“คุณหญิงกัลยา” นำทีมเปิดตัว 68 ผู้สมัคร ส.ส.หญิง ปชป.ส่งเสริมเพศแม่ได้โอกาสเทียมชาย ต่อต้านความรุนแรง “รัชดา” ชูนโยบายผู้หญิงมีอิสรภาพชีวิต ไม่เป็นเรยา ขณะที่ “ผุสดี” ไม่หนักใจ พท.ชู “ยิ่งลักษณ์” นายกฯ แต่หวั่นผู้นำไม่โปร่งใสขึ้นเวทีโลกยาก - “สาทิตย์” แนะกกต.กำหนดอะไรคือค่าใช้จ่ายโซเชียลเน็ตเวิร์ก วอนอย่าขัดขวางหาเสียงเหนือ-อีสาน
วันนี้ (22 พ.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ได้แถลงข่าวเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.หญิงพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งหมด 68 คน โดยคุณหญิงกัลยากล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้ส่งผู้สมัครผู้หญิงลงรับเลือกตั้งในทุกภาคส่วน ซึ่งพวกตนอาสาเข้ามาทำงานให้แก่ประชาชน โดยอาศัยประสบการณ์ ความรู้ความสามารถที่มี เพราะการเมืองไม่ได้แบ่งแยกเพศหญิง-เพศชาย อยู่ที่ใครมีความตั้งใจ มีความสามารถมากกว่า ส่วนนโยบายที่สำคัญ เช่น ส่งเสริมให้เพศหญิงได้รับโอกาสต่างๆ เทียบเท่าเพศชาย มีทัศนคติและความสามารถพึ่งพาตนเองได้ มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีสิทธิทุกอย่างเท่าเทียมกันทั้งหญิงและชาย และ การต่อต้านความรุนแรงกับเพศหญิง
ด้าน น.ส.รัชดา ธนาดิเรก ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นโยบายของพรรคประชาธิปัตย์จะเน้นให้ผู้หญิงมีอิสระภาพในชีวิต สามารถยืนด้วยขาของตนเอง ไม่ต้องพึ่งพาสามีตลอดชีวิต หรือผู้หญิงที่เป็นโสดก็สามารถวางแผนชีวิต ความเป็นอยู่ด้วยตนเอง ไม่ต้องมีแบบเรยาในละครทีวีอีกต่อไป
ขณะที่ นางผุสดี ตามไท ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยปลุกกระแสนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย โดยเสนอตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อเบอร์ 1 ของพรรคเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรีว่า เราไม่รู้สึกหนักใจต่อกระแสดังกล่าว แต่กังวลใจต่อกระแสโลก เพราะผู้นำประเทศจะต้องมีความซื่อสัตย์ โปร่งใส ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน หรือเป็นนอมินีใคร และไม่มีเสียงครหาในเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะในเวทีโลกที่มีกระแสต่อต้านในเรื่องดังกล่าวอย่างแข็งขัน ดังนั้น หากเราได้ผู้นำที่ไม่โปร่งใสก็เป็นการที่จะพาประเทศไทยก้าวขึ้นสู้เวทีโลกก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
ด้าน นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการใช้ช่องทางโซเชียลเน็ตเวิร์ก ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. เตือนว่าต้องนำมาร่วมในการเป็นค่าใช้จ่ายในการหาเสียงเลือกตั้งว่า พรรคไม่มีปัญหาเพราะได้ปฏิบัติตามกฎหมายเลือกตั้ง โดยช่องทางที่ใช้หาเสียง มีเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ เว็บไซต์ของพรรค และไลฟ์สตรีม แต่ขอให้ กกต. กำหนดให้ชัดเจนว่ามีอะไรที่ต้องเป็นค่าใช้จ่ายบ้าง เช่น ค่าแพกเกจชั่วโมงอินเทอร์เน็ต ส่วนกรณีที่มีความเป็นห่วงเรื่องของการใส่ร้ายป้ายสีคู่แข่งผ่านทางโซเชียลเน็ตเวิร์กนั้น พรรคได้กำชับสมาชิกทุกคนแล้ว แต่หากเป็นเฟซบุ๊ก หรือทวิตเตอร์ ส่วนตัวก็ถือเป็นความรับผิดชอบของส่วนบุคคล อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าพรรคไม่เคยใส่ร้ายป้ายสีผู้สมัคร มีแต่พรรคที่โดนขัดขวางโดยการแทรกแซงระบบอินเทอร์เน็ตทำให้เกิดปัญหา ทั้งนี้จะมีการหาเสียงควบคู่กันไปในพื้นที่ โดยจะมีการลงหาเสียงในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งไม่ต้องการให้มีการขัดขวางการลงหาเสียงเลือกตั้ง
