xs
xsm
sm
md
lg

“พล.ร.ท.ประทีป” ฟันธง รธน.ค้ำคอ กกต. แหยงใช้ พ.ร.บ.เลือกตั้งเล่นงานปลดป้าย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.ร.ท.ประทีป ชื่นอารมณ์
“พล.ร.ท.ประทีป” การันตีป้าย “เพื่อฟ้าดิน” ผ่าน กม.ฉลุย ใจกว้างเปิดโอกาส กกต.ร่วมตีความป้าย พธม. ตาม พ.ร.บ.เลือกตั้ง ม.53 แต่เชื่อไม่กล้าสั่งปลดเหตุติดก้าง รธน.มาตรา 87 ย้ำไม่ว่าพรรคไหนได้เป็น รบ.ฉิบหายเหมือนกัน เตือนปชช.ต้องกาไม่เลือกใครทั้งแบบเลือกพรรคและเลือกบุคคล ส่วนยุทธวิธีขับเคลื่อนประเทศเด็ดขาดหรือไม่ขึ้นอยู่กับจำนวนคนโหวตโน


 คลิกที่นี่ เพื่อฟังการเสวนา “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” ณ สะพานมัฆวานรังสรรค์  

วันที่ 12 มิ.ย. 2554 บนเวทีปราศรัยการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ พล.ร.ท.ประทีป ชื่นอารมณ์ กรรมการรวมพลังปกป้องดินแดน กล่าวถึงมติคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สั่งให้ปลดป้ายรณรงค์อย่าปล่อยสัตว์เข้าสภา โดยเฉพาะการวินิจฉัยของนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง ที่บอกว่า ป้ายรูปสัตว์ของพรรคเพื่อฟ้าดินเป็นป้ายหาเสียงทางการเมืองที่ผิดขนาดจึงมีมติให้ปลด เรื่องนี้ตนขอเรียนฝ่าน กกต.ว่า ป้ายรณรงค์รูปสัตว์ทั้งหมดท่านต้องแยกแยะว่าป้ายใดเป็นของพรรคเพื่อฟ้าดิน ป้ายใดเป็นของพันธมิตรฯ เพราะหากเป็นป้ายของพรรคเพื่อฟ้าดินท่านต้องเอา พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองมาปรับดูว่าถูกกฎหมายหรือไม่ แต่หากเป็นป้ายของพันธมิตรฯ ต้องเอาระเบียบ กกต.ข้อ 9 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.-ส.ว.มาตรา 60 วรรคสอง กับมาตรา 53 มาจับ

ทั้งนี้ ในส่วนของป้ายพรรคเพื่อฟ้าดิน นายอภิชาตบอกว่าในป้ายระบุวันที่ 3 เป็นวันเลือกตั้ง และชักชวนคนให้ไปใช้สิทธิกาชองไม่ประสงค์เลือกใคร ถือว่าเป็นป้ายหาเสียง ตรงนี้ท่านพูดถูกต้องเป็นป้ายหาเสียง แต่ตนเห็นว่าป้ายนี้เป็นป้ายของพรรคเพื่อฟ้าดินซึ่งได้ทำถูกต้องตามกฎหมาย มีตราสัญลักษณ์พรรค แถบตัวหนังสือด้านล่างเขียนว่าพรรคเพื่อฟ้าดินจัดจ้างบริษัทใดเป็นผู้พิมพ์จัดจำหน่ายเป็นจำนวนเท่าไร ถูกต้องตามข้อบังคับของ กกต.ทุกประการ และยืนยันว่า ป้ายหาเสียงของพรรคเพื่อฟ้าดินมีขนาดเท่ากับป้ายหาเสียงของพรรคการเมืองอื่นๆ ที่ติดตั้งอยู่สองข้างทาง หากจะมีขาดผิดไปครึ่งมิลลิเมตร แล้วท่านจะเอาเรื่องก็ลองดู ดังนั้นในส่วนของป้ายพรรคเพื่อฟ้าดินไม่ต้องพูดถึงอีกเลย ใครก็ไม่สามารถปลดออกได้

สำหรับในอีกประเด็นเกี่ยวกับป้ายของพันธมิตรฯ ที่อ้างว่าเนื้อหาข้อความอาจผิดกฎหมายมาตรา 53 หรือไม่นั้น เนื้อหามาตรา 53 กล่าวไว้ว่า “ห้ามไม่ให้ผู้สมัครหรือผู้ใดทำการใดเพื่อจูงใจผู้มีสิทธิเลือกตั้งกาให้กับตนเองหรือผู้สมัครอื่น หรืองดเว้นการลงคะแนนให้กับผู้สมัครหรือพรรคการเมืองใดด้วยวิธีการจูงใจ ให้เข้าใจผิดสนับสนุนพรรคใดหรือคนใด” เมื่อดูตามเจตนารมณ์ของมาตรานี้แล้ว วิเคราะห์ได้ว่าป้ายของพันธมิตรฯ ไม่ได้จูงใจให้ไปเลือกพรรคใด และไม่ได้จูงใจไม่ให้เลือกใครเพื่อสนับสนุนใคร เพราะเราจูงใจให้ไปเลือกตั้งตามกฎหมายรัฐธรรมนูญเท่านั้น อย่างไรก็ดี การตีความในมาตรา 53 ยังต้องถกเถียงกันต่อไป เพราะเราไม่สามารถตีความเข้าข้างตัวเองทั้งหมด ต้องเปิดให้โอกาสให้ กกต.ตีความด้วย แต่เราเชื่อมั่นว่าเราถูกมากกว่า

