xs
xsm
sm
md
lg

มุกเสื้อแดงแป้ก-แกนนำหัวเสียจ่อม้วนเสื่อ !!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ผ่าประเด็นร้อน”

นาทีนี้ไม่ต้องมาพูดกันแล้วว่าจะชนะเมื่อไหร่ แต่ต้องมาจับเข่าถามกันแล้วว่าจะม้วนเสื่อวันไหน!!

เพราะไม่ว่าจะงัดมุกออกมาสารพัดเพื่อปลุกกระแสการชุมนุม กะเล่นแบบ “ม้วนเดียวจบ” แต่กลายเป็นว่าแนวโน้มที่จะจบเห่กลายเป็นม็อบกับแกนนำนั่นแหละ

หากรวบรัดตัดตอนพิจารณากันเฉพาะยุทธการ “สูบเลือด-เลือดสาด” ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล พรรคประชาธิปัตย์และบ้านพัก นายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ดำเนินการต่อเนื่องกันมา 2 วัน ตอนแรกก็คงคิดว่าว่าคง เท่ เก๋ ไม่มีอะไรมาเปรียบปานไม่ต่างจากการคิดค้นและประดิดประดอยวาทกรรมเรื่อง “ไพร่” ในท่ามกลางอภิมหาทุนสามานย์สถาปนาเศรษฐีแสนล้านอย่าง ทักษิณ ชินวัตร ให้กลายเป็น “หัวหน้าไพร่” หน้าตาเฉย

กล่าวเฉพาะกรณี “เทเลือด” รับรองว่าถ้าใครได้เห็นภาพข่าวทั้งในโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์รับรองว่าแทบทุกคนจะต้องมีความรู้สึกเหมือนกันหมด คือ สยดสยอง สะอิดสะเอียนไม่ค่อยอยากมอง นี่ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่สังคมส่วนใหญ่ที่รังเกียจ ยิ่งมีการทำพิธีไสยศาสตร์ “มนต์ดำ” เป็นเดรัจฉานวิชา ยิ่งทำให้คนที่มีความคิดมีปัญญาล้วนเบือนหน้า ชิ่งหนี เพราะการหันมาพึ่งวิธีการที่ไร้เป้าหมายแบบนี้ มันก็มีแต่ห่างจากเป้าหมายไปไกล

หลังจากผ่านพ้นมา 4-5 วันการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่ปักหลักอยู่ที่บริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศจำนวนคนเข้าร่วมที่แม้ว่า ทักษิณ ชินวัตร ที่เป็นเจ้าของทำทุกทางทั้งจ้าง ทั้งปลุกระดม หลอกให้มาเที่ยวกรุงเทพฯ ระดมกันเต็มที่แต่ได้แค่เฉียดแสนหรือเกือบแสนเท่านั้น ไม่ได้ตามที่เป้าจริงที่คิดฝันไว้ในใจ คือ 2-3 แสนขึ้น ส่วนที่บอกว่าหลักล้านคนนั้นเป็นเรื่องคุยโม้สร้างกระแสตั้งแต่แรก

การชุมนุมมีข้อจำกัดมากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของความชอบธรรม เนื่องจากชาวบ้านส่วนใหญ่เห็นว่าการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่กำลังดำเนินการอยู่นั้นมีเป้าหมายเฉพาะบุคคลคือ ทักษิณ เท่านั้น ไม่มีเรื่องของส่วนรวมเข้ามาเกี่ยวข้องแม้แต่นิดเดียว เป็นเรื่องของคนโกงหนีคุก แต่บังเอิญว่านักโทษหนีคุกคนนี้โกงจนร่ำรวยสามารถโยนเศษเงินจ้างม็อบ สร้างเครือข่ายสร้างความปั่นป่วนให้กับบ้านเมืองได้เป็นเวลานาน

แต่จากคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองทำให้สังคมได้ตาสว่าง รู้ว่าเขาชั่ว-เลวอย่างไร คนที่เคยสนับสนุนก็เริ่มถอยฉากออกมาเรื่อยๆ ขณะเดียวกัน อีกด้านก็ต้องยอมรับว่า ฝ่ายรัฐบาลโดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ไม่มีข้อกังขาในเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน อีกทั้งสามารถตั้งรับม็อบได้อย่างยืดหยุ่น

ประกอบกับสังคมกำลังตื่นตัวต่อต้านความรุนแรง และยิ่งได้เปรียบเทียบแกนนำม็อบแดงและคำพูดปลุกระดมของ ทักษิณ กับคำชี้แจงของ นายกฯ ทำให้สังเชื่อว่าความรุนแรงที่ว่านั้นหากเกิดขึ้นน่าจะมาจากฝ่ายม็อบมากกว่าที่จะเกิดจากจากฝ่ายรัฐบาล เพราะมีการชี้ให้เห็นแล้วว่าผลที่จะตามมามีแต่ผลเสีย

