“พล.ร.ท.ประทีป” ไม่ให้เครดิตความดีความชอบ “สุวิทย์” บี้ตอบให้ชัดถอนตัวจากภาคีมรดกโลก เพราะหักดิบ “มาร์ค” ใช่หรือไม่ และทำไมถึงเปลี่ยนใจคงตำแหน่ง ปธ.คก.มรดกโลกฝ่ายไทย หลังเข้าพบนายกฯ เหน็บลาออกเพราะจนแต้มถึงทางตันกลัวโดนกล่าวหาว่าขายชาติใช่หรือไม่ ระบุแนวทางบริหาร ปชป. ยังติดหล่มการเมืองเก่า วอน ปชช.ก้าวผ่านเดินหน้าปฏิรูปประเทศด้วยโหวตโน
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” ปราศรัยโดย พล.ร.ท.ประทีป ชื่นอารมณ์
วันที่ 26 มิ.ย. 2554 บนเวทีปราศรัยการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ พล.ร.ท.ประทีป ชื่นอารมณ์ กรรมการรวมพลังปกป้องดินแดน กล่าวถึงกรณีที่ นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทยในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ครั้งที่ 35 ถอนตัวจากการเป็นคณะกรรมการมรดกโลก และภาคีสมาชิกอนุสัญญาว่า แม้จะเอาประเทศไทยถอนตัวมาได้ในครั้งนี้ รัฐบาลและกองทัพก็อย่านิ่งดูดาย ต้องพึงสำนึกตลอดเวลา หากตราบใดที่พื้นที่รอบเขาวิหารยังมีกำลังทหารเขมรอยู่ ถือว่าไทยยังถูกรุกล้ำดินแดน รัฐบาลและกองทัพต้องติดตามต่อไป ไม่เช่นนั้นการถอนตัวจากภาคีมรดกโลกก็ไร้ความหมาย
ปัญหาที่ต้องวิเคราะห์ต่อไป 1.ศาลโลกจะรับตีความคำพิพากษาตามที่กัมพูชาร้องขอหรือไม่ กรณีนี้ ประเทศไทยให้เหตุผลว่า คำตัดสินของศาลโลกไม่ได้กำหนดเกี่ยวกับพรมแดน ไทยกับกัมพูชาจึงได้จัดทำเอ็มโอยู 43 ไว้แป็นแนวทางปฏิบัติ ไม่ได้ทะเลาะกันเรื่องดินแดน ศาลโลกจึงไม่ควรรับคำร้องตีความของกัมพูชาชา ขณะที่ด้านกัมพูชา แย้งว่าเอ็มโอยู 43 ไม่ได้ทำขึ้นเพื่อกำหนดเขตุแดน แต่ทำขึ้นเพื่อจัดทำหลักเขตแดน ซึ่งได้กำหนดไว้ตามแผนที่มาตรา 1 : 200,000 ในเอ็มโอยู 43แล้ว แต่ไทยไม่รับดังนั้นศาลต้องรับตีความ แสดงให้เห็นว่าไทยกำลังพลาดที่กอดเอ็มโอยู 43 เพราะในรายระเอียดคำพิพากษาบ่งชัดตามที่เขมรโต้แย้ง ปัญหาที่ 2.ศาลโลกจะมีมติให้ความคุ้มครองตามคำร้องของกัมพูชาก่อนการตัดสินคดีหรือไม่ ตรงนี้หากศาลโลกมีมติให้ความคุ้มครองไทยจะเสียเปรียบ กองทัพไทยต้องถอนตัวออกจากประสาทเขาวิหาร และถ้าหากศาลมีมติไม่คุ้มครอง ไทยก็เสียเปรียบอยู่ดี เท่ากับไทยเดินเข้าไปสู่การยอมรับอำนาจศาลโลก
