“เทพเทือก” ยิ้ม ไม่กังวลเพื่อไทยขู่ฟ้องยุบ ปชป. ยันทุกคำพูดเป็นความจริง ไม่ได้ใส่ร้ายใคร แถมตอนให้สัมภาษณ์ก็ยังไม่ได้สมัครเลือกตั้ง ส.ส. ชี้การเดินหน้านิรโทษกรรมหวังช่วยทั้ง “นช.แม้ว” และแกนนำแก๊งเสื้อแดงให้พ้นผิด ด้าน “ก่อแก้ว” ยัน “สุเทพ” ใส่ร้าย อ้างยังเป็นผู้บริสุทธิ์ไม่ได้เผาบ้านเมือง
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ระหว่างนำผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ลงสมัครรับเลือกตั้งที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 ไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง กรุงเทพฯ ถึงกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่ออันดับ 1 พรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช.จะฟ้องร้องต่อ กกต.เพื่อให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์โดยระบุว่านายสุเทพกล่าวใส้ร้ายป้ายสีว่าเป็นผู้ก่อการร้ายมีผลต่อการชี้นำคะแนนนิยมของผู้สมัครพรรคเพื่อไทยว่า ตนคงไม่ได้กล่าวถึงว่าผู้สมัครพรรคเพื่อไทยทุกคนเป็นผู้ก่อการร้าย ตนเพียงแต่เรียนให้พี่น้องประชาชนได้ตั้งข้อสังเกตและได้พิจารณาว่าในบรรดาผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยที่อยู่ในบัญชีรายชื่อประมาณ 22 คน มีบางคนมีพฤติกรรมซึ่งเกี่ยวกับเรื่องของการก่อการร้าย เช่น นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นต้น
“ที่ผมพูดไม่ใช่เรื่องใส่ร้าย พี่น้องประชานคนไทยทั้งประเทศก็คงจำภาพเหล่านี้ได้ เพราะว่าการกระทำของนายจตุพรก็ดี นายณัฐวุฒิก็ดี และคนเหล่านี้อีกจำนวนมาก เขากระทำการอย่างไม่กลัวเกรงกฎหมายบ้านเมืองใดๆ เขาได้กระทำการซึ่งมีการบันทึกเอาไว้เป็นหลักฐาน สื่อมวลชนก็นำข่าวออกไปเผยแพร่ ทั้งในหน้าหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ ผมก็เก็บรวบรวมหลักฐานเหล่านี้ไว้ทั้งหมด”
นายสุเทพกล่าวว่า อยากจะกราบเรียนไปยังพี่น้องประชาชนทั้งหลายที่ฟังข่าวแล้วอาจจะดูว่าน่าตกใจว่าเขาจะดำเนินคดีต่อตน และพรรคประชาธิปัตย์ถึงขั้นยุบพรรคนั้น ตนไม่ได้พูดอะไรที่เกินเลยจากความเป็นจริง คนเหล่านี้ได้สร้างความเสียหายให้แก่บ้านเมือง แล้วก็คนเหล่านี้ถูกเจ้าหน้าที่บ้านเมืองรวบรวมพยานหลักฐานทำสำนวนส่งฟ้องศาลแล้ว และศาลก็รับฟ้องแล้ว ขณะนี้ประกันตัวออกมา
“ผมอยากชี้ให้พี่น้องประชาชนเห็นว่า คนเหล่านี้พยายามที่จะผันตัวเองเข้ามาเป็น ส.ส. เพื่อที่จะได้อาศัยเอกสิทธิ์ในฐานะที่เป็น ส.ส.เพื่อที่จะไม่ต้องขึ้นศาล เพื่อจะได้ประวิงเวลาในการต่อสู้ และผมไม่สงสัยเลยทำไมพรรคเพื่อไทยถึงพยายามชูนโยบายว่าจะล้มเลิกล้างความผิดทั้งหลายให้กับคนที่ได้ทำความผิดเกี่ยวกับทางการเมือง ผมก็เลยเข้าใจได้ว่ามันไม่ใช่เฉพาะคุณทักษิณ เพียงคนเดียวแล้วที่พรรคเพื่อไทยจะล้างความผิดให้ แต่รวมทั้งคนที่ได้มีพฤติกรรมเป็นผู้ก่อการร้ายเหล่านี้ไปด้วย น่ากังวลใจมาก เพราะฉะนั้นในการพูดจาของผม ผมได้ทำหน้าที่เพื่อที่จะเอาความจริงมาเรียนย้ำให้พี่น้องประชาชนได้ตระหนักก่อนที่จะตัดสินใจเลือกผู้แทนฯ คราวนี้”
