ASTVผู้จัดการรายวัน - ดีเอสไอยื่นคำร้องต่ออัยการขอถอนประกัน 9 แกนนำแดงอีกรอบ หลังขึ้นเวทีปราศรัยเมื่อ 10 เม.ย.จาบจ้วงสถาบัน ขณะที่อัยการยังแทงกั๊ก หากเห็นว่าจาบจ้วงสถาบันจริงจะยื่นคำร้องต่อศาลให้ แต่หากฝ่ายจำเลยยื่นขอความเป็นธรรมเข้ามาก็พร้อมพิจารณา ด้าน"ประวิตร" ถามพวกเสื้อแดง"ประยุทธ์" ผิดอะไรถึงต้องฟ้องกลับ ส่วนผู้บัญชาการนปอ.กร้าว กำลังพลเริ่มไม่พอใจเหตุจาบจ้วง อาจตบเท้าแสดงพลังปกป้อง แต่ไม่ใช่ชนวนปฏิวัติ
วานนี้ (18 เม.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่สำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด พ.ต.ท.ถวัล มั่งคั่ง พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เดินทางเข้ายื่นคำร้องขอถอนประกัน 9 แกนนำ นปช. ประกอบด้วย นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นพ.เหวง โตจิราการ นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก นายก่อแก้ว พิกุลทอง นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ นายนิสิต สินธุไพร นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย และนายขวัญไชย ไพรพนา หลังจากที่ทั้ง 9 ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวจากศาลอาญา ในคดีก่อการร้าย ก่อนไปขึ้นปราศรัยบนเวทีการชุมนุมของกลุ่ม นปช.เมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา อันเป็นการกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท และ มาตรา 116 ฐานทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใด อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็น หรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ก่อความไม่สงบในประเทศ
ทั้งนี้ พ.ต.ท.ถวัลได้นำคำร้องมอบให้ นายรุจ เขื่อนสุวรรณ อัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 พิจารณาเพื่อยื่นคำร้องต่อศาลอาญาต่อไป ขณะเดียวกัน นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ ผู้ประสานงานเครือข่ายพลเมืองอาสาปกป้องแผ่นดิน ได้ยื่นหนังสือสนับสนุนให้พนักงานสอบสวนดีเอสไอ ถอนประกันจำเลยทั้ง 9 คนอีกด้วย
****ดีเอสไอยันหมิ่นสถาบันชัดเจน
พ.ต.ท.ถวัลกล่าวว่า หลังจากที่แกนนำทั้ง 9 คนได้ประกันตัวไปขึ้นปราศรัยบนเวทีการชุมนุม พนักงานสอบสวนเห็นว่าการกระทำดังกล่าวผิดต่อกฎหมาย และเงื่อนไขที่ศาลอาญาวางข้อกำหนดไว้ จึงยื่นคำร้องต่อพนักงานอัยการ เพื่อพิจารณายื่นคำร้องต่อศาลอาญาให้มีคำสั่งถอนประกันจำเลยทั้ง 9 คน จากนี้คงเป็นดุลพินิจของทางอัยการ และศาล ส่วนพนักงานสอบสวน ดีเอสไอ ถือว่าปฏิบัติตามหน้าที่แล้ว สำหรับหลักฐานที่มอบให้พนักงานอัยการพิจาณานั้น ประกอบไปด้วย ซีดี บันทึกภาพการปราศรัยของจำเลย ในวันที่ 7 และ 10 เม.ย.54 พร้อมกับคำให้การของประชาชนที่เกี่ยวข้องที่ได้รับฟังการปราศรัยของจำเลยอีกด้วย
***อัยการยังกั๊กให้อีกฝ่ายค้านได้
ด้านนายรุจกล่าวว่า หากปรากฏข้อเท็จจริงว่าจำเลยทั้ง 9 คนกระทำผิดต่อกฎหมาย และเงื่อนไขที่ศาลวางข้อกำหนดไว้ พนักงานอัยการจะพิจารณายื่นคำร้องถอนประกันต่อศาล แต่หากพบว่าไม่เข้าเงื่อนไข ถือว่าเป็นการใช้สิทธิไปตามรัฐธรรมนูญ คงไม่ยื่นคำร้องแต่อย่างใด ทั้งนี้หากจำเลยยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการ ยินดีจะพิจารณาให้ความเป็นธรรมเช่นกัน
