xs
xsm
sm
md
lg

กก.ป้องกันราชอาณาจักร ยื่น ผบ.เหล่าทัพ จี้ รักษาอธิปไตย ซัดรัฐไม่สนอง 3 ข้อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กรรมการป้องกันราชอาณาจักร แถลงซัดรัฐไม่สนอง 3 ข้อเสนอ จ่อยื่น ผบ.ทัพ จี้ออกมาทำหน้าที่รักษาอธิปไตย ขู่ไม่ทำเจอฟ้องละเว้นปฏิบัติหน้าที่ แย้มหยุดชุมนุม 29 มิ.ย. แต่รอ “สุวิทย์” คุย “ซกอาน” เลื่อนถกมรดกโลกหรือไม่ ค่อยปรับถ้าที “จำลอง” ซัดฝ่ายการเมืองฮั้วประโยชน์เขมรทำเพื่อนบ้านเหิมเกริม

วันนี้ (26 พ.ค.) ที่บ้านพระอาทิตย์ คณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย โดย พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ พล.ร.ท.ประทีป ชื่นอารมย์ นายเทอดภูมิ ใจดี และ นายนายประพันธ์ คูณมี โฆษกคณะกรรมการ พร้อมด้วย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และ นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ร่วมกันแถลงข่าวความเคลื่อนไหวของการชุมนุมรวมพลังปกป้องแผ่นดิน โดย นายประพันธ์ แถลงว่า คณะกรรมการได้พิจารณาแล้ว เห็นว่า การชุมนุมที่ผ่านมา 122 วัน ที่ได้มีการนำเสนอข้อเรียกร้อง 3 ประการ คือ 1.ยกเลิกเอ็มโอยู 2543 2.ถอนตัวออกจากภาคีมรดกโลก และ 3.ผลักดันชุมชนและทหารกัมพูชาออกจากดินแดนไทย แต่กลับไม่ได้รับการตอบสนองจากรัฐบาล และผู้มีอำนาจ รวมทั้งยังไม่เห็นหนทางที่จะมีผู้ใดมาทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติ โดยเฉพาะในส่วนของกองทัพที่มีหน้าที่โดยตรงในการป้องกันอธิปไตยของชาติ ภาคประชาชน จึงเห็นว่า จากที่ผ่านมาเราได้ให้เกียรติกองทัพมาโดยตลอด แต่เมื่อถึงเวลาที่เห็นว่าไม่มีหนทาง หรือบุคคลใดจะมาทำหน้าที่ป้องกันรักษาอธิปไตยของชาติ การเฝ้ารอต่อไปก็ไม่มีวี่แววว่าจะมีการปฏิบัติหน้าที่ คณะกรรมการจึงต้องแสดงเจตจำนง และยื่นหนังสือให้แก่ผู้บัญชาการเหล่าทัพ เรียกร้องให้ทหารออกมาทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติตามหน้าที่ที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ เพื่อให้กองทัพทบทวนบทบาทที่มีต่อเรื่องดังกล่าว โดยจะดำเนินการยื่นหนังสือให้แก่ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารอากาศ และผู้บัญชาการทหารเรือ ภายในวันนี้ โดยต้องการให้กองทัพได้ทราบว่า ประชาชนต้องการเห็นการออกมาปฏิบัติหน้าที่ปกป้องดินแดนภายใต้การนำของกองทัพ จึงได้ร่างหนังสือขึ้นมา 1 ฉบับ

