เอาไงดี เลือก “มาร์ค” ได้ “เทือก” เลือก “ปู” ได้ ฯพณฯ จตุพร-ณัฐวุฒิ!!

ผ่าประเด็นร้อน

การหาเสียงในช่วงที่กำลังจะผ่านโค้งแรกเต็มที แม้ว่ายังวัดหรือตัดสินอะไรกันไม่ได้มากว่าพรรคไหนจะได้ชัยชนะ หรือว่าจะมีพรรคใดบ้างจับขั้วกันจัดตั้งรัฐบาล เพราะกว่าจะถึงเส้นชัย ยังมีเส้นทางข้างหน้าเหลืออีกพอสมควร อาจจะมีอุบัติเหตุ หรืออุปสรรคขวากหนามจนสะดุด หรือล้มลงในตอนปลายก็ได้

อย่างไรก็ดี หากมองข้ามช็อตไปหลังเลือกตั้งก็ต้องมาพิจารณาสองพรรคใหญ่ คือ พรรคประชาธิปัตย์ กับพรรคเพื่อไทย ว่าพรรคไหนชนะได้จัดตั้งรัฐบาล หรือว่าพรรคไหนไม่ชนะแต่ได้จัดตั้งรัฐบาล แม้ว่านาทีนี้ยังมีความพยายามจากพวก “เฒ่าการเมือง” พยายามดันพรรคขนาดกลางเป็น “ตาอยู่” ขอเป็นนายกรัฐมนตรีปรองดอง แบบเฉพาะกิจ เสนอตัวขอ “รับงานพิเศษ” ในเรื่อง “นิรโทษกรรม” ให้กับทุกคนที่ติดหล่มอยู่ในบ้านเลขที่ 111+109 ซึ่งแน่นอนว่ามองดูเผินๆ แล้ว “วิน วิน” แต่คนที่ได้กำไรมากที่สุดก็เห็นจะเป็นคนที่อยู่แดนไกลเท่านั้น เพราะถ้าสำเร็จก็ย่อมหมายถึงได้คืนมาทั้งเงินทั้งอำนาจ

ก่อนจะไปถึงตรงนั้น ก็ต้องฉายให้เห็นภาพการแข่งขันระหว่างสองพรรคใหญ่ คือ เพื่อไทย กับประชาธิปัตย์ แม้ว่าจะเป็นระดับ “หุ่นเชิด” ด้วยกันทั้งคู่ แต่หากอีกมุมหนึ่งมันก็น่าศึกษาไม่น้อย

เริ่มจากฝ่ายพรรคเพื่อไทยก่อนที่ขึ้นป้ายเปิดเผยตัวตนออกมาแล้วว่า “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ” ความหมายก็คือ พรรคนี้เป็นของทักษิณ ทุกอย่างก็ต้องขึ้นอยู่กับเขาคนเดียว ถ้าจะคิดก็มีเพียงทักษิณ คนเดียวที่คิดได้ ส่วนคนอื่นต้องทำตามคำสั่ง คำบงการเท่านั้น และเพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้นไปอีกว่า เมื่อตัวเองหนีคดีอยู่ต่างประเทศ ยัง “ขี้ขลาด” ไม่กล้าเข้ามาเผชิญหน้าตรงๆก็ต้องส่งคนที่ไว้ใจได้ลงมา ซึ่งก็คือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวลงมาแทน

ทั้งที่หากพิจารณาจากฝีไม้ลายมือในทุกด้านทั้งเรื่องธุรกิจและการเมือง ไม่เคยมีผลงานอะไรที่โดดเด่นสักอย่าง อาจนำมาอ้างว่าเคยเป็นผู้บริหารบริษัทเอสซีแอทเซท เป็นธุรกิจใหญ่มาแล้ว ก็ว่ากันไป แต่ในความเป็นจริงแล้วอาจเป็นเพียงเข้าไปเป็นสัญลักษณ์เป็นตัวแทนของ ทักษิณ เท่านั้น ขณะที่การบริหารภายในมีทีมงานคอยจัดการให้เสร็จสรรพ

แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น เพราะสิ่งที่ต้องพิจารณากันต่อไป หากยิ่งลักษณ์ชนะการเลือกตั้งและเป็นนายกรัฐมนตรี ภารกิจแรกที่ได้ประกาศเอาไว้ล่วงหน้าก็คือ จะ “นิรโทษกรรม” ลบล้างความผิดให้แก่พี่ชายคือ ทักษิณ ชินวัตร หมายความว่าคดีทุจริต คดีที่ใช้อำนาจโดยมิชอบที่ “ศาลยุติธรรม” เคยพิพากษาเอาไว้จะถูกลบล้างไปทั้งหมด โดยข้ออ้างง่ายๆ ก็คือ เพื่อความเป็นธรรม และเพื่อความปรองดองสมานฉันท์