เมื่อถามว่า ความผิดเกี่ยวกับการหมิ่นสถาบัน ไม่ได้ปรากฏในเงื่อนไขการประกันศาล จะพิจารณาอย่างไร นายรุจกล่าวว่า แม้เงื่อนไขของศาลอาญาที่ให้ปล่อยตัวชั่วคราวแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง จะไม่ได้กำหนดเรื่องมาตรา 112 แต่หากพนักงานอัยการ ตรวจสอบพบว่า มีการหมิ่นสถาบัน ก็สามารถที่จะยื่นคำร้องต่อศาลให้ถอนประกันตัวแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงทันที เนื่องจากถือเป็นการกระทำที่ยุยง ปลุกปั่นให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมาย อย่างไรก็ดี การพิจารณาเรื่องการถอนประกัน คาดว่าจะใช้เวลาไม่นานในการพิจารณาพยานหลักฐาน โดยอัยการจะเร่งตรวจสอบพยานหลักฐานของดีเอสไอ
ขณะเดียวกัน นายแพทย์ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ ผู้ประสานงานเครือข่ายพลเมืองอาสาปกป้องแผ่นดิน และคณะ ได้เดินทางเข้าพบนายรุจ เขื่อนสุวรรณ อัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 เพื่อยื่นหนังสือถึงอธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ ให้เร่งรัดและดำเนินคดีต่อผู้ที่กระทำความผิดกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
*** อย่าเอาการเมืองโยงสถาบันฯ
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณี นายจตุพร พรหมพันธุ์ พร้อมแกนนำ กลุ่มคนเสื้อแดง ยื่นฟ้องกลับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ว่าแจ้งความเท็จ ใส่ร้ายหมิ่นสถาบันฯ ระหว่างการชุมนุมเมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา ว่า พล.อ.ประยุทธ์ ทำอะไรผิดถึงได้ไปแจ้งความฟ้องร้อง ตนเห็นว่าทั้งหมดเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรมที่จะต้องว่ากันไป เท่าที่ตนได้ฟังรายละเอียดจากการให้สัมภาษณ์ของพล.อ.ประยุทธ์ ไม่เห็นว่าจะมีอะไร พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้พูดอะไรที่มีปัญหา และสถาบันฯ ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไร เป็นเรื่องการเมืองก็ว่ากันไป จะมายุ่งกับสถาบันฯ ทำไม จะต่อสู้กันยังไงก็ต่อสู้กันไปทางการเมือง
เมื่อถามว่า กลุ่มคนเสื้อแดงประกาศชุมนุมทั่วประเทศ หากมีการดำเนินคดีเอาผิดกับ นายจตุพร พร้อมพวกแกนนำ พล.อ.ประวิตร กล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า ถ้าเป็นการชุมนุมที่ถูกต้องตามกฎหมายก็สามารถดำเนินการได้ แต่ถ้าไม่ถูกต้องก็ชุมนุมไม่ได้เท่านั้นเอง เพราะเป็นการทำผิดกฎหมาย
***กองทัพสะเทือนใจที่มีการจาบจ้วง
พล.ท.ยอดยุทธ บุญญาธิการ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศกองทัพบก (นปอ.) กล่าวภายหลังนำกำลังพลของนปอ. เข้าร่วมลงนามถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่รพ.ศิริราช ว่า กำลังพลของนปอ.ไม่สบายใจ รู้สึกกระทบกระเทือนทางจิตใจ จากการที่มีกลุ่มบุคคล แสดงคำพูดที่พาดพิงสถาบันฯ จึงอยากให้พี่น้องประชาชนชาวไทย เรียกร้องดำเนินการตามกฎหมาย อย่าให้มีกลุ่มบุคคลใด กระทำการใดๆ ที่ไม่เหมาะสมอีก และขอเรียกร้องให้สังคม ออกมาแสดงพลังต่อต้านการกระทำที่ไม่เหมาะสม
