xs
xsm
sm
md
lg

วิปริต “เอกสิทธิ์ผิดเพี้ยน” คุ้มครองผู้ก่อการร้าย-ล้มเจ้า!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน

แม้ว่าไม่ใช่เป็นคำพูดที่ออกมาจากปากของอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ธาริต เพ็งดิษฐ์ ก็ตาม ทุกคนก็ย่อมมองออกคาดหมายเอาไว้ล่วงหน้าได้อยู่แล้วว่า พวกที่ถูกดำเนินคดีในคดี “ผู้ก่อการร้าย” และ “คดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ” หมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ กำลังหาทางยื้อคดี หลบเลี่ยง หรือแม้แต่การหาทางลบล้างความผิดในสารพัดคดีที่ตัวเองได้ก่อเอาไว้ด้วยการลงสมัคร ส.ส.เพื่อหวังใน “เอกสิทธิ์คุ้มครอง”

ในที่นี้ย่อมหมายถึงบรรดา “หัวโจก” คนเสื้อแดง ลูกน้อง ทักษิณ ชินวัตร เจ้าของพรรคเพื่อไทย ซึ่งถ้าให้ระบุชื่อก็คือ จตุพร พรหมพันธุ์ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นพ.เหวง โตจิราการ ฯลฯ รวมแล้วเกือบ 30 คน

ขณะที่ “หัวหน้าแก๊ง” อย่าง ทักษิณ ชินวัตร ที่มีสารพัดคดี ทั้งทุจริต ใช้อำนาจโดยมิชอบ หมิ่นเบื้องสูง หลบหนีอยู่ต่างประเทศ ก็กำลังใช้จังหวะนี้ให้พรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้ง เพื่อยึดอำนาจรัฐ เป้าหมายสูงสุดถัดมาก็คือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อลบล้างความผิดทั้งหมด และได้ทรัพย์ที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองยึดไปจำนวน 46,000 ล้านบาทกลับคืนมา

เป้าหมายคือรื้อทั้งหมด ทั้งองค์กรอิสระ ระบบศาลยุติธรรม ที่เห็นว่าไม่เป็นประโยชน์สำหรับตนเอง

วกกลับมาที่เอกสิทธิ์คุ้มครอง ส.ส.ที่กำลังถูก “ตีความผิดเพี้ยน” ไปจากวัตถุประสงค์ กลายเป็นว่าสถาบันนิติบัญญัติปกป้องพวกเดียวกันอย่างไร้เหตุผล และไม่เป็นธรรมกับบ้านเมือง และกับชาวบ้านทั่วไป

ไม่เป็นธรรมเพราะว่า เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญไม่ว่ายุคใดสมัยใด ต้องการคุ้มครอง ส.ส.โดยเฉพาะ ส.ส.จากพรรคฝ่ายค้าน หรือฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามกับรัฐบาลที่มีอำนาจรัฐอยู่ในมือ ใช้ในการกลั่นแกล้ง เช่น ห้ามไม่ให้ดำเนินคดีระหว่างเปิดสมัยประชุม เพราะเกรงว่าฝ่ายรัฐบาลจะใช้อำนาจในทางมิชอบ กำจัดฝ่ายตรงข้าม จับไปขังคุก เพื่อปิดปากไม่ให้กล่าวโจมตีหรือขุดคุ้ยรัฐบาล

ที่สำคัญเพื่อป้องกันไม่ให้ ส.ส.ฝ่ายค้านหรือ สมาชิกรัฐสภาที่กำลังจะมีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล พูดง่ายๆ ก็คือ กำลังมีการ “ตรวจสอบ” รัฐบาลถูกกลั่นแกล้งเสียก่อน รัฐธรรมนูญก็ได้บัญญัติในเรื่องดังกล่าวเอาไว้

แต่อนิจจาระยะหลังกลับกลายเป็นว่า สมาชิกรัฐสภาเกือบทั้งหมดกำลังใช้ธรรมเนียม “วิปริตผิดเพี้ยน” มาปกป้องพวกเดียวกัน ไม่ว่า ส.ส.คนนั้นจะทำผิดกฎหมายอาญา กำลังถูกดำเนินคดีข้อหาก่อการร้าย คดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เป็น “คดีอาญา” ทั่วไป และคดีเกี่ยวกับความมั่นคง ไม่เห็นเกี่ยวข้องกับการทำหน้าที่ในการตรวจสอบรัฐบาลตรงไหน

ตรงกันข้าม ส.ส.ที่ได้รับเอกสิทธิ์คุ้มครอง หากจะยกตัวอย่าง เช่น จตุพร พรหมพันธุ์ นอกจากเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยแล้ว ยังเป็น แกนนำคนเสื้อแดง ที่นำมวลชนออกมาก่อการจลาจลเผาเมืองอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดยังพูดจาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ จนถูกดำเนินคดี ถูกถอนประกัน ต้องไปนอนอยู่ในเรือนจำในที่สุด แต่ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเกิดการยุบสภาเสียก่อน ทำให้ไม่มีเอกสิทธิ์คุ้มครองในฐานะ ส.ส. เนื่องจากที่ผ่านมาเขาใช้ฐานะ ส.ส.รอดพ้นจากการคุมขังและการถูกดำเนินคดีมานานนับปี

อย่างไรก็ดี คนพวกนี้ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแกนนำคนเสื้อแดงมีจำนวนรวมแล้ว กว่า 20 คนได้ลงสมัคร ส.ส.ทั้งในระบบเขต และบัญชีรายชื่อ ความหมายก็ไม่มีอะไรซับซ้อนมากไปกว่าความต้องการเพื่อใช้เอกสิทธิ์คุ้มครอง เป็นเกราะป้องกันไม่ให้ตัวเองถูกดำเนินคดี ยื้อเวลาออกไปให้นานที่สุดเท่านั้น คำถามก็คือคนพวกนี้มีพฤติกรรมสมควรจะได้รับเอกสิทธิ์คุ้มครองในฐานะ ส.ส.หรือไม่ เพราะคนพวกนี้ไม่ได้ถูกตั้งข้อหาความผิดจากการทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลในสภาในฐานะฝ่ายค้าน แต่มีความผิด “นอกสภา” ในฐานะผู้ก่อการร้าย หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ต่างหาก

ไม่ว่ามองในมุมไหนหากคนพวกนี้ได้เป็น ส.ส.ก็หวังใช้เอกสิทธิ์คุ้มครอง ทำตัวไม่ต่าง “อภิสิทธิชน” เหนือคนทั่วไปในสังคม ขณะเดียวกันบ้านเมืองที่ “วิปริตผิดเพี้ยน” ที่ผ่านมา เป็นเพราะเรามีนักการเมือง ที่เห็นแก่ตัว เอาเปรียบสังคม ทำให้ระบบนิติรัฐถูกบิดเบือน ทำผิดให้เป็นถูก ถูกเป็นผิด อยู่ตลอดเวลา!!

กำลังโหลดความคิดเห็น