“เทือก” ขอบคุณ “เติ้ง” เมตตาเชียร์นั่งนายกฯ อ้อนหลังเลือกตั้งไปชวนร่วมรัฐบาลคงได้รับความกรุณา อ้างที่ห่างเหินเพราะต้องดูแลการหาเสียง ยัน ปชป.คบง่าย ป้อง “มาร์ค” รักษาคำพูด แบะท่านิรโทษกรรมสมาชิกบ้านเลขที่ 111 และ 109 ส่วนพวกเผาบ้านเผาเมือง ผู้ก่อการร้ายและทำผิดกฎหมายอาญา ต้องถูกดำเนินคดี
วันนี้ (31 พ.ค.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอย่างอารมณ์ดีเมื่อถูกผู้สื่อข่าวแซวว่าราศีนายกรัฐมนตรีจับว่า “ดูดีมั้ยครับ และต้องขอขอบคุณท่านนายกฯ บรรหาร ที่กรุณาให้เกียรติ ให้ความเมตตา และหวังว่าเวลาเลือกตั้งเสร็จแล้ว ผมไปชวนเข้าร่วมรัฐบาลจะยังคงกรุณาผมอย่างนี้ต่อไป วันนี้ต้องกราบขออภัยที่ห่างเหินกันบ้าง เพราะผมทำหน้าที่เป็นแม่บ้านพรรคต้องดูแลลูกพรรค หาเสียงอย่างไม่ลืมหูลืมตา”
ผู้สื่อข่าวบอกว่า นายบรรหารยังบ่นน้อยใจว่าเวลาจะเอาประโยชน์ก็วิ่งมาหา แต่เวลาไม่มีประโยชน์ก็หายหน้าหายตาไปเลย นายสุเทพกล่าวว่า คงไม่เป็นอย่างนั้น นายบรรหารคงจะต่อว่าบ้างเล็กน้อย แต่เชื่อว่าท่านเข้าใจดีว่าไม่ว่าอยู่ใกล้อยู่ไกลหัวใจก็เหมือนเดิม
ส่วนที่วิจารณ์ว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นเพื่อนที่คบยาก นายสุเทพกล่าวว่า “คบผมแล้วจะรัก ประชาธิปัตย์คบไม่ยาก ตรงไปตรงมา พรรคประชาธิปัตย์ดูง่ายมีรูปแบบชัดเจนว่ากันตามหลักเกณฑ์กติกา ดูไม่ยาก”
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายบรรหารพุ่งเป้าวิจารณ์ไปที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นตัวปัญหา เพราะไม่รักษาคำพูด จะเป็นอุปสรรคในการประสานไมตรีในการจับขั้วพรรคร่วมในการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่เป็นปัญหา นายกรัฐมนตรีเป็นคนรักษาคำพูด เพียงแต่บางเรื่องมีรายละเอียดที่แตกต่างกันออกไป ตอนที่พูดเราพูดกันเร็วๆ แต่พอลงไปในรายละเอียดก็มีข้อแตกต่างกันอยู่บ้างซึ่งต้องใช้เวลา แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี
ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ในฐานะแกนนำรัฐบาลยังติดค้างอะไรนายบรรหารอยู่หรือไม่ เพราะยังมีการออกมาทวงถามเรื่องการนิรโทษกรรมนักการเมืองบ้านเลขที่ 111 และ 109 นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่มีอะไรติดค้างกัน อะไรที่ทำให้ท่านได้ตนก็ทำไปแล้ว เมื่อถามต่อว่า หากนายบรรหารยังชงประเด็นเรื่องการนิรโทษกรรมนักการเมือง ยังจะสามารถร่วมรัฐบาลกันได้หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า คิดว่าเรื่องนิรโทษกรรมถ้านำมาพูดตอนนี้จะทำให้เกิดความสับสนระหว่างการดูแลคนบ้านเลขที่ 111 ที่ถูกห้ามยุ่งเกี่ยวทางการเมืองกับการล้มล้างความผิดให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และบรรดาผู้ถูกข้อหาก่อการร้ายเผาบ้านเผาเมือง เราเอามาพูดพร้อมกันไม่ได้ ประชาชนจะสับสน
เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าการล้างความผิดให้คนบ้านเลขที่ 111 มีความเป็นไปได้มากกว่าการล้างความผิดทางคดีอาญาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ใช่หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า อย่างที่บอกแล้วว่าขอให้พูดเรื่องนี้ภายหลัง ถ้าพูดพร้อมกันคนจะสับสน ยืนยันว่าหลักการของพรรคประชาธิปัตย์คือคนทำผิดต้องรับผิด คนไม่ผิดก็คือไม่ผิด มันชัดเจน
ส่วนประเด็นการนิรโทษกรรมจะเป็นเงื่อนไขในการเจรจาจับกันตั้งรัฐบาลหรือไม่นั้น นายสุเทพกล่าวว่า ตนขอบอกว่าไม่ขอตอบเรื่องนิรโทษกรรมในขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นการนิรโทษกรรมอะไรก็ตาม เพราะจะทำให้คนสับสน แต่ขอพูดอย่างชัดเจนโดยไม่อาศัยวาทกรรมอะไรคือ ตนไม่เห็นด้วยกับการที่จะล้มล้างความผิดให้กับผู้ที่กระทำความผิดกฎหมายมาก่อน เช่นผู้ที่ไปเผาบ้านเผาเมือง ผู้ก่อการร้ายทั้งหลายหรือผู้ที่ทำผิดกฎหมายอาญาต่างๆ
ผู้สื่อข่าวถามว่า รู้สึกหนักใจหรือไม่ที่พรรคภูมิใจไทยแบะท่าพร้อมไปร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย นายสุเทพกล่าวว่า ตนเคยบอกแล้วว่าคงต้องตอบคำถามลักษณะนี้กันทุกวัน พอนายบรรหาร นายเนวิน ชิดชอบ แกนำพรรคภูมิใจไทย หรือนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ แกนนำพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดินมีอะไรเป็นพิเศษ สื่อมวลชนก็จะมาถามตน ตนก็ต้องยืนยันว่ามีหัวใจให้กับคนเหล่านี้ตลอดเวลา และเชื่อมั่นว่าท่านทั้งหลายเหล่านี้เข้าใจตนและพรรคประชาธิปัตย์
ด้าน นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายบรรหารเสนอให้นายสุเทพเป็นนายกรัฐมนตรีแทนนายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ ว่าตนมองว่าใครพูดอะไรก็ได้ในช่วงเลือกตั้ง ไม่มีอะไรสับสน เพราะพรรคประชาธิปัตย์เองมีความชัดเจนในการสนับสนุนนายอภิสิทธิ์
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคขนาดกลางและพรรคขนาดเล็กน่าที่จะต่อรองกับพรรคประชาธิปัตย์ หรือพรรคเพื่อไทยที่ในการชู นายกรัฐมนตรีของพรรคตัวเอง นายสาทิตย์ กล่าวว่า ทุกโพลคงคาดได้ว่าไม่มีพรรคหนึ่งพรรคใดได้เสียงข้างมากที่ตั้งรัฐบาลได้เพียงพรรคเดียว ต้องเป็นรัฐบาลที่มีพรรคร่วม แต่ปัญหาตอนนี้คือเสียงของรัฐบาลที่เป็นแกนนำมีเท่าไร หลายสำนักคาดว่าน่าจะประมาณ 200 หรือ 200 ขึ้น ระหว่างเพรรคพื่อไทยกับพรรคประชาธิปัตย์ ก็ยังสูสี ก็จำเป็นต้องใช้เสียงอีกไม่ต่ำกว่า 70-80 เสียงคงต้องดูผลการเลือกตั้งก่อนจึงคาดหมายได้ กับพรรคร่วมรัฐบาลเดิมก็ยังเป็นพันธมิตรกันดีอยู่