ส่วนกรณีนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ไปแจ้งความกลับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.นั้น พล.ท.ยอดยุทธ กล่าวว่า เรื่องนี้ ต้องดูที่มูลเหตุว่า มีการกระทำที่ไม่เหมาะสมหรือไม่ ทหารเป็นผู้ที่รับผิดชอบด้านความมั่นคง ปกป้องสถาบันฯ จึงจำเป็นต้องดำเนินการตามที่ผู้บัญชาการทหารบกสั่งให้ดำเนินการตามกฎหมาย
"การที่ พล.อ.ประยุทธ์ ไปแจ้งความกับกลุ่มนปช. ในข้อหาหมิ่นสถาบันฯ นั้น ถือว่าถูกต้องแล้ว เมื่อมีกลุ่มบุคคลกระทำความผิดต่อสถาบันฯ เราต้องปกป้อง เพราะเราเป็นทหาร ที่ต้องดูแลรักษาความมั่นคง ปกป้องรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่กองทัพเคารพนับถือ รวมถึงประชาชนทั่วไปต้องออกมาดำเนินการช่วยกันปกป้อง ช่วยกันประณามกลุ่มบุคคลเหล่านี้"พล.ท.ยอดยุทธกล่าวและว่า กำลังพล นปอ. จะออกมาแสดงพลังด้วยการตบเท้าหรือไม่นั้น ส่วนใหญ่ไม่สบายใจที่มีการพูดจากระทบสถาบันฯ อยู่บ่อย ๆ เราคิดว่า ต้องร่วมกันออกมาปกป้องสถาบันฯ เมื่อถึงเวลาอันสมควร
***เชื่อไม่ใช่ชนวนปฏิวัติ
ส่วนเหตุการณ์นี้จะนำเป็นเงื่อนไขทำการปฏิวัติได้หรือไม่นั้น พล.ท.ยอดยุทธ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน ทหารคงไม่ทำเช่นนั้น เราแยกแยะออกว่าเรื่องใดเป็นเรื่องใด เรื่องปกป้องสถาบันฯ เราก็จำเป็นต้องดำเนินการ ส่วนเรื่องการเมืองเราไม่เกี่ยวข้องด้วย เพราะฉะนั้นอย่าพยายามโยงทหารไปเกี่ยวกับการเมือง
เมื่อถามว่า ยังมีการเชื่อมโยงไปถึง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษด้วยนั้น พล.ท.ยอดยุทธ กล่าวว่า ทหารทุกคนรู้ดีเราต้องปกป้องท่าน ทุกคนทราบดีว่า ท่านเป็นผู้ทำความดีมาตลอดได้รับความไว้วางพระราชหฤทัย จนกระทั่ง เป็นประธานองคมนตรี ท่านจงรักภักดีต่อสถาบันสูงสุด เพราะฉะนั้นใครที่พยายามโยงไปเกี่ยวข้องด้วยยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่ พล.อ.เปรม จะไปเกี่ยวข้องด้วย อย่างไรก็ตาม ตนอยากเรียกร้องให้ประชาชนออกมาแสดงว่า สิ่งใดถูกสิ่งใดไม่ถูก ต้องแสดงความรักความสามัคคี อย่าไปหลงเชื่อกลุ่มบุคคลใด ๆ ที่พยายามบิดเบือนมุ่งทำลายสถาบันที่สำคัญๆของประเทศ ควรแยกให้ออกว่าอะไรเป็นอะไรและช่วยกันทำความดีถวายในหลวงของเรา
**"วัชระ"แจ้งจับ"มานิตย์"หมิ่นเบื้องสูง
ที่ กองบังคับการปราบปราม ( บก.ป. ) นายวัชระ เพชรทอง ส.ส. กทม. พรรคประชาธิปัตย์ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับนายมานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะ ในความผิดฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยนำแผ่นซีดี บันทึกภาพ และเสียง และ เอกสารถอดคำพูดในรายการ "ความจริงวันนี้" สัญจร ซึ่งออกอากาศเมื่อ วันที่ 13 เม.ย. 52 มามอบให้พนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐาน
นายวัชระ กล่าวว่าการที่ตนต้องเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายมานิตย์ เพราะคำกล่าวของนายมานิตย์ ในรายการ “ความจริงวันนี้” มีถ้อยคำที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพอย่างชัดเจน ซึ่งนายมานิตย์ เคยดำรงตำแหน่งเป็นถึงผู้พิพากษาหัวหน้าคณะ เป็นตุลาการที่มีความอาวุโส แต่กลับกระทำการหมิ่นเบื้องสูงเสียเอง เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีกับประชาชน ตนในฐานะ ส.ส.จึงต้องทำหน้าที่แจ้งความดำเนินคดี.
