต สิบปี เรื่องไหนถูกใจไม่ถูกใจแต่ยืนยันไม่เคยขี้เกียจไม่เคยโกงแม้แต่สตางค์เดียว และอีกสี่ปีต่อไปก็จะยืนหยัดอุดมการณ์”

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ในวันที่ 23 มิ.ย.นี้ พรรคประชาธิปัตย์จะไปปราศรัยใหญ่ที่แยกราชประสงค์ และ วันนั้นจะได้ฟังความจริงทั้งหลายว่าเราจะดับไฟให้บ้านเมืองได้อย่างไร และในวันที่ 3 ก.ค. เราก็ต้องย้ำต้องระดมคนทุกคน ที่รักประเทศไทย ต้องการให้ประเทศไทยเดินหน้าไปกาเบอร์สิบทั้งสองใบ ทั้งนี้ บรรยากาศก่อนการปราศรัย นายอภิสิทธิ์เดินทางไปปราศรัยใหญ่พื้นที่ กทม.ชั้นใน ที่สวนเบญจสิริ โดยเดินทางพร้อมกับนายอภิรักษ์​ โกษะโยธิน และแกนนำพรรคขึ้นรถไฟฟ้า MRT จากสถานีกำแพงเพชร ไปสถานีสุขุมวิท และต่อรถไฟฟ้า BTS จากสถานีอโศกไปยังสถานีพร้อมพงษ์​เพื่อปราศรัย