นี่ยังไม่นับเรื่องสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับชาวกรุงเทพฯ ที่มักจะไม่อดทนกับปัญหารถติดจากการชุมนุมทางการเมืองที่เกิดขึ้นเป็นประจำอยู่แล้ว และเมื่อการชุมนุมที่ขาดความชอบธรรมก็ยิ่งไปกันใหญ่

จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่แม้แต่สื่อต่างประเทศล้วนรายงานตรงกันว่ามวลชนที่เข้าร่วมชุมนุมจากเดิมที่ “หลุดเป้า” อยู่แล้วยิ่งเวลาผ่านไปไม่กี่วันก็เหลือแค่หลักหมื่นเท่านั้น และเชื่อว่าอีกไม่นานก็ต้องม้วนเสื่อกลับบ้าน เพราะไม่ว่าใครก็ตามก็ย่อมทนไม่ไหวเมื่อพิจารณาแล้วยังมองไม่เห็นทางว่าจะได้ตามข้อเรียกร้อง ถึงแม้ว่าแกนนำจะพยายามหาประเด็นใหม่มาหลอกต้มอยู่เรื่อยๆ แต่คงมีน้อยคนที่จะหลงเชื่อ

วกกลับมาเรื่อง สูบเลือด-เทเลือดอีกที หากพิจารณาจากอารมณ์ของคนไทยทั่วไปแล้วรับรองว่ามีแต่คนเบือนหน้าหนี ไม่มีใครเอาด้วย โดยเฉพาะการบุกไปเทเลือดที่พรรคประชาธิปัตย์และที่บ้านนายกรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ (17 มี.ค.) นอกจากมีภาพติดลบแล้ว ตรงกันข้ามกลับยิ่งทำให้สังคมกลับมาให้ความเห็นใจเพิ่มมากขึ้นไปอีก เนื่องจากเห็นว่าเป็นการกระทำที่เลยเถิด ไร้แก่นสาร และไม่มีเป้าหมายอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน

ประกอบกับบรรดาแกนนำมีความแตกแยกกันเละ ที่เห็นได้ชัดก็คือการเรียงแถวขึ้นเวทีของกลุ่ม “สามเกลอ” ที่นำโดย วีระ มุสิกพงศ์ ได้ประกาศตัดขาดจากกันกับกลุ่ม “แดงสยาม” ที่มีหัวขบวนคือ สุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ ที่อ้างว่าผนึกแน่นอยู่กับ จักรภพ เพ็ญแข และ “เสธ.แดง” พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หลังจากที่ความขัดแย้งในเรื่องช่วงชิงการนำเพิ่มอุณหภูมิสูงขึ้นถึงขีดสุด ในที่สุดก็ต้องแตกหัก

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าภาพภายนอกอาจจะแสดงให้เห็นว่าบรรดาแกนนำแดงแตกกันเละ แต่อีกด้านหนึ่งยังไม่อาจไว้วางใจได้ว่าเป็นดังที่เห็นหรือไม่ก็ตาม แต่ก็ทำให้ภายในกลุ่มผู้ชุมนุมด้วยกันเองเกิดความสับสน ขวัญเสียไม่น้อย เพราะเท่าที่เห็นยังมองไม่เห็นชัยชนะในเวลาอันใกล้

ขณะเดียวกัน ภาพที่เกิดขึ้นอาจเป็นแผนอำพรางเพื่อชิ่งหนีเอาตัวรอดไปก่อนและหากสังเกตให้ดีคนกลุ่มสามเกลอต่างออกมาเน้นย้ำในเรื่องของสันติวิธีไม่นิยมความรุนแรงเป็นอันขาด ขณะเดียวกันต้องไม่ลืมว่าภาพของ เสธ.แดง-สุรชัย เป็นสัญลักษณ์ของฮาร์ดคอร์ ทำให้กลายเป็นว่าหากเกิดอะไรขึ้นข้าไม่เกี่ยวอะไรประมาณนั้นใช่หรือไม่ เพราะมีกระแสข่าวอีกด้านหนึ่งกลับพบว่ามีการเคลื่อนไหวในลักษณะของ “กองกำลัง” อย่างผิดสังเกต ทำให้เห็นภาพที่น่ากลัวที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ

แต่ไม่ว่าความขัดแย้งแบบไม่เผาผีระหว่างกลุ่ม เสธ.แดง-สุรชัย กับกลุ่มสามเกลอ ความจริงแท้จริงจะเป็นแบบไหนก็ตาม แต่รับรองว่าในภาพรวมมีแต่ผลลบไม่มีบวกอย่างแน่นอน เพราะความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นรับรองว่าจะต้องสร้างความสับสน ขวัญเสียให้เกิดขึ้นกับคนเสื้อแดงให้หวั่นไหวอย่างฮวบฮาบแน่นอน

ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เวลานี้แทบทุกฝ่ายจึงสรุปตรงกันว่าเสื้อแดงกำลังจะจบลงแล้ว หรือกำลังจะม้วนเสื่อกลับบ้านแล้ว และอีกไม่นาน ทักษิณ ก็อาจจะเป็นบ้าก็เป็นได้!!



กำลังโหลดความคิดเห็น