วานนี้ (18 เม.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่สำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด พ.ต.ท.ถวัล มั่งคั่ง พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เดินทางเข้ายื่นคำร้องขอถอนประกัน 9 แกนนำ นปช. ประกอบด้วย นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นพ.เหวง โตจิราการ นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก นายก่อแก้ว พิกุลทอง นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ นายนิสิต สินธุไพร นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย และนายขวัญไชย ไพรพนา หลังจากที่ทั้ง 9 ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวจากศาลอาญา ในคดีก่อการร้าย ก่อนไปขึ้นปราศรัยบนเวทีการชุมนุมของกลุ่ม นปช.เมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา อันเป็นการกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท และ มาตรา 116 ฐานทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใด อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็น หรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ก่อความไม่สงบในประเทศ
ทั้งนี้ พ.ต.ท.ถวัลได้นำคำร้องมอบให้ นายรุจ เขื่อนสุวรรณ อัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 พิจารณาเพื่อยื่นคำร้องต่อศาลอาญาต่อไป ขณะเดียวกัน นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ ผู้ประสานงานเครือข่ายพลเมืองอาสาปกป้องแผ่นดิน ได้ยื่นหนังสือสนับสนุนให้พนักงานสอบสวนดีเอสไอ ถอนประกันจำเลยทั้ง 9 คนอีกด้วย
****ดีเอสไอยันหมิ่นสถาบันชัดเจน
พ.ต.ท.ถวัลกล่าวว่า หลังจากที่แกนนำทั้ง 9 คนได้ประกันตัวไปขึ้นปราศรัยบนเวทีการชุมนุม พนักงานสอบสวนเห็นว่าการกระทำดังกล่าวผิดต่อกฎหมาย และเงื่อนไขที่ศาลอาญาวางข้อกำหนดไว้ จึงยื่นคำร้องต่อพนักงานอัยการ เพื่อพิจารณายื่นคำร้องต่อศาลอาญาให้มีคำสั่งถอนประกันจำเลยทั้ง 9 คน จากนี้คงเป็นดุลพินิจของทางอัยการ และศาล ส่วนพนักงานสอบสวน ดีเอสไอ ถือว่าปฏิบัติตามหน้าที่แล้ว สำหรับหลักฐานที่มอบให้พนักงานอัยการพิจาณานั้น ประกอบไปด้วย ซีดี บันทึกภาพการปราศรัยของจำเลย ในวันที่ 7 และ 10 เม.ย.54 พร้อมกับคำให้การของประชาชนที่เกี่ยวข้องที่ได้รับฟังการปราศรัยของจำเลยอีกด้วย
***อัยการยังกั๊กให้อีกฝ่ายค้านได้
ด้านนายรุจกล่าวว่า หากปรากฏข้อเท็จจริงว่าจำเลยทั้ง 9 คนกระทำผิดต่อกฎหมาย และเงื่อนไขที่ศาลวางข้อกำหนดไว้ พนักงานอัยการจะพิจารณายื่นคำร้องถอนประกันต่อศาล แต่หากพบว่าไม่เข้าเงื่อนไข ถือว่าเป็นการใช้สิทธิไปตามรัฐธรรมนูญ คงไม่ยื่นคำร้องแต่อย่างใด ทั้งนี้หากจำเลยยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการ ยินดีจะพิจารณาให้ความเป็นธรรมเช่นกัน
