xs
xsm
sm
md
lg

“จตุพร” นอนคุกเพราะ “หมิ่นสถาบัน” ไม่ใช่ถูกกลั่นแกล้ง!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


อาจเป็นเพราะเข้าใจกันไปเอง หรือประเมินสถานการณ์กันไปอีกแบบสำหรับบรรดาคนในพรรคเพื่อไทยของ ทักษิณ ชินวัตร โดยออกมาวิเคราะห์ให้เห็นภาพว่าการถูกศาลอาญาสั่งถอนประกันตัว อดีต ส.ส.และแกนนำคนเสื้อแดง จตุพร พรหมพันธุ์ จนต้องเข้าไปนอนในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร หรือถ้าพูดกันแบบตรงไปตรงมาก็คือไป “นอนคุก” ในครั้งนี้ว่าจะเป็นการเรียก “คะแนนสงสาร” ให้กับทั้งตัวเขาและพรรคเพื่อไทยโดยรวมอีกด้วย

คนที่ออกมาประเมินความรู้สึกดังกล่าวเป็นกลุ่มแรกๆ ก็เห็นจะได้แก่ อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร และเป็นนำคนเสื้อแดงอีกตำแหน่งหนึ่ง คือ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย อย่าง ปลอดประสพ สุรัสวดี เป็นต้น โดยคนพวกนี้พยายามชี้ให้สังคมเห็นว่า จตุพร ถูก “กลั่นแกล้ง” ไม่ได้รับความเป็นธรรม

คนพวกนี้มีความมั่นใจว่าเรื่องดังกล่าวจะสร้างกระแส จนทำให้พรรคเพื่อไทย ทำให้ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สำเร็จตามเป้าหมายคือได้เป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อนำตัว ทักษิณ ชินวัตร พี่ชายกลับประเทศแบบ “อภิสิทธิชน” นั่นคือ ไม่ต้องรับโทษในคดีทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งระบบคิดของเครือข่ายคนพวกนี้พยายามบิดเบือนตบตาชาวบ้านอยู่ตลอดเวลาก็คือ “ถูกกลั่นแกล้ง” ถูก “มือที่มองไม่เห็น” หรือ “ถูกอำมาตย์” รังแก ฯลฯ

ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วมันคนละเรื่อง เป็นเพราะคนพวกนี้ได้กระทำความผิด มีพยานหลักฐานชัดเจนทั้งสิ้น ตรงกันข้ามหลายครั้งที่มีการกระทำผิดแต่หลักฐานไม่แน่นหนาพอ หรือเป็นเพราะเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องไม่ได้ทำหน้าที่ปล่อยปละละเลยทำให้คนเหล่านี้ “ลอยนวล” มาได้หลายครั้ง

หากพิจารณากรณีของทักษิณ ชินวัตร ก่อน ที่มักมีการระบุบิดเบือนตลอดเวลาว่า ถูกรัฐประหารอย่างไม่เป็นธรรม ก็อาจจะมีความจริงอยู่บ้าง แต่สำหรับการดำเนินคดีนั้นแม้จะมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินฯ (คตส.) จนทำไปสู่การ “อายัดทรัพย์” แต่การนำคดีขึ้นฟ้องร้องดำเนินคดีในศาลยุติธรรมนั้นได้ตามขั้นตอนปกติ มีการว่าจ้างทนายความแก้ต่างอย่างเต็มที่ ซึ่งทุกคดีที่ ทักษิณ ต่อสู้ในศาลก็ได้ว่าจ้างทนายความชื่อดังรวมไปถึงค่าจ้างที่ “แพง” อีกด้วยก็ได้ และที่สำคัญก่อนหน้านั้นเขาก็ได้เดินทางกลับประเทศทันทีหลังจากที่พรรคพลังประชาชนชนะการเลือกตั้งได้เป็นรัฐบาล

แต่ด้วยความผิดที่ชัดเจน หลักฐานมัดแน่น จนนำไปสู่การ “วิ่งเต้น” ติดสินบนและกรณี “ถุงขนม” ที่ตีนศาลจนเป็นข่าวอื้อฉาว จากนั้นเมื่อเห็นท่าไม่ดี คิดว่าจะต้องแพ้คดีติดคุกแน่ก็หลบหนีออกประเทศ แล้วใช้เงินจำนวนหนึ่งที่โกงประชาชนคนไทยกลับมาใช้ “บงการ” ให้เกิดการจลาจลวุ่นวายมาจนถึงบัดนี้

