xs
xsm
sm
md
lg

“พิภพ” บี้ กกต.ออกคำสั่งห้ามรื้อป้ายโหวตโน หากยังลังเลว่าผิด กม.หรือไม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายพิภพ ธงไชย
“พิภพ” ย้ำโหวตโนไม่ผิด กม. อัดเจ้าหน้าที่รื้อป้ายตีความ กม.แคบ ลั่นฟ้องเอาผิดอาญาแน่นอน ระบุ กกต.ยังลังเลป้ายโหวตโนผิด กม.หรือไม่ ต้องออกมาพูดห้ามรื้อป้ายโหวตโนออก อัดนักการเมืองพูดเท็จเป็นอาจิณ จนเป็นนิสัย วัฒนธรรมของพรรคในการทำผิดเรื่องอื่นๆ เหน็บสัตว์ดีกว่านักการเมืองเยอะ อย่างน้อยสัตว์หากินแค่เท่ากระเพาะตัวเองแต่นักการเมืองหากินเกินกระเพาะ


วันที่ 7 มิ.ย. 2554 บนเวทีปราศรัยการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงประเด็นที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้สัมภาษณ์นักข่าว กรณีนายสนธิ ลิ้มทองกุล พูดว่า หมอตุลย์ กับ อ.แก้วสรร ออกมาตรวจสอบหุ้นของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คนเหล่านี้เป็นคนของพรรคประชาธิปัตย์ ว่า ถามแบบนี้ เดี๋ยวคนก็ถามบ้างว่าตกลง นายสนธิกลับไปอยู่ฝ่ายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แล้วหรือถึงได้รณรงค์โหวตโน เรื่องนี้ตนเห็นใจนายสนธิ ความจริงแล้วเรื่องโหวตฌน ตนพูดเป็นคนแรกในรายการสภากาแฟ จนทำให้บรรดาแกนนำพันธมิตรฯหากรือกัน เห็นควรใช้เป็นแนวทางเคลื่อนไหวในช่วงเลือกตั้ง ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องที่นายสนธิ ที่จะไปอยู่ข้าง พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะเป็นตายร้ายดีอย่างไรวันนี้เราก็ต้องต่อต้านระบอบทักษิณ จนถึงที่สุด

คำสัมภาษณ์ของนายอภิสิทธิ์เที่ยวนี้ไม่แตกต่างจากสมัย 2489 ที่เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ให้คนไปตะโกนในโรงหนังว่านายปรีดี พนมยงค์ ฆ่าในหลวง กล่าวหา พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ว่าพาคนไปตาย เอารูปนายปรีดีกับนายป๋วย อึ๊งภากรณ์ ที่นั่งสนทนากันมาใช้หาเสียง และกรณีที่พรรคการเมืองใหม่ส่งลง ส.ก. ส.ข. พรรคประชาธิปัตย์ก็ออกมาบอกถ้าเลือกพรรคการเมืองใหม่เขาจะมาแน่ นายอภิสิทธิ์ต้องระวังเรื่องการับวัฒนธรรมจากพรรคประชาธิปัตย์ ในการปล่อยข่าวลือ การตั้งคำตามให้เกิดข้อสงสัย อย่าลืมว่านายอภิสิทธิ์ เองนั่งตำแหน่งนายกฯด้วย ไม่ใช่ตำแหน่งหัวหน้าพรรคการเมืองอย่างเดียว การพูดก่อให้เกิดความสงสัยในทางที่เสียหาย คนเป็นนายกฯ ไม่ควรทำ

“ปัญหาของสังคมไทยไม่ได้มีแต่เรื่องทุจริตคอร์รัปชันอย่างเดียว ความสัตว์ทางวาจาก็เป็นปัญหาใหญ่ นักการเมืองไม่ยอมพูดความจิรง ไม่ตรวจสอบสิ่งที่ตัวเองพูด หากเรื่องที่พูดนำไปสู่การเสียหายทำลายคู่ต่อสู้ นิสัยนักการเมืองไทยชอบทำทันที เมื่อพูดเท็จเป็นอาจิณ จะนำไปสู่การทำผิดเรื่องอื่นๆ จนติดเป็นนิสัยวัฒนธรรมของนักการเมืองทุกพรรค”

นายพิภพกล่าวว่า ที่คนเปรียบเทียบนักการเมืองเป็นสัตว์นั้นไม่ค่อยถูกต้อง เพราะสัตว์ที่เราเอาไปเปรียบเทียบดีกว่านักการเมืองไทยเสียอีก แม้สัตว์จะไม่มีความสำนึกรับผิดชอบชั่วดี แต่มีสันชาติญานอย่างสัตว์ในการแสวงหาอาหารให้พอดีกับกะะเพาะตัวเองเท่านั้น แต่นักการเมืองแสวงหาอาหารเกินกระเพระตัวเอง