เมื่อถามว่า ความผิดเกี่ยวกับการหมิ่นสถาบัน ไม่ได้ปรากฏในเงื่อนไขการประกันศาล จะพิจารณาอย่างไร นายรุจกล่าวว่า แม้เงื่อนไขของศาลอาญาที่ให้ปล่อยตัวชั่วคราวแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง จะไม่ได้กำหนดเรื่องมาตรา 112 แต่หากพนักงานอัยการ ตรวจสอบพบว่า มีการหมิ่นสถาบัน ก็สามารถที่จะยื่นคำร้องต่อศาลให้ถอนประกันตัวแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงทันที เนื่องจากถือเป็นการกระทำที่ยุยง ปลุกปั่นให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมาย อย่างไรก็ดี การพิจารณาเรื่องการถอนประกัน คาดว่าจะใช้เวลาไม่นานในการพิจารณาพยานหลักฐาน โดยอัยการจะเร่งตรวจสอบพยานหลักฐานของดีเอสไอ
ขณะเดียวกัน นายแพทย์ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ ผู้ประสานงานเครือข่ายพลเมืองอาสาปกป้องแผ่นดิน และคณะ ได้เดินทางเข้าพบนายรุจ เขื่อนสุวรรณ อัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 เพื่อยื่นหนังสือถึงอธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ ให้เร่งรัดและดำเนินคดีต่อผู้ที่กระทำความผิดกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
*** อย่าเอาการเมืองโยงสถาบันฯ
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณี นายจตุพร พรหมพันธุ์ พร้อมแกนนำ กลุ่มคนเสื้อแดง ยื่นฟ้องกลับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ว่าแจ้งความเท็จ ใส่ร้ายหมิ่นสถาบันฯ ระหว่างการชุมนุมเมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา ว่า พล.อ.ประยุทธ์ ทำอะไรผิดถึงได้ไปแจ้งความฟ้องร้อง ตนเห็นว่าทั้งหมดเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรมที่จะต้องว่ากันไป เท่าที่ตนได้ฟังรายละเอียดจากการให้สัมภาษณ์ของพล.อ.ประยุทธ์ ไม่เห็นว่าจะมีอะไร พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้พูดอะไรที่มีปัญหา และสถาบันฯ ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไร เป็นเรื่องการเมืองก็ว่ากันไป จะมายุ่งกับสถาบันฯ ทำไม จะต่อสู้กันยังไงก็ต่อสู้กันไปทางการเมือง
เมื่อถามว่า กลุ่มคนเสื้อแดงประกาศชุมนุมทั่วประเทศ หากมีการดำเนินคดีเอาผิดกับ นายจตุพร พร้อมพวกแกนนำ พล.อ.ประวิตร กล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า ถ้าเป็นการชุมนุมที่ถูกต้องตามกฎหมายก็สามารถดำเนินการได้ แต่ถ้าไม่ถูกต้องก็ชุมนุมไม่ได้เท่านั้นเอง เพราะเป็นการทำผิดกฎหมาย
***กองทัพสะเทือนใจที่มีการจาบจ้วง
พล.ท.ยอดยุทธ บุญญาธิการ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศกองทัพบก (นปอ.) กล่าวภายหลังนำกำลังพลของนปอ. เข้าร่วมลงนามถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่รพ.ศิริราช ว่า กำลังพลของนปอ.ไม่สบายใจ รู้สึกกระทบกระเทือนทางจิตใจ จากการที่มีกลุ่มบุคคล แสดงคำพูดที่พาดพิงสถาบันฯ จึงอยากให้พี่น้องประชาชนชาวไทย เรียกร้องดำเนินการตามกฎหมาย อย่าให้มีกลุ่มบุคคลใด กระทำการใดๆ ที่ไม่เหมาะสมอีก และขอเรียกร้องให้สังคม ออกมาแสดงพลังต่อต้านการกระทำที่ไม่เหมาะสม
ส่วนกรณีนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ไปแจ้งความกลับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.นั้น พล.ท.ยอดยุทธ กล่าวว่า เรื่องนี้ ต้องดูที่มูลเหตุว่า มีการกระทำที่ไม่เหมาะสมหรือไม่ ทหารเป็นผู้ที่รับผิดชอบด้านความมั่นคง ปกป้องสถาบันฯ จึงจำเป็นต้องดำเนินการตามที่ผู้บัญชาการทหารบกสั่งให้ดำเนินการตามกฎหมาย