“หากกองทัพยังเพิกเฉยไม่ยอมปฏิบัติหน้าที่ ก็หลีกไม่พ้นที่จะต้องถูกดำเนินการทางกฎหมาย ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ขัดต่อประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 119-120 และ 157 รวมไปถึงขัดต่อหน้าที่ที่ระบุไว้ในมาตรา 77 ของรัฐธรรมนูญด้วย เหมือนที่เราได้ดำเนินการต่อนายกฯ ต่อ ป.ป.ช.ไปแล้วฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่” นายประพันธ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า การยื่นหนังสือครั้งนี้ได้กำหนดระยะเวลาในการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพไว้หรือไม่ นายประพันธ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ควรกระทำทันทีและเร่งด่วน เพราะเป็นเรื่องอธิปไตยดินแดนของชาติ ไม่สามารถรอได้ แต่อาจจะให้เวลาในการพิจารณาหนังสือระยะหนึ่ง หากผ่านไปแล้วยังไม่มีการดำเนินการใดๆ ก็คงต้องมีการดำเนินการทางกฎหมายต่อไป

เมื่อถามว่า ในหนังสือระบุถึงช่วงเวลาการชุมนุม ว่า จะสิ้นสุดในวันที่ 29 มิ.ย.นี้ หลังจากทราบผลการพิจารณาของคณะกรรมการมรดกโลกต่อกรณีปราสาทพระวิหาร นายประพันธ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ได้กำหนดไว้ก่อนหน้านี้แล้ว เนื่องจากเรามาชุมนุมในครั้งนี้ มุ่งที่ผลของปํญหาดินแดนอธิปไตยเป็นหลัก และเราก็มีความห่วงใยว่าในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกครั้งนี้จะเป็นตัวชี้ขาดที่จะมีผลต่อดินแดนของชาติ ซึ่งการประชุมมีการจัดขึ้นในวันที่ 26-29 มิ.ย. อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ (26 พ.ค.) ก็ได้มีการประชุมนอกรอบในระดับทวิภาคีระหว่างนายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ กับ นายซกอาน รองนายกฯกัมพูชา ที่ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งหากมีการตกลงให้คณะกรรมการมรดกโลกเลื่อนการประชุมในวาระพิจารณาแผนบริหารจัดการมรดกโลกปราสาทพระวิหารออกไป เราก็จะมีการพิจารณาถึงแนวทางการชุมนุมอีกครั้งว่า จะปรับมาเป็นการรณรงค์โหวตโนอย่างเต็มรูปแบบ หรือยุติการชุมนุมชั่วคราวก็เป็นไปได้ แต่ต้องรอให้มีความชัดเจนก่อน

ด้าน พล.ต.จำลอง กล่าวเพิ่มเติมว่า การเสียดินแดนอธิปไตยถือเป็นเรื่องใหญ่ จึงมีประชาชนจำนวนมากทำหนังสือมาถึงตนในฐานะที่เป็นทหารเก่า ว่า เหตุใดกองทัพจึงไม่ออกมาทำหน้าที่ปกป้องแผ่นดิน เมื่อได้อ่านท้งข้อความหรือบทกลอนแล้วก็สะเทือนใจ สะท้อนให้เห็นถึงความสิ้นหวังของประชาชนต่อทหารหาญของพวกเขา อย่างไรก็ตาม การที่เราออกมาเรียกร้องให้ทหารทำหน้าที่ผลักดันกัมพูชาออกจากแดนไทยนั้น ก็ไม่ได้หมายความว่า จะให้ไปรบราฆ่าฟัน เพราะยังมีมาตรการหลายๆอย่างที่สามารถทำได้ อย่างที่เคยบอกไปแล้วทั้งการนำเครื่องบินรบไปฝึกซ้อมใกล้แนวชายแดนในฝั่งไทย หรือการฝึกซ้อมรบในบริเวณใกล้เคียง เป็นต้น ส่วนมาตรการทางเศรษฐกิจก็มีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการปิดด่าน ที่ส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ของทางฝ่ายกัมพูชา ทั้งบ่อน การขนสินค้าเถื่อน หรือการเคลื่อนย้ายยุทธภัณฑ์ต่างๆ รวมไปถึงการตัดการส่งพลังงานหรือตัดไฟฟ้าที่ส่งไปขายที่กัมพูชา ที่อาจทำให้ประเทศต้องสูญเสียรายได้เล็กน้อย แต่เทียบไม่ได้กับการสูญเสียดินแดน