ขณะเดียวกัน เหตุผลที่นำมาเป็นต้นเหตุของการเคลื่อนไหวก็คือ ใช้การเลือกตั้งเป็นข้อพิสูจน์ว่าถ้าพรรคเพื่อไทยชนะก็จะนำไปอ้างมั่วๆ ว่านั่นไงเห็นหรือไม่ว่าทักษิณไม่ผิด เสียงส่วนใหญ่ต้องการให้กลับบ้าน ซึ่งเวลานี้กำลังมีความพยายามรณรงค์บิดเบือนแบบนี้อย่างหนักในต่างจังหวัด ทั้งที่เป็นตรรกะที่เหลวไหล และอาจเข้าข่าย “หน้าด้าน” ที่สุดเท่าที่เคยมีมาก็เป็นได้ ที่มีการใช้การเลือกตั้งฟอกความผิดให้กับคนใดคนหนึ่ง

นอกจากนี้ สิ่งที่สังคมกำลังจับตามองกันก็คือ หากพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งบุคคลที่มีรายนามดังต่อไปนี้ เช่น จตุพร พรหมพันธุ์ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เหวง โตจิราการ ฯลฯ คนพวกนี้ก็จะพลิกผันชั่วข้ามคืน นั่นคือจากโจรก่อการร้าย นักปลุกระดมเผาบ้านเผาเมือง ผู้ต้องหาคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ จะเข้าข่ายได้รับการปูนบำเหน็จได้เป็นรัฐมนตรี ถูกเรียกขานเป็น “พะณะหัวเจ้าท่าน” โดยฉับพลันทันที

อีกด้านหนึ่งเมื่อหันมาทางฝั่งประชาธิปัตย์กันบ้าง ที่ยังผลักดันให้ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกรอบ ทั้งที่เวลา 2 ปี 6 เดือนที่อยู่ในตำแหน่ง ไม่อาจสร้างผลงานให้เกิดความประทับใจได้เลย มีแต่เรื่องอื้อฉาว ทุจริตคอรัปชั่นไม่ต่างจากรัฐบาลทักษิณ ซึ่งมันจะมีประโยชน์อะไรหากจะบอกว่าอภิสิทธิ์ไม่โกง แต่รัฐมนตรีในรัฐบาลโกง และคนรอบข้างก็โกง

ที่ผ่านมาสิ่งที่คนไทยได้ยินก็คือ “นายกฯ ดีแต่พูด” ผลงานห่วยแตก ยอมตกเป็นเบี้ยล่าง เป็น “หุ่นเชิด” ของนักการเมืองเขี้ยวลากดิน เพียงเพื่อแลกกับการสนับสนุนให้ตัวเองได้เป็นนายกรัฐมนตรีไปวันๆเท่านั้น ซึ่งรับรองว่า ถ้าอภิสิทธิ์กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกรอบ เราก็จะมีผู้จัดการรัฐบาลที่ชื่อ สุเทพ เทือกสุบรรณ เข้ามา แถมยังตามติดมาด้วย เนวิน ชิดชอบ และบรรหาร ศิลปอาชา คนดีที่สุดในสุพรรณบุรีที่หาใครมาเทียบไม่ได้แล้วในชาตินี้ คนพวกนี้ก็จะกลับมาจัดสรร แบ่งปันอำนาจกันเป็นที่สนุกสนาน

ดังนั้น เมื่อพิจารณาจากความเป็นจริงที่จะต้องเกิดขึ้นหลังการเลือกตั้งไม่ว่าฝ่ายไหนจะชนะ หรือได้จัดตั้งรัฐบาล เช่น ถ้ายิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้เป็นนายกรัฐมนตรี เราก็มีแนวโน้มที่จะได้ ฯพณฯ จตุพร พรหมพันธุ์ กับ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ขณะที่ฝ่าย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เข้ามาอีกรอบเราก็จะมีคนชื่อ สุเทพ เทือกสุบรรณ แล้วยังแถมท้ายด้วย เนวิน ชิดชอบ และบรรหาร ศิลปอาชา เข้ามา คนไทยจะตัดสินใจแบบนั้นหรือ

แต่ถ้าไม่เอาแบบนี้แล้วจะทำไง!!