“โทรโข่งมาร์ค” อ้างสังคม จี้ พท.เปิดโผว่าที่นายกฯ โอ่นายเยี่ยม “ประชา” โชว์สปิริต

“เทพไท” เชื่อเพื่อไทยขัดแย้งกันเองทำไม่เปิดตัวว่าที่นายกฯ เชื่อเจ้าของพรรคยังไม่ตัดสินใจ อ้างสังคมจี้เปิดตัวอย่าประวิงเวลา ชู 2 เหตุผล “ทักษิณ” สั่งแดงถอดเสื้อ โอ่ “มาร์ค” เยี่ยม “ประชา” โชว์สปิริตการเมือง “บุญยอด” จี้ กกต.คุมสื่อสาดโคลนพรรค หวัง “ไอ้ตู่” ไม่ขี้ขลาด ไปฟังศาลพิจารณาถอนประกัน

วันนี้ (11 พ.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวกรณีการเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ที่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่า เป็นผลมาจากความขัดแย้งในพรรคเพื่อไทย เห็นได้จากการที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ออกมาระบุเงื่อนไขการประกาศตัวแคนดิเดตนายกฯ 5 ข้อ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าขณะนี้ยังไม่มีการตัดสินใจจากเจ้าของพรรคตัวจริง และมีการผัดวันประกันพรุ่งมาตลอด ทั้งนี้ การที่พรรคเพื่อไทยอ้างว่ามีบุคคลที่เข้าข่ายเป็นแคนดิเดตนายกฯ 4-5 คนนั้น สังคมอยากเรียกร้องให้เปิดเผยว่ามีใครบ้าง หากยังไม่เปิดเผยถือว่าสับขาหลอก กลบกระแส และเชื่อว่าอาจจะประวิงเวลาเลื่อนไปเปิดตัวหลังการเลือกตั้ง

“พรรคเพื่อไทยต้องตอบคำถามกับสังคม เพราะการรณรงค์หาเสียงทุกเวทีจะมีการเรียกร้องให้ว่าที่นายกรัฐมนตรีขึ้นมาดีเบต เพื่อประกอบการตัดสินใจ ดังนั้นควรจะเปิดเผยให้ชัดเจน ตรงไปตรงมา” นายเทพไทกล่าว

นายเทพไทกล่าวกรณี พ.ต.ท.ทักษิณสั่งให้กลุ่ม นปช.ถอดเสื้อแดงเพื่อเข้าร่วมเวทีปราศรัยหาเสียงของผู้สมัครเพื่อไทยว่า เป็นการส่งสัญญาณที่น่าจะมีเหตุผล 2 อย่าง คือ 1.กลบเกลื่อนไม่ให้คนส่วนหนึ่งที่คิดว่ากลุ่ม นปช.และพรรคเพื่อไทยเป็นกลุ่มเดียวกัน โดย พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการให้กลุ่มคนเสื้อแดงเป็นอีกเวทีหนึ่งนอกสภา ส่วนพรรคเพื่อไทยเล่นในสภา 2.ถ้าไม่มีการถอดเสื้อแดงที่หน้าเวทีปราศรัยของผู้สมัครพรรคเพื่อไทย ก็จะมีแต่กลุ่มคนเสื้อแดงอยู่เป็นหน้าม้าแม่ยก ปิดโอกาสไม่ให้คนไม่มีสีเสื้อได้เข้าร่วม ทั้งนี้ควรปล่อยให้กลุ่ม นปช.ใส่เสื้อแดงหาเสียงต่อไป เพราะทั้งกลุ่มเสื้อแดงและเพื่อไทยความจริงเป็นกลุ่มเดียวกัน

นายเทพไทกล่าวกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางไปเยี่ยมนายประชา ประสพดี อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทยที่ถูกลอบยิงวานนี้ (10 พ.ค.) ว่า ถือเป็นสปิริตและความรับผิดชอบของนายกรัฐมนตรี และแสดงให้เห็นว่าไม่ได้เลือกข้างหรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เมื่อบุคคลใดบุคคลหนึ่งได้รับความเดือดร้อน คนเป็นนายกรัฐมนตรีต้องรีบไปดูแล แต่ตนขอตั้งข้อสังเกตว่าขณะนี้มีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งแล้วเมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ส่วนใหญ่มักถูกประโคมข่าวให้เป็นเรื่องการเมืองทั้งสิ้น เชื่อว่าหลังจากนี้ไปอาจจะมีเหตุการณ์เช่นนี้อีก จึงอยากให้ทุกฝ่ายยอมรับกติกาไม่อยากให้เอาการเลือกตั้งมาต่อสู้จนถึงเอาชีวิต โดยไม่คำนึงถึงความชอบธรรม อย่างไรก็ตาม พรรคได้ย้ำกับผู้สมัครให้ดูแลตัวเอง และฝากบอกผู้สมัครทุกคนว่าหากไม่มีความปลอดภัยหรือสุ่มเสี่ยงต่ออันตรายสามารถทำหนังสือแจ้งมาได้ นายกฯ จะให้ความเป็นธรรมและดูแลอย่างเต็มที่

ด้าน นายบุญยอด สุขถิ่นไทย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ฝากไปถึงกกต.ที่เป็นกลางในการเลือกตั้งว่า ต้องกวดขันการอภิปรายบนเวทีต่างๆ ว่ามีการเสียดสี สาดโคลน ต่อพรรคอื่นด้วยหรือไม่เพราะเวลานี้มีการใช้กฎหมายการเลือกตั้งแล้ว ทุกเวทีไม่ว่าจะเป็นเสื้อสีใด หรือเวทีพันธมิตรฯ ก็ต้องให้ความยุติธรรมต่อผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งทุกคน เพราะจะทำให้เสียคะแนนได้ รวมทั้งสิ่อทุกแขนง วิทยุชุมชน หรือโทรทัศน์ดาวเทียมที่มีสีต่างๆ อาทิ รายการเวกอัพ ที่มี ม.ล.ณัฐกรณ์ เทวกุล ที่จัดรายการเสียดสีพรรคประชาธิปัตย์ทุกวันนั้น อยากจะฝากไปถึงผู้จัดด้วยว่าต้องเข้าใจกติกาการเลือกตั้ง

นายบุญยอดกล่าวต่อด้วยว่า ในวันที่ 12 พ.ค. เป็นวันที่ศาลจะพิจารณาในเรื่องการถอนประกันตัวหรือไม่กับคนเสื้อแดงนั้นว่า ตนหวังว่านายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช.คงจะไม่หนีการพิจารณาของศาล หรือขี้ขลาด ขี้กลัวที่จะไม่ไปฟังคำตัดสิน และถ้ามีคำตัดสินที่จะให้ถอนประกัน และเวลานี้นายจตุพรไม่มีเอกสิทธิ์คุ้มครองในฐานะที่ ส.ส.แล้ว ก็หวังว่าพรรคเพื่อไทยคงจะไม่ตบหน้าประชาชนด้วยการส่งคนที่ต้องถูกจำขังด้วยการถอนประกันตัว ลงสู่สนามเลือกตั้งอีก เหมือนที่ทำมาก่อนแล้วและไม่ประสบความสำเร็จ เชื่อว่าครั้งนี้พรรคเพื่อไทยจะพิจารณาเรื่องนี้อย่างแท้จริง โดยปล่อยให้นายจตุพรไปต่อสู้คดีที่เป็นคดีที่ใหญ่มากสำหรับประชาชนคนไทย คือคดีที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