xs
xsm
sm
md
lg

“เทพไท” โวยกฎเหล็ก กกต.คุมเข้มนายกฯ ติงเสื้อแดงเคารพศาล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เทพไท เสนพงศ์ (แฟ้มข่าว)
“โฆษกมาร์ค” โวยกฎเหล็ก กกต.คุมเข้ม นายกฯ ครม. หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม แนะให้ไปดูวิธีปฏิบัติของ กกต.ชุดก่อน พร้อมเรียกร้องแก๊งแดงเคารพกระบวนการยุติธรรม หลังขัดขวางนำ “ไอ้ตู่-นิสิต” เข้าคุก ยันมีสิทธิ์บี้ “ยิ่งลักษณ์” บอกเป็นนักการเมืองต้องพร้อมถูกตรวจสอบ

นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการรักษาความปลอดภัยนายกรัฐมนตรีช่วงการเลือกตั้งว่า จากการที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางไปพบคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อซักซ้อมการทำหน้าที่ของคณะรัฐมนตรีในช่วงรักษาการ พบว่ามี 3 ประเด็นที่ต้องการความชัดเจน ประกอบด้วย 1.คือการใช้รถประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ที่บอกว่าใช้ได้เฉพาะเวลาราชการ เสร็จแล้วต้องใช้รถส่วนตัว ซึ่งเป็นปัญหาสำหรับการเปลี่ยนรถระหว่างเวลาราชการและนอกราชการ พรรคจึงตัดสินใจเปลี่ยนรถ โดยไม่ใช้รถประจำตำแหน่ง โดยเช่ารถจากบุคคลภายนอกที่ให้ความปลอดภัยได้

2.เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ซึ่ง กกต.ได้แสดงความเห็นว่าชุดรักษาความปลอดภัยสามารถใช้ได้ในเวลาราชการ ส่วนเวลานอกราชการควรไปจ้าง รปภ.ต่างหาก ทำให้เป็นปัญหาสำหรับการดำเนินการในเรื่องนี้ เพราะ รปภ.ส่วนตัวจะมีปัญหาทางกฎหมายไม่มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย จึงได้ใช้วิธีการขอการคุ้มครองจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นสิทธิที่ ส.ส.สามารถขอได้หากเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย แต่กรณีของนายกฯ ถือว่าเป็นบุคคลที่ล่อแหลมต่อเหตุร้ายอาจจะเกิดขึ้นได้ และเห็นควรที่จะให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความระมัดระวังคุ้มครองเป็นพิเศษ

3.การหาเสียงในเวลานอกราชการไม่เป็นปัญหาสำหรับนายกฯ แต่มีปัญหากรณีกลุ่มองค์กรเอกชนจัดดีเบตแล้วเชิญหัวหน้าพรรคการเมืองไปแสดงวิสัยทัศน์ หากไม่สามารถทำได้ก็จะเกิดปัญหาข้อได้เปรียบเสียเปรียบและไม่เป็นธรรม และเป็นปัญหาที่พรรคจะต้องแก้ไข แต่อยากให้ กกต.ไปดูวิธีปฏิบัติต่อรัฐบาลรักษาการอื่นๆ อย่างไร เป็นมาตรฐานเดียวกันหรือไม่ ส่วนจะขอกำลังจากหน่วยไหนนั้นเป็นเรื่องของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อาจจะมีการประสานไปยังกองทัพให้จัดส่งมาก็ได้ แล้วแต่ความเหมาะสม ขณะนี้ยังไม่ได้ทำเป็นลายลักษณ์อักษร แต่มีการประสานทางวาจาแล้ว

นายเทพไทกล่าวถึงกรณีศาลถอนประกันตัวนายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีต ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และนายนิสิต สินธุไพร สองแกนนำคนเสื้อแดงว่า อยากให้นายจตุพรและแกนนำคนเสื้อแดงเคารพการตัดสินของศาล แต่ดูจากพฤติกรรมแล้ว เมื่อนายจตุพรถูกนำตัวออกจากศาลไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพพบว่ามีคนขัดขวาง ทำให้ต้องขับรถย้อนศรเพื่อนำนายจตุพรเข้าไปในในเรือนจำ เป็นการไม่เคารพกระบวนการยุติธรรม ไม่ควรหยิบขึ้นมาเป็นประเด็นการเคลื่อนไหวทางการเมือง การถูกถอนประกันตัวเป็นเรื่อที่ศาลได้ใช้ดุลพินิจ และที่ผ่านมานายจตุพรได้เอกสิทธิ์คุ้มครองมาโดยตลอด เมื่อไม่มีก็จะพบความจริงว่าที่ผ่านมาพฤติกรรมทำผิดและสุ่มเสี่ยงอยู่ตลอดเวลา

นายเทพไท กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทยวิพากษ์วิจารณ์ว่าพรรคประชาธิปัตย๋พยายามกล่าวหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในเรื่องส่วนตัวว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้กำชับสมาชิกทุกคนในเรื่องดังกล่าว ไม่ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์จะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ก็ตาม แต่ให้อยู่บนประเด็นเกี่ยวกับการเมืองที่สังคมและสาธารณชนควรจะได้รับรู้ และสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์พูดเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคมที่ผ่านมา เป็นการพูดถึงการถือหุ้นของครอบครัวไม่ใช่ประเด็นส่วนตัว สังคมจำเป็นต้องรับรู้

"ก่อนหน้านี้คนทีเป็นนายกฯไม่ได้ความกระจ่าง จนเป็นที่มาขอ'การซุกหุ้นและการตัดสินที่เป็นที่คลางแคลงใจของสังคม คนที่จะเป็นนักการเมืองควรแสดงความบริสุทธิ์ใจ ยอมรับการตรวจสอบ พรรคประชาธิปัตย์ยืนยันว่าจะไม่ก้าวล่วงเรื่องส่วนตัวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์"

ด้านนายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ถ้า น.ส.ยิ่งลักษณ์จะเป็นนักการเมือง จะมีความกล้าหาญในการออกมาพูดทางการเมืองด้วยตัวเอง วันนี้ยังไม่แน่ใจว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์จะได้เป็นผู้สมัครระบบบัญชีรายชื่อลำดับ 1และต้องถามไปอีกว่าหมายเลข 1 หมายถึงแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีใช่หรือไม่หรือเป็นหมายเลขอื่น เพราะก่อนหน้านี้มีประสบการณ์ว่าไม่สามารถมีผู้นำฝ่ายค้านได้

ส่วนกรณีรองหัวหน้าพรรคคนหนึ่งระบุว่าขอให้ตนขอให้เป็นสุภาพบุรุษทางการเมืองนั้น ก็ขอตอบว่าตนเป็นสุภาพสุบุรุษ ถามคำถามข้อกฎหมายอย่างชัดเจน ส่วนสามี น.ส.ยิ่งลักษณ์มีหุ้นอยู่ในบริษัทเอกชขน กรณีลูกก็เป็นคำถามทางกฎหมาย ไม่มีเรื่องส่วนตัว

นายบุญยอด กล่าวว่า เมื่อเรียกร้องความเป็นสุภาพบุรุษพรรคเพื่อไทยก็ต้องสะกดคำว่าสุภาพบุรุษเช่นเดียวกัน เมื่อตรวจสอบหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้ ตนก็มีสิทธิที่จะตรวจสอบและมีสิทธิแทนประชาชนได้เช่นเดียวกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น