พล.ร.ท.ประทีปกล่าวว่า ที่นายสุวิทย์ถอนตัวจากความเป็นภาคีมรดกโลก บางท่านบอกว่าเป็นความดีความชอบของนายสุวิทย์ แต่ตนยังมีความเห็นว่า ยังไม่อาจยอมรับเป็นความดีความชอบของนายสุวิทย์ได้ เรื่องนี้นายสุวิทย์ต้องตอบให้ได้ 1.หลังจากที่เคยประกาศลาออกจากการเป็นประธานผู้แทนไทยในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก จากนั้นนายอภิสิทธิ์เรียกไปคุย แล้วทำไมถึงเปลี่ยนใจ 2.การเป็นตัวแทนของรัฐบาลไปตัดสินใจในเรื่องสำคัญ โดยสามันสำนึกไม่มีผู้แทนคนใดไม่โทรปรึกษานายกรัฐมนตรี นายสุวิทย์ต้องเคลียร์ว่านายอภิสิทธิ์ให้คำปรึกษาอย่างไร ได้หักดิบนายอภิสิทธิ์หรือไม่ ซึ่งต้องตอบให้ชัด
“การถอนตัวออกจากภาคีมรดกโลกครั้งนี้ ไม่ได้ทำให้ตนรู้สึกดีใจขึ้นเลย เพราะเรื่องถอนตัวจากภาคี เป็นหนึ่งในข้อเรียกร้องของพันธมิตรฯ ซึ่งเรารู้มาตั้งนานแล้วว่าจะรักษาอธิปไตยเหนือดินแดนไว้ได้ ต้องถอนตัวจากภาคีสมาชิก ไม่ใช่เพิ่งมาตัดสินใจช่วงนี้ การตัดสินใจช่วงนี้ เป็นเพราะจนแต้มถึงทางตัน หากไม่ถอนจะโดนกล่าวหาว่าขายชาติใช่หรือไม่”
พล.ร.ท.ประทีปกล่าวว่า ทุกคนคงประเมินสถานการณ์เลือกตั้งครั้งนี้ออก จากสถิติ จากโพลทุกสำนัก ใครจะชนะเลือกตั้ง ยุทธศาสตร์ของพรรคประชาธิปัตย์ เท่าที่ดูจากเวทีปราศรัยราชประสงค์ ประชาธิปัตย์ต้องการถอนพิษทักษิณ ด้วยการสร้างความปรองดอง นายอภิสิทธิ์ บอก “พื้นที่ราชประสงค์เป็นของคนไทยทุกคน ฉะนั้นตนจะเปิดเวทีที่ไหนก็ได้” ก็อยากถามแล้วพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร เป็นของคนไทยหรือไม่ ทำไมไม่พาคนไทยไปบนพื้นที่เหล่านั้น นายอภิสิทธิ์บอกการสร้างแผนปรองดอง ได้ตั้งโต๊ะเชิญเสื้อแดงมาคุย ที่ไม่สำเร็จเป็นเพราะไม่ตอบสนองความต้องการของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ต้องการได้เงินคืน ตรงนี้ก็อยากบอกนายอภิสิทธิ์ว่า พวกเราพันธมิตรฯ รู้มาตั้งนานแล้วถึงไม่ไปเสียเวลากับแผนปรองดอง และที่นายอภิสิทธิ์บอกขอเวลาอีก 4 ปี หากชนะ 250 เสียงขึ้นไป จะทำแผนปรองดองให้สำเร็จ อยากถามว่า ปรองดองของนายอภิสิทธิ คือ ให้ประกันตัวคนเสื้อแดง มีมติ ครม.ใช้งบฯ เป็นเบี้ยประกันใช่หรือไม่
ทั้งนี้ เมื่อนายอภิสิทธิ์ยังหวังชนะเลือกตั้ง โดยจะใช้ 250 เสียง ดำเนินแผนปรองดอง เพื่อสร้างสังคมให้เป็นนิติรัฐ แสดงว่านายอภิสิทธิ์ยังเชื่อมั่นจะปกครองประเทศไทยให้สำเร็จได้ด้วยโครงสร้างทางการเมืองแบบเก่า ขณะที่ยุทธศาสตร์ของพันธมิตรฯ ปฏิสธโครงสร้างการเมืองก่า ต้องการก้าวผ่านโครงสร้างการเมืองเก่าด้วยการโหวตโน เพื่อปฏิการเมือง ปฎิรูปประเทศ ดังนั้นเวทีมรดกโลกจะถอนตัวหรือไม่ ผลของเวทีศาลโลก เวทีอาเซียนจะออกมาในรูปแบบไหน พวกเราก็เดินหน้าโหวตโนอย่างเดียว ดังนั้น นายสุวิทย์กลับมาก็ยังต้องเจอโหวตโน ทั้งในนามบุคคลและพรรค