ผู้สื่อข่าวถามว่าแกนนำพรรคประชาธิปัตย์คนอื่นๆ เป็นห่วงในเรื่องดังกล่าวว่าอาจจะกระทบต่อบรรยากาศการหาเสียงและคะแนนเสียงของผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ตนไม่ได้หารือกันในที่ประชุมพรรค ยังไม่ได้หารือกัน แต่ที่ตนพูดเพราะตนเคยทำหน้าที่เป็นรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ทราบข้อมูลเหล่านี้ชัดเจนและเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ตนนำไปอภิปรายในสภาฯ และได้พิมพ์เป็นหนังสือ “ประเทศไทยของเรา อย่าให้ใครมาเผาอีก” ตนหมายถึงคนพวกนี้ และตนก็กังวลใจจำเป็นต้องเรียนต่อประชาชนว่าต้องช่วยพินิจพิเคราะห์ ตนเป็นผู้นำเสนอข้อมูล ส่วนพี่น้องประชาชนเป็นผู้พิจารณาตัดสินใจ
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้จะไม่กระทบต่อบรรยากาศการลงพื้นที่หาเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ ตนยืนยันว่าเราจะพูดความจริง ไม่ใส่ร้ายป้ายสีใคร จะพูดเฉพาะเรื่องจริงเท่านั้น เรื่องที่ตนพูดเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงแล้ว พี่น้องประชาชนทั้งประเทศเป็นพยานได้ มีหลักฐาน มีเทป วีดีโอ ภาพและเสียงของคนเหล่านี้อยู่ และยืนยันได้เหนือกว่าคำอธิบายของตนในวันนี้คือมันมีอยู่ในสำนวนการสอบสวนของเจ้าหน้าที่แล้วส่งให้อัยการ ซึ่งศาลก็รับฟ้องแล้วด้วย
ผู้สื่อข่าวแย้งว่า แม้ว่าจะไม่ได้พูดเกินจากข้อเท็จจริงในคดี แต่หากพรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดงจะอ้างว่าการพูดดังกล่าวส่งผลต่อคะแนนนิยมของผู้สมัครเพื่อไทย มีข้อกังวลในการต่อสู้ทางกฎหมายหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ตนมั่นใจว่าตนต่อสู้คดีในศาลได้ เพราะตนพูดจาด้วยความระมัดระวัง พูดเฉพาะจำเป็น ที่จริงยังมีอีกมากกว่านี้ที่สมควรที่ประชาชนคนไทยควรได้รู้ แต่ตนพูดเฉพาะที่เห็นสมควรที่จะพูด
“ผมไม่ห่วงเรื่องคดี เพราะตอนที่พูด ผมพูดขณะที่ยังไม่ได้เป็นผู้สมัคร ส.ส.เลย” นายสุเทพหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
ส่วนที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์เองก็จะฟ้องด้วย โดยอ้างว่าไปกล่าวหาว่าเขาเป็นพวกนักฉกฉวยโอกาสทางการเมือง นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ใช่ ตนไม่ได้พูดอย่างนั้น ใครจะไปอ้างอย่างไรก็ว่าไป ตนจะเอาเทปของสื่อมวลชนเป็นพยานหมด ตนเพียงบอกว่าคนพวกนี้เขาทำมาหากินอะไร แล้วเขาก็เป็นอย่างไร และตนยังไม่ได้เป็นผู้สมัคร ส.ส.ด้วย ตั้งแต่วันที่ 25 พ.ค.เป็นต้นไป ตนถึงต้องระมัดระวังการพูดจา
นายก่อแก้ว พิกุลทอง ผู้สมัครระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวถึงกรณีที่นายสุเทพระบุว่าบัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทย มีทั้งนายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นพ.เหวง โตจิราการ ซึ่งเป็นผู้มีส่วนร่วมกับการก่อการร้าย เผาบ้านเผาเมืองมาแล้ว ประชาชนก็คงคิดมากนั้น ทางพรรคเพื่อไทยจึงจะดำเนินการยื่นเรื่องนี้ต่อ กกต.เรื่องนี้มีผลต่อมาตรา 237 ของรัฐธรรมนูญ และมาตรา 94 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มีโทษยุบพรรคด้วย
“พวกผมยังคงเป็นผู้บริสุทธิ์ และไม่ได้เป็นผู้เผาบ้านเมืองอย่างที่นายสุเทพกล่าวหาแต่อย่างใด แต่การที่นายสุเทพออกมาพูดเช่นนี้นั้นเป็นคำพูดที่ใส่ร้ายต่อพวกผม และยังหวังที่จะลดคะแนนของพรรคเพื่อไทยด้วย”
