ผู้บัญชาการทหารอากาศ อวยพรปีใหม่ไทยของชาวสยามสามัคคี ลั่นพร้อมฟันพวกหมิ่นสถาบันในกองทัพ ด้าน “อภิสิทธิ์” อ้าง “เสธ.หนั่น” โบ้ยไม่ได้ประกันให้พวกที่พูดหมิ่น ชี้ดีเอสไอถอนประกันตามข้อเท็จจริง ยัน “ทักษิณ-แดง-พท.” เคลื่อนไหวร่วมกันชัด เย้ยฝ่ายค้านอยากได้อำนาจเพื่อ “แม้ว” เท่านั้น ขู่อย่าทำอะไรนอกกฎหมาย
วันนี้ (13 เม.ย.) พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ กล่าวว่า เทศกาลสงกรานต์นี้ขอให้ประเทศไทยมีความสงบ คนไทยมีความสามัคคี ส่วนกรณีที่มีคนบางกลุ่มยังคงจาบจ้วงสถาบันนั้น การชุมนุมในกรอบของกฎหมายสามารถทำได้ แต่หากไม่ทำตามกฎหมาย หรือมีการหมิ่นสถาบัน โดยเฉพาะกำลังพลในกองทัพ กองทัพจะมีการดำเนินการอย่างเด็ดขาด ขณะที่มีกลุ่มเสื้อแดงชุมนุมและมีการจาบจ้างสถาบันนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจคงติดตามอยู่ ซึ่งหากพบว่าเข้าข่ายความผิด ตำรวจคงดำเนินการ อย่างไรก็ตาม เรื่องสถาบันนั้นทางกองทัพได้ทำการชี้แจง และทำความเข้าใจกับประชาชนมาโดยตลอด และขอให้สื่อมวลชนช่วยกันประชาสัมพันธ์ในเรื่องดังกล่าวด้วย
ขณะที่ วานนี้ (12 เม.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังพล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางเข้าพบว่า ได้คุยกับ ผบ.ตร.หลายเรื่อง โดยในช่วงสงกรานต์มีแผนการดูแลอยู่แล้ว ทั้งที่กรุงเทพฯและจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งทางศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ศอ.บต. ดูแลและติดตามอยู่ ส่วนสถานการณ์ต่างๆ นั้น ทาง ผบ.ตร.รายงานว่าไม่พบมีสิ่งผิดปกติอะไร เพียงแต่บอกว่า การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงเมื่อวันที่ 10 เม.ย.ไม่ได้มีเหตุการณ์อะไรรุนแรง ส่วนที่มีการทำอะไร ซึ่งผิดกฎหมายหรือไม่ ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ดำเนินการไปตามปกติ คือเวลาที่มีการชุมนุม มีการปราศรัยจะมีการติดตามอยู่แล้วว่า การพูดจาปราศรัยมีอะไรที่ผิดกฎหมายหรือไม่ ซึ่งเขาก็ดำเนินการตามขั้นตอนของเขาต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า ผบ.ตร.รายงานหรือไม่ว่าแกนนำได้ปราศรัยใช้ถ้อยคำอะไรที่หมิ่นสถาบันหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ผบ.ตร.บอกว่าทางเจ้าหน้าที่ได้ติดตาม โดยปกติจะมีการบันทึกเทป และมาติดตามดำเนินการ ซึ่งหากทางแกนนำทำอะไรที่เกี่ยวพันกับคดีก่อนก็จะเป็นเรื่องของทางดีเอสไอ เมื่อถามว่า พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะไปเป็นพยานค้ำประกันความประพฤติให้กับคนเสื้อแดง ควรจะทำทบทวนอะไรหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คงต้องไปถาม พล.ต.สนั่น แต่ตนเองได้เคยสอบถามบอกว่า ในฐานะที่ท่านไปเป็นพยานได้ติดตามพูดคุยกับคนที่ได้รับการประกันตัวมาหรือไม่ พล.ต.สนั่นบอกว่าได้ติดต่ออยู่เป็นประจำ และคงได้มีการพูดคุยกันว่าอะไรควร หรือไม่ควรอย่างไร และรู้สึกว่า พล.ต.สนั่นบอกว่าเวลานี้คนที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์กันไม่ใช่คนที่ถูกประกันตัวออกมา
ส่วนที่กรมสอบสวนคดีพิเศษยื่นถอนประกันตัวแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงจากกรณีการขึ้นเวทีปราศรัยเมื่อวันที่ 10 เม.ย.นั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เป็นไปตามข้อเท็จจริงและดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ คิดว่าเรื่องอย่างนี้ไม่ควรเป็นเรื่องของการไปแทรกแซงโดยฝ่ายการเมืองให้เจ้าหน้าที่เขาดำเนินการตรงไปตรงมา เมื่อถามว่า พรรคต้นสังกัดเองควรต้องแสดงความรับผิดชอบหรือควรต้องดำเนินการอย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ในส่วนของตัวบุคคลเจ้าหน้าที่จะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ส่วนพรรคการเมืองรู้สึกว่าเขาไม่ได้สนใจติดตามเอาใจใส่เรื่องนี้ในส่วนของพรรคเพื่อไทย รู้สึกว่าเขาก็ปล่อย และให้มีการดำเนินการมาโดยตลอดว่าไปแล้วเขาเกือบจะยอมรับด้วยซ้ำว่า การเคลื่อนไหวทั้งหลาย ทั้งนอกสภาอะไรต่างๆ ก็เป็นส่วนหนึ่งของการเคลื่อนไหวของพรรคเขา จะไปคาดหวังให้เขาทำอะไรคงจะยาก เพราะค่อนข้างจะพูดชัดขึ้นทุกวันว่า กรณีการเคลื่อนไหวของเสื้อแดงกับพรรคเพื่อไทยก็เหมือนกับเป็นเรื่องเดียวกัน เพียงแต่เดินคนละช่องทาง และมี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องหาก่อการร้าย อีกคนหนึ่งเป็น 3 ส่วน ตนยืนยันค่อนข้างชัดว่า การเคลื่อนไหวไปด้วยกัน คุณทักษิณ เสื้อแดง กับพรรคเพื่อไทย
ผู้สื่อข่าวถามว่า สิ่งที่เกิดบนเวทีคุณทักษิณ เขามองไปไกลกว่านั้น มองถึงจุดเปลี่ยน ที่อยู่บนทาง 2 แพ่ง ไม่ได้หยุดแค่ที่อำนาจรัฐ แต่ตั้งเป้าไปไกลกว่านั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนได้ตั้งข้อสังเกตมาตลอดว่า การอยากได้อำนาจรัฐของพรรคเพื่อไทยคงจะอยากได้เพื่อมาทำอะไรให้กับคุณทักษิณมากกว่า มันไม่ใช่เรื่องอื่น เมื่อถามต่อว่า หมายความว่าจะกระทบต่อสถาบันหลักของประเทศด้วยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่ คุณทักษิณจะต้องการอะไรก็แล้วแต่ ต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ไปทำอะไรนอกกฎหมายไม่ได้