นายพิภพกล่าวว่า โหวตโนมีกฎหมายรองรับ การที่เจ้าหน้าที่ไปปลดป้ายโหวตโน อ้างไม่ได้เป็นป้ายรณรงค์หาเสียง นั้น ตนเห็นว่าเป็นการตีความกฎหมายอย่างแคบและขัดกฎหมายรัฐธรรมนูญ เมื่อมีการเลือกตั้งแล้วมีกฎหมายของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในการกำหนดให้ประชาชนสามารถใช้สิทธิ์ เลือกพรรคใดก็ได้ ที่สำคัญให้ใช้สิทธิ์โหวตโนด้วย ดังนั้นโหวตโนจึงเป็นสิทธิ์ที่ถูกรองรับโดยกฎหมาย พรรคการเมืองมีสิทธิ์บอกให้ประชาชนเลือกพรรคของตัวเอง ขณะเดียวกัน ประชาชนที่จะลงโหวตโนก็มีสิทธิ์บอกผลดีของการโหวตโนด้วย อีกอย่างตนเห็นว่าป้ายโหวตโน แม้ไม่ติดคู่กับพรรคการเมือง เช่น พรรคเพื่อฟ้าดิน ก็ไม่น่าจะผิดกฎหมาย เรื่องนี้ต้องสู้กันในศาล และตนจะสู้จนถึงที่สุด ทั้งนี้อยากเตือนเจ้าหน้าที่ ที่ไปรื้อป้ายโหวตโน ทั้งที่ยังไม่มีการตีความกฎหมายเรื่องนี้ ถือเป็นการปฎิบัติที่ขัดต่อกฎหมาย เราจะฟ้องแน่นอน โหวตโน เมื่อจุดติดแล้วจะเป็นประเด็นทำให้เกิดการเคลือนไหวในทุกการเลือกตั้ง ดังนั้นประชาชนต้องปกป้องสิทธินี้ว่าโหวตโนไปเพื่ออะไร ตนเชื่อว่า เรื่องนี้ศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินให้เราชนะ

“โหวตโนเป็นเจตจำนงทางการเมือง เมื่อเป็นเจตนำนง ประชาชนก็มีสิทธิ์บอกกล่าวเจตว่ามีเนื้อหาสระอย่างไร เช่นเดียวกับพรรคการเมืองมีเจตจำนงว่าตัวเองมีนโยบายต้องการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอย่างไร วันนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ บอกเจตจำนงทางการเมือง ชัดเจน จะเอาการเลือกตั้งล้มกระบวนการยุติธรรม ออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้พี่ชาย ซึ่งเรายอมไม่ได้จึงต้องโหวตโน”

นายพิภพกล่าวอีกว่า กกต. ลังเลว่าป้ายโหวตโนจะผิดกฎหมายหรือไม่ เป็นเรื่องถูกต้องแล้วที่จะลังเล เพราะหากด่วนตัดสินไป เมื่อเราฟ้องร้องท่าน ก็อาจเข้าข่ายผิดกฎหมายอาญาด้วยเช่นเดียวกัน ดังนั้น วันนี้ กกต.ต้องพูดให้ชัด เมื่อยังสงสัยในเรื่องนี้ ควรออกมาพูดไม่ให้ใครทำการใดๆเอาป้ายโหวตโนออก ต้องรอให้กกต.วินิจฉัยก่อน ซึ่งตรงนี้ก็ขอเตือน กกต.ด้วยว่าก่อนวินิจฉัยต้องดูว่าคำวินิจฉัยจะขัดกับศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพราะเราจะเอาไปฟ้องร้องต่อ

นายพิภพกล่าวถึงการเดินสายรณรงค์โหวตโนในจังหวัดกระบี่ จังหวัดตรัง ว่า บรรดาข้าราชการได้ก้าวข้ามการเมืองน้ำเน่า ยินดีร่วมโหวตโนกับพันธมิตรฯ เราได้ข้อสรุปเบื้องต้นหากโหวตโนมีมาก จะนำไปสู่ การปฎิรูปนักการเมือง การปฎิรูปคอร์รัปชั่น ปฎิรูปความเหลื่อมล้ำ ปฎิรูปการศึกษา และที่สำคัญพี่น้อง จ.กระบี่ จ.ตรัง ลืมไม่ได้ที่จะต่อต้านพรรคเพื่อไทยในการออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ โหวตโนไม่เสียเปล่าแน่นอน เรามียุทธวิธีรองรับชัดเจน นำพลังไปเปลี่ยนแปลงประเทศอย่างสันติวิธี เป็นการแสดงเจตนำนงของภาคประชาชนที่บริสุทธิ์ที่สุด เพราะไม่มีใครจ้างไปโหวตโน
กำลังโหลดความคิดเห็น