“เหตุที่ยังไม่มีการดำเนินมาตรการใดๆ เลย ก็เพราะฝ่ายการเมืองไทยไปมีผลประโยชน์ร่วมกับทางกัมพูชา จึงทำให้กัมพูชาเหิมเกริมจนกล้าเข้ามายึดดินแดนไทยในหลายจุด” พล.ต.จำลอง กล่าว

ส่วน พล.อ.ปรีชา กล่าวเสริมว่า ขณะนี้กัมพูชาเข้ามายึดพื้นที่ของไทยในหลายจุด แต่เรากลับปล่อยไม่ทำอะไร และที่สำคัญยังถูกลากให้ไปขึ้นศาลโลกเสียอีก ทั้งที่เรามีปืน มีศักยภาพทางการทหารที่เหนือกว่ามาก ในสมัยที่ตนยังรับราชการอยู่นั้น ไม่เคยมีปัญหาเรื่องพวกนี้ ทั้งพม่า ลาว หรือแม้แต่กัมพูชา ที่ไม่มีใครล่วงล้ำเข้ามาในแดนไทย เพราะเรามีปืนและแสดงศักยภาพให้เขาเห็น

รายละเอียดหนังสือที่ยื่นให้แก่ ผบ.ทบ.

วันที่ ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๕๔

เรื่อง ขอให้ปฏิบัติหน้าที่ในการปกป้องดินแดนและอธิปไตยของชาติ

เรียน ผู้บัญชาการทหารสูงสุด,ผู้บัญชาการทหารบก,ผู้บัญชาการทหารเรือและผู้บัญชาการทหารอากาศ

สืบเนื่องจากการที่ประชาชนผู้รักชาติได้จัดให้มีการชุมนุมสาธารณะ ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์และพื้นที่ถนนราชดำเนินในช่วงระหว่างกระทรวงศึกษาธิการกับทำเนียบรัฐบาล โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๕๔ เป็นต้นมาจนกระทั่งถึงปัจจุบัน เป็นเวลาร่วม ๑๒๑ วันแล้วและยังจะดำเนินการชุมนุมต่อไปจนกว่าจะทราบผลของการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกในสันที่ ๒๙ มิถุนายน ๒๕๕๔ การจัดการชุมนุมของภาคประชาชนผู้รักชาติดังกล่าว เป็นการจัดการชุมนุมโดยพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย ซึ่งเป็นตัวแทนองค์กรภาคประชาชน ที่มีความห่วงใยต่อปัญหาดินแดนและอธิปไตยของชาติ อันเป็นผลมาจากปัญหาข้อพิพาทระหว่างประเทศไทยกับกัมพูชา ประชาชนผู้เข้าร่วมชุมนุมและผู้เห็นด้วยสนับสนุน ได้มีข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลให้ปฏิบัติรวม ๓ ข้อคือ
1.เรียกร้องให้รัฐบาลไทยยกเลิกบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการ
สำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกระหว่างราชอาณาจักรไทยกับราชอาณาจักรกัมพูชา พ.ศ.๒๕๔๓ (MOU ๒๕๔๓) เพื่อยุติความเสียเปรียบทั้งปวงที่กัมพูชาเป็นฝ่ายละเมิดและรุกรานแผ่นดินไทยมาโดยตลอด ฝ่ายไทยไม่สามารถผลักดันทหารและชุมชนและสิ่งปลูกสร้างของกัมพูชาให้ออกไปจากแผ่นดินไทยได้

2.เรียกร้องให้รัฐบาลไทยถอนตัวออกจากภาคีอนุสัญญามรดก
โลก เพื่อเป็นการประท้วงและไม่ยอมรับการดำเนินการตามคำร้องขอของประเทศกัมพูชาในคณะกรรมการมรดกโลก ที่ได้ดำเนินการละเมิดอธิปไตยมาหลายครั้ง ในการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร และนำพื้นที่โดยรอบปราสาทซึ่งเป็นดินแดนไทยให้เป็นมรดกโลกของกัมพูชาแต่เพียงฝ่ายเดียว