พล.ร.ท.ประทีปกล่าวว่า หากปรับป้ายพันธมิตรฯเข้ากับ พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและเรียบร้อยของบ้านเมือง ว่าจะติดตั้งได้หรือไม่ นั้น ในมาตรา 10 บอกว่า “การปิดป้ายในที่สาธารณะ จะทำได้ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่นเท่านั้น หากไม่ได้รับอนุญาตให้เอามาตรา 11 ของ พ.ร.บ.รักษาความสะอาดไปจับ โดยมาตรา 11 กล่าวไว้ว่า “ให้หน่วยงานเที่เกี่ยวข้องสั่งเป็นหนังสือให้รื้อออกไปภายในกำหนดเวลาตามที่หนังสือแจ้ง” ขณะนี้เรากำลังรอหนังสือที่จะสั่งปลดอยู่ เราอยู่รอเท่าไรก็ไม่มาเสียที เรื่องนี้พี่น้องไม่ต้องสงสัย หากตนเป็นเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ก็ต้องกลับไปทบทวนเหมือนกันว่า พ.ร.บ.ที่ใช้ใช้ได้จริงหรือไม่ มีกฎหมายอื่นอยู่เหนือกฎหมายที่ใช้อยู่หรือไม่ เพราะกฎหมายรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุด ในมาตรา 87 ระบุเนื้อหาสาระว่า “รัฐต้องสนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาชน รัฐต้องให้ประชาชนได้แสดงความคิดเห็นทางการเมือง รัฐต้องสนับสนุนให้ประชาชนมีส่วนเข้าไปตัดสินใจทางการเมือง”

“พี่น้องระวังอย่าหลงเชื่อนักการเมืองขี้ฉ้อ ที่ไปพูดแบบบิดเบี้ยวให้กาในช่องไม่ประสงค์เลือกเลือกใครในบัตรไม่เลือกพรรค แต่สำหรับ ส.ส.เขต ให้กาในเลือกใครคนใดคนหนึ่ง ดังนั้นวันเลือกตั้ง พี่น้องต้องกาในช่องไม่ประสงค์เลือกใคร 1 ฉบับ และกาในช่องไม่ประสงค์เลือกพรรคใดอีก 1ฉบับ กาสองฉบับไม่ใช่ฉบับเดียว” พล.ร.ท.ประทีปกล่าว

พล.ร.ท.ประทีป ชื่นอารมณ์ กล่าวถึงประเด็นโหวตโนว่า การเลือกตั้งไม่ใช่ทางออกในการแก้ไขประเทศ ปัญหาของประเทศเกิดจากโครงสร้างทางการเมืองล้มเหลว เพราะไม่สามารถกำจัดการซื้อขายเสียงได้ ทำให้บรรดานายทุนสามานย์เข้ามาครอบครองอำนาจรัฐ หากเราก้าวผ่านจนสามารถปฎิรูปการเมืองได้แล้วเป้าหมายสุดท้ายคือปฏิรูปประเทศ ตัวอย่างการปฏิรูปโครงสร้างทางการเมือง ศ.ดร.อมร จันทรสมบูรณ์ ได้บอกแล้วว่าโหวตโนเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิรูปการเมือง เมื่อได้พลังโหวตโนมากพอให้ไปค้นหาบุคคลที่มีองค์ประกอบครบทั้ง 3 อย่าง คือ มีอำนาจบารมี มีปัญญา และความกล้าหาญ เมื่อหันมาดูบทบาททางการเมืองไทยพิสูจน์แล้ว 2 ปีที่ผ่านมานายอภิสิทธิ์ยังไม่เข้าองค์ประกอบ ทั้งนี้หากถามว่าโหวตโนแล้วจะทำอะไรต่อไป นั้น แนวคิดของ ศ.ดร.อมร ถือเป็นยุทธวิธีหนึ่งที่จะนำไปใช้ ประกอบกับปัจจัยประชาชนสนับสนุนมากน้อยเท่าไร หากคะแนนโหวตโนได้ 1 แสนเสียง ตัวละครที่จะเล่นก็เล่นแบบไม่เกินกำลัง แต่หากออกมา 10-20 ล้าน ตัวละครที่จะเล่นก็ต้องเล่นให้คุ้มค่ากับเสียงโหวตโน

“หากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลจะใช้อำนาจนิติบัญญัติรวมกับอำนาจบริหาร รุมกระทืบตุลาการ แล้วการันตรีได้หรือไม่จะไม่มีรัฐไทยไหม่ หากพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล เห็นอนาคตประเทศ จากนักเลงโตเสื้อแดงประกาศจะออกมาป่วนบ้านเมืองแน่ ส่วนที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ บอกจะโหวตโนทำไมเสียของ อย่างไรประเทศไทยต้องมีนายกฯ ต้องมีรัฐบาล นั้น ตนอยากบอกนายสุเทพว่า มันก็ใช่เราต้องมีรัฐบาล แต่ภาคประชาชนไม่ต้องการมีรัฐบาลที่ขี้ขลาดตาขาว หรือรัฐบาลที่เคยเผาบ้านเผาเมือง เราถึงได้ออกมาโหวตโน เพราะเรารู้ว่าหากปล่อยให้ได้รัฐบาลไม่ว่าจะใครขึ้นมาบ้านเมืองจะฉิบหาย” พล.ร.ท.ประทีปกล่าว








กำลังโหลดความคิดเห็น