ชาติไทยพัฒนาหาเสียงสุพรรณบุรี “เติ้ง” ร่วมติวเข้มก่อนลงพื้นที่ “ชุมพล” อ้อนชาวสุพรรณบุรี เลือกแบบยกจังหวัด เพื่อทวงคืนความเป็นธรรมให้คนในตระกูลศิลปอาชาที่ถูกกลั่นแกล้ง ซัดรัฐธรรมนูญกาลีบ้านกาลีเมือง กก.บห.ทำผิดคนเดียว แต่ถูกเล่นงานยกเข่ง คิดการใหญ่ได้ร่วมรัฐบาลขอดูเกษตรและพาณิชย์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (4 มิ.ย.) นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) พร้อมคณะได้เดินทางช่วยนายสรชัด สุจิตต์ ผู้สมัคร ส.ส.สุพรรณบุรี หาเสียงที่หอประชุมโรงเรียนบ้านท่าเสด็จ ต.สระแก้ว และ ศาลาเอนกประสงค์วัดพระธาตุสวนแตง ต.สวนแตง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า ก่อนที่ขบวนหาเสียงหาเสียงของนายชุมพลจะเดินทางมาถึงสถานที่หาเสียง ปรากฏว่านายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ซึ่งสวมชุดลำลองได้เดินทางมาพบกับคณะหาเสียงของนายชุมพลที่ปั๊มน้ำมัน ปตท.เพื่อหารือกับนายชุมพลเป็นเวลา 10 นาที
ทั้งนี้มีรายงานว่า นายบรรหารมีกำหนดที่จะเดินทางมาสังเกตการณ์การหาเสียงของพรรคชาติไทยพัฒนาที่ จ.สุพรรณบุรีด้วย แต่ปรากฏว่าสุดท้ายได้ยกเลิกเพราะเกรงจะถูกตีความเป็นการกระทำที่ทำผิดกับกฎหมายเลือกตั้งจนนำมาสู่การวินิจฉัยของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
นายชุมพลปราศรัยตอนหนึ่งว่า ที่ผ่านมาพรรคชาติไทยพัฒนาถูกรังแกทางการเมืองอย่างมากตั้งแต่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) จนถึงการมีรัฐธรรมนูญ 2550 ที่เป็นรัฐธรรมนูญกาลีบ้านกาลีเมืองไม่มีความเป็นธรรมทำให้พรรชาติไทยในเวลานั้นต้องถูกยุบพรรคทั้งๆ ที่ไม่มีความผิดเพราะกรณีใบแดงของนายมณเฑียร สงฆ์ประชา กรรมการบริหารพรรคชาติไทยเป็นเพียงความผิดเฉพาะตัวของคนคนเดียวพรรคไม่ได้เกี่ยวข้อง แต่ถึงที่สุดพรรคชาติไทยก็ถูกยุบ นายบรรหาร ศิลปอาชา ต้องถูกตัดสิทธิเป็นเวลา 5 ปี ตอนนี้ผ่านมา 2 ปีกว่าแล้วยังเหลืออีก 2 ปีเศษๆ ทำให้ตนต้องมารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคแทนเป็นคนสุดท้ายของตระกูลศิลปอาชา
นายชุมพลกล่าวว่า จริงๆ แล้วนายบรรหารอยากจะลงพื้นที่พบประชาช แต่มาไม่ได้เพราะกลัวว่า กกต.จะเล่นงาน ดังนั้นขอให้ชาวสุพรรณบุรีเลือกพรรคชาติไทยพัฒนาทวงความเป็นธรรมให้กับนายบรรหารด้วย ที่สำคัญคนสุพรรณบุรีต้องเลือกพรรคชาติไทยพัฒนาทั้ง ส.ส.ระบบเขต และบัญชีรายชื่อ ถ้าเลือกเฉพาะแต่ระบบเขตอาจจะทำให้ตนไม่ได้เป็น ส.ส.บัญขีรายชื่อจะกลายเป็นเรื่องใหญ่เพราะหัวหน้าพรรคไม่ได้เป็น ส.ส.ก็ต้องลาออก
“พรรคชาติไทยถูกลั่นแกล้งให้ยุบถูกยุบพรรคเพราะมีความต้องการให้ไปร่วมรัฐบาลกับอีกพรรคการเมืองหนึ่งแบบนี้ไม่มีความชอบธรรม ไม่มีกฎหมายที่ใดในโลกเขาทำกันที่คนทำผิดเพียงคนเดียวแล้วต้องมาเหมาทำผิดกันทั้งบ้านหนำซ้ำยังมาเผาพรรคชาติไทยทิ้ง การเมืองไม่มีความยุติธรรม ผมจึงมาทวงความเป็นธรรมคืนให้กับนายบรรหารมีอย่างที่ไหนน้องชายเป็นหัวหน้าพรรคและพี่ชายอย่างนายบรรหารมาเป็นประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคเหมือนกับเป็นลูกน้อง”
นายชุมพลกล่าวว่า นอกจากนี้ เราต้องเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับคนดีศรีสุพรรณคนอื่นๆ อย่างนายจองชัย เที่ยงธรรม นายประภัตร โพธสุธน น.ส.กัญจนา และ นายวราวุธ ศิลปอาชา ด้วย อยากให้มาช่วยกันไม่งั้นตระกูลศิลปอาชาจะหายเกลี้ยงจากสุพรรณบุรี และอย่าให้ใครมาแทรกพื้นที่นี้ได้แม้แต่คนเดียว เราคาดหวังว่าจะได้ ส.ส.ทั้งหมด 35 เสียง แต่ไม่สามารถที่จะเอาไม้ซีกไปงัดไม้ซุงได้ แต่จะอุ้มมังกรไปเขมือบคนที่รังแกนายบรรหารให้ได้
นายชุมพลกล่าวว่า ขอโอกาสให้พรรคชาติไทยพัฒนาทำงานเพื่อพัฒนาประเทศต่อไปโดยเฉพาะการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร โดยที่ผ่านมาพรรคชาติไทยพัฒนาส่วนใหญ่ได้แต่ดูแลในส่วนของภาคการเกษตรที่เกี่ยวข้องกับผลผลิตทางการเกษตร แต่ครั้งหน้าพรรรคชาติไทยพัฒนาจะขอดูแลในส่วนของภาคการพาณิชย์ด้วยที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมราคาเพื่อให้เกษตรกรมีรายได้จากราคาสินค้าเกษตรอย่างเป็นธรรม ถ้าพรรคได้ดูแลทั้งภาคเกษตรและพาณิชย์จะทำให้การแก้ไขปัญหาของเกษตรทำได้อย่างครบวงจรมากขึ้น
ด้าน นายสรชัดกล่าวว่า พรรคชาติไทยพัฒนามีนโยบายการประกันราคาข้าวให้เกษตร 1.5 หมื่นบาท และลดราคาปุ๋ยลง 1.5 พันบาทต่อตัน นอกจากนี้จะช่วยเหลือค่าเช่านาไร่ละ 500 บาท ขณะเดียวกัน มีโครงการพัฒนาระบบชลประทานตำบลละ 3 ล้านบาท เพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และอาสาสมัครหมู่บ้านจาก 500 บาทเป็น1000 บาท จึงอยากขอโอกาสคนสุพรรณบุรีให้พรรคชาติไทยพัฒนาเข้าไปปผลักดันนโยบายเหล่านี้ด้วย