3.เรียกร้องให้รัฐบาลไทยดำเนินการผลักดันทหารและชุมชน
กัมพูชาที่รุกล้ำและยึดครองแผ่นดินไทย เพื่อทวงคืนแผ่นดินไทยที่สูญเสียอำนาจอธิปไตยให้แก่กัมพูชาเป็นเวลาเกือบ ๑๑ ปี นับแต่การลงในนามใน MOU ๒๕๔๓ เป็นต้นมา

ระหว่างการชุมนุมดังกล่าวคณะกรรมการภาคประชาชนได้ยื่นหนังสือ
ขอให้รัฐบาลปฏิบัติหน้าที่ในการปกป้องดินแดนและอธิปไตยของชาติเมื่อวันที่ ๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แต่จนกระทั่งบัดนี้ยังไม่ปรากฏว่ารัฐบาลได้แสดงท่าทีหรือดำเนินนโยบายใดเพื่อแสดงการปกป้องดินแดนและอธิปไตยของชาติแต่อย่างใด

บัดนี้ได้ปรากฏข้อเท็จจริงโดยชัดแจ้งว่าได้มีทหารและคนกัมพูชาเข้ามารุกรานและยึดครองดินแดนไทยมาโดยต่อเนื่อง อันเป็นการปรากฏข้อเท็จจริงจากการยอมรับของรัฐบาลและคำสัมภาษณ์ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีเอง ทั้งยังดำเนินการที่จะให้ผู้สังเกตการณ์จากต่างประเทศเข้ามาประจำในพื้นที่ที่อ้างว่ามีการพิพาทกันระหว่างไทย-กัมพูชาเพื่อไม่ให้ทหารใช้กำลังผลักดันกัมพูชาออกจากแผ่นดินไทย
นอกจากพื้นที่บริเวณโดยรอบปราสาทพระวิหารแล้ว ยังปรากฏว่าทหารและชุมชนกัมพูชาเข้ารุกรานและยึดครองแผ่นดินไทยตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชาหลายแห่ง เช่น บริเวณปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย บ้านหนองจาน ฯลฯ ทั้งยังมีท่าที่ที่จะรุกคืบเข้ามายึดครองแผ่นดินไทย โดยอาศัยแผนที่มาตราส่วน ๑:๒๐๐,๐๐๐ และอาศัยเวทีการเมืองระหว่างประเทศเป็นเครื่องมือรุกรานยึดครองแผ่นดินไทย

ด้วยเหตุดังกล่าวคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย โดยตัวแทนที่ปรากฏท้ายหนังสือนี้จึงขอยื่นหนังสือนี้ต่อท่านเพื่อขอให้ปฏิบัติหน้าที่ในการปกป้องดินแดนและอธิปไตยของชาติ ตลอดจนทวงคืนแผ่นดินไทยที่กัมพูชาได้ยึดครองและละเมิด MOU ๒๕๔๓ โดยทันทีและเร่งด่วน นับแต่วันที่ท่านได้รับหนังสือนี้ ทั้งนี้เพื่อเป็นการปฏิบัติตามอำนาจและหน้าที่ของท่านในฐานะผู้บังคับบัญชาเหล่าทัพที่มีหน้าที่โดยตรงในการปกป้องอธิปไตยและเอกราชของชาติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และเป็นภารกิจโดยตรงของกองทัพที่มิอาจปฏิเสธได้

การกล่าวอ้างถึงนโยบายของฝ่ายการเมืองนั้น มิอาจทำให้กองทัพหลุดพ้นจากความรับผิดในการปฏิบัติหน้าที่แต่อย่างใด การละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในกรณีดังกล่าวอาจะเป็นความผิดต่อกฎหมายประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๙, ๑๒๐,๑๕๗, และเป็นการไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ มาตรา ๗๗ อีกด้วย

จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาดำเนินการ
กำลังโหลดความคิดเห็น