ทุกอย่างเป็นความผิดจริง มีการจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์จริง ถูกระบุว่า “ต้องการเป็นประธานาธิบดี” ทุกอย่างมีหลักฐาน มีคำพูดและมีความเชื่อและแพ้คดีในศาลมาแล้ว อีกทั้งคดีที่ถูกตัดสินจำคุกและถูกยึดทรัพย์กว่า 4.6 หมื่นล้านบาทก็ล้วนเป็นคำตัดสินชี้ขาดมาจากศาลยุติธรรม “ไม่ใช่ศาลเตี้ย” อย่างที่พยายามตัดตอนเพื่อปลุกเร้าอารมณ์ชาวบ้านให้ “ไปตาย” แทนตลอดเวลา

เมื่อวกกลับมาที่ จตุพร พรหมพันธุ์บ้าง ที่เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมาถูกศาลอาญาสั่งถอนประกัน ฐานทำลายความมั่นคง ซึ่งรายละเอียดที่มาก็คือ “ปากพาจน” แต่อาจเป็นเพราะความ “จงใจ” เพราะหลายคนมีการประเมินว่านี่คือความต้องการให้ ถูกใจ “นายใหญ่” พยายามพูดจากระทบกระเทียบสถาบัน จนนำไปสู่การดำเนินคดีและยื่นขอเพิกถอนประกันตัวโดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ผ่านทางอัยการ และในที่สุดก็มีหลักฐานพิสูจน์ได้ชัดว่า จตุพร และแกนนำคนเสื้อแดงอีกคนหนึ่ง คือ นิสิต สินธุไพร เข้าข่ายความผิดก็ถูกถอนประกันและนำตัวไปคุมขังที่เรือนจำ ดังกล่าว

สิ่งที่เกิดขึ้นไม่เห็นเป็นการถูกกลั่นแกล้งตรงไหน เพราะไม่ว่าใครก็ตามที่ได้ฟังคำพูดปราศรัยบนเวทีเสื้อแดงของเขารับรองว่าถ้าไม่ใช่พวก “ขบวนการล้มเจ้า” หรือบกพร่องทางสมองแล้วต้องเข้าใจเจตนาและความหมายที่สื่อออกมาอย่างแน่นอน และที่สำคัญคนที่ออกมาพูดว่าจะเรียกคะแนนสงสารอย่าง พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย นั่นแหละตัวดี เพราะที่ผ่านมาก็มีความพยายามพูดจาเปรียบเทียบถึงการ “ล้มราชวงศ์โรมานอฟ” ล้ม “พระเจ้าซาร์” ในรัสเซีย ซึ่งก็พอเข้าใจเจตนาแท้จริงว่าต้องการสื่อถึงอะไร เพียงแต่ยังใช้วิธี “ศรีธนญชัย” เลี่ยงไปเลี่ยงมาเท่านั้น

ที่บอกว่าการติดคุกของจตุพร เที่ยวนี้จะเรียกคะแนนสงสาร โดยอ้างว่าถูกกลั่นแกล้งนั้น น่าจะออกมาในทางตรงกันข้าม เพราะความจริงก็คือเป็นผลมาจากการพูดจาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ มีหลักฐานชัดเจน ไม่ได้ถูกกลั่นแกล้งแน่นอน มิหนำซ้ำบางครั้งยังดูเหมือนกับว่าเป็นความยุติธรรมที่ล่าช้าเสียอีก เมื่อเป็นแบบนี้แทนที่จะได้คะแนนสงสาร อีกด้านหนึ่งอาจถูกคนทั่วไป “สมน้ำหน้า” และยังมีผลกระทบคะแนนของพรรคเพื่อไทยโดยรวมเสียอีกหากมีคนประเภทนี้ลงสมัครรับเลือกตั้ง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากพรรคเพื่อไทย โดย ทักษิณ พยายามจะยกประเด็น “จงรักภักดี” มาเน้นย้ำเพื่อให้คนเชื่อมั่น มันก็ยิ่งแปลกแยก เพราะในเมื่อคนอย่าง จตุพร พรหมพันธุ์ ติดคุกฐานพูดจาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เห็นกันอยู่โต้งๆ แล้วอย่างนี้จะหมายความว่าอย่างไร!!
กำลังโหลดความคิดเห็น