"การที่ พล.อ.ประยุทธ์ ไปแจ้งความกับกลุ่มนปช. ในข้อหาหมิ่นสถาบันฯ นั้น ถือว่าถูกต้องแล้ว เมื่อมีกลุ่มบุคคลกระทำความผิดต่อสถาบันฯ เราต้องปกป้อง เพราะเราเป็นทหาร ที่ต้องดูแลรักษาความมั่นคง ปกป้องรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่กองทัพเคารพนับถือ รวมถึงประชาชนทั่วไปต้องออกมาดำเนินการช่วยกันปกป้อง ช่วยกันประณามกลุ่มบุคคลเหล่านี้"พล.ท.ยอดยุทธกล่าวและว่า กำลังพล นปอ. จะออกมาแสดงพลังด้วยการตบเท้าหรือไม่นั้น ส่วนใหญ่ไม่สบายใจที่มีการพูดจากระทบสถาบันฯ อยู่บ่อย ๆ เราคิดว่า ต้องร่วมกันออกมาปกป้องสถาบันฯ เมื่อถึงเวลาอันสมควร
***เชื่อไม่ใช่ชนวนปฏิวัติ
ส่วนเหตุการณ์นี้จะนำเป็นเงื่อนไขทำการปฏิวัติได้หรือไม่นั้น พล.ท.ยอดยุทธ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน ทหารคงไม่ทำเช่นนั้น เราแยกแยะออกว่าเรื่องใดเป็นเรื่องใด เรื่องปกป้องสถาบันฯ เราก็จำเป็นต้องดำเนินการ ส่วนเรื่องการเมืองเราไม่เกี่ยวข้องด้วย เพราะฉะนั้นอย่าพยายามโยงทหารไปเกี่ยวกับการเมือง
เมื่อถามว่า ยังมีการเชื่อมโยงไปถึง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษด้วยนั้น พล.ท.ยอดยุทธ กล่าวว่า ทหารทุกคนรู้ดีเราต้องปกป้องท่าน ทุกคนทราบดีว่า ท่านเป็นผู้ทำความดีมาตลอดได้รับความไว้วางพระราชหฤทัย จนกระทั่ง เป็นประธานองคมนตรี ท่านจงรักภักดีต่อสถาบันสูงสุด เพราะฉะนั้นใครที่พยายามโยงไปเกี่ยวข้องด้วยยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่ พล.อ.เปรม จะไปเกี่ยวข้องด้วย อย่างไรก็ตาม ตนอยากเรียกร้องให้ประชาชนออกมาแสดงว่า สิ่งใดถูกสิ่งใดไม่ถูก ต้องแสดงความรักความสามัคคี อย่าไปหลงเชื่อกลุ่มบุคคลใด ๆ ที่พยายามบิดเบือนมุ่งทำลายสถาบันที่สำคัญๆของประเทศ ควรแยกให้ออกว่าอะไรเป็นอะไรและช่วยกันทำความดีถวายในหลวงของเรา
**"วัชระ"แจ้งจับ"มานิตย์"หมิ่นเบื้องสูง
ที่ กองบังคับการปราบปราม ( บก.ป. ) นายวัชระ เพชรทอง ส.ส. กทม. พรรคประชาธิปัตย์ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับนายมานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะ ในความผิดฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยนำแผ่นซีดี บันทึกภาพ และเสียง และ เอกสารถอดคำพูดในรายการ "ความจริงวันนี้" สัญจร ซึ่งออกอากาศเมื่อ วันที่ 13 เม.ย. 52 มามอบให้พนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐาน
นายวัชระ กล่าวว่าการที่ตนต้องเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายมานิตย์ เพราะคำกล่าวของนายมานิตย์ ในรายการ “ความจริงวันนี้” มีถ้อยคำที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพอย่างชัดเจน ซึ่งนายมานิตย์ เคยดำรงตำแหน่งเป็นถึงผู้พิพากษาหัวหน้าคณะ เป็นตุลาการที่มีความอาวุโส แต่กลับกระทำการหมิ่นเบื้องสูงเสียเอง เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีกับประชาชน ตนในฐานะ ส.ส.จึงต้องทำหน้าที่แจ้งความดำเนินคดี.