วานนี้(11 มี.ค.) กรรมการบริหารพรรคการเมืองใหม่ นำโดย นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรค นายสำราญ รอดเพชร โฆษกพรรค นายประพันธ์ คูณมี ผู้อำนวยการพรรค พล.อ.กิตติศักดิ์ รัฐประเสริฐ กรรมการบริหารพรรค พล.ร.ท.ประทีป ชื่นอารมณ์ กรรมการบริหารพรรค และสมาชิกพรรค กว่า 50 คน เดินเท้าร่วมแจ้ง “คู่มือต่อต้านการจลาจล” กว่า 200,000 แผ่น ทั่วกรุงเทพมหานครฯและปริมณฑล โดยเริ่มแจกคู่มือดังกล่าวบริเวณย่านชุมชนวันโสมนัส ชุมชนนางเลิ้ง ชุมชนเพชรบุรี ซอย 7 ชุมชนบ้านครัว และย่านเยาวราช
นายประพันธ์ กล่าวว่า พรรคฯและพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เห็นว่า ประชาชนมีความจำเป็นที่จะต้องปกป้องชุมชนและประเทศชาติเพื่อให้เกิดความสงบ และในฐานะของพรรคการเมืองที่อาสาเข้ามารับใช้ประเทศชาติ ก็มีหน้าที่ในการแสดงออกในการร่วมพิทักษ์สถาบันพระมหากษัตริย์ และสถาบันอันเป็นที่รักของคนไทย ทั้งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ โดยเฉพาะสิทธิความชอบธรรมการต่อต้านความรุนแรงอย่างสันติวิธี
“พรรคฯจะร่วมกับคนทุกชุมชนในกทม. ต่อต้านการจลาจลในทุกรูปแบบโดยจะพบปะกับประชาชนในการแสดงพลัง ระหว่างสมาชิกพรรคกับพันธมิตรฯ จะมีการจัดตั้งวอร์รูมเพื่อให้ความคิดเห็น และชี้แนะกับประชาชนในการต่อต้านการจลาจล ผ่านการแจกเอกสารและส่งข้อความไปยังอีเมลล์ของสมาชิกพรรค”
นายสุริยะใส กล่าวว่า พรรคการเมืองใหม่ ประเมินแล้วว่าวันที่ 14 มี.ค.นี้ ทางนปช.จะตั้งเวทีที่เชิงสะพานผ่านฟ้า ซึ่งห่างจากพรรคเพียง 500 เมตร ดังนั้นพรรคได้ทำเรื่องไปยังสน.นางเลิ้ง เจ้าของพื้นที่ กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 และกอ.รมน. ภาค 1 เพื่อจัดกำลังมาช่วยรักษาความปลอดภัย ร่วมกับเจ้าหน้าที่ของพรรค รวมทั้งพรรคยังได้ติดตั้งกล้อง CCTV เพื่อรักษาความปลอดภัยแล้วด้วย ซึ่งพรรคจะปิดทำการในวันดังกล่าว
“พรรคฯจะตั้งศูนย์ปฏิบิตการ(วอร์รูม)เพื่อสื้อสารกับสังคม เพื่อรายงานข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น จากการประสานงานกับทุกชุมชนในกทม.และปริมณฑล ที่เปเนกลไกของทั้งพรรคและพันธมิตรฯ รวมทั้งออกประกาศของ 5 แกนนำพันธมิตรฯหากพบว่า มีสถานการณ์ที่การรักษาความปลอดภัยของภาครัฐไม่สามารถควบคุมภัยคุกคามได้ ขณะเดียวกันยอมรับว่า หากจำเป็นที่จะต้องเคลื่อนไหวมวลชนของพันธมิตรฯทางศูนย์ก็จะประสานงานแจ้งไปยังชุมนุมต่าง ๆ”
นายสุริยะใส ยังเรียกร้องให้ประชาชนทั้งพันธมิตรฯ สมาชิกพรรค และประชาชนทั่วไปร่วมกันใส่เสื้อสีชมพู เพื่อเป็นสัญลักษณ์ในการแสดงออกในการต่อต้านภัยที่เกิดจากการจลาจล
ด้านพล.ร.อ.ประทีป กล่าวว่า ขอให้ประชาชนที่รักษาชุมชนใช้นกหวีดเป็นสัญลักษณ์เพื่อเป่าแจ้งเตือนประชาชนในชุมชนตัวเอง เมื่อพบว่าจะมีการจลาจลเกิดขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คู่มือการต่อต้านการจลาจลของพรรคการเมืองใหม่ มีทั้งหมด 9 ข้อ โดย มีข้อแนะนำในการปฏิบัติเพื่อต่อต้านการเกิดจลาจล ประกอบด้วย 1.ขอให้ตั้งอยู่ในความสงบ ไม่ประมาท ไม่ตื่นตระหนก ตื่นรู้ ตื่นตัว ยึดมั่นสันติวิธี และหลีกเลี่ยงไม่เข้าไปในบริเวณที่มีการชุมนุม 2.ปฏิบัติหน้าที่ของปวงชนชาวไทยตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรา 70 บุคคลมีหน้าที่พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และหารปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
3.ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวของสถานการณ์โดยใกล้ชิด และสื่อสารกันภายในชุมชน โดยใช้เวทีชุมชนหรือเวทีประชาคมร่วมกันประเมิน วิเคราะห์ และกำหนดแผนการป้องกันตนเอง และต่อต้านการจลาจลโดยกำหนดภาระหน้าที่ของแต่ละคน แต่ละฝ่ายให้ชัดเจน 4.เตรียมอุปกรณ์ในการป้องกันภัยต่าง ๆอาทิ ถังดับเพลิง เทียน ไฟฉาย ยาและเวชภัณฑ์สำหรับปฐมพยาบาลเบื้องต้น 5.จัดเดินเวรยาม เฝ้าระวังทั้งในเวลากลางวัน กลางคืน และพกพานกหวีดติดตัวเพื่อให้สัญญาณ 6.ซักซ้อมสัญญาณเตือนภัย-ระดับการเตือนภัยผ่านทางเครื่องมือการสื่อสารในชุมชน เช่น หอกระจายข่าว หรือเสียงตามสายในชุมชน 7.ปกป้องการกระทำที่อาจเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน รวมทั้งสมบัติสาธารณะ 8.ประสานความร่วมมือกับชุมชนต่าง ๆเพื่อถักทอเป็นเครือข่าย การเฝ้าระวัง การเตือนภัย รวมทั้งการหนุนกำลังเข้าไปช่วยเหลือเมื่อเกิดวิกฤติ และ9.ประสานกับเจ้าหน้าที่รัฐ เช่นเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารเพื่อเข้ามาช่วยเหลือป้องกัน
///////////
นายประพันธ์ กล่าวว่า พรรคฯและพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เห็นว่า ประชาชนมีความจำเป็นที่จะต้องปกป้องชุมชนและประเทศชาติเพื่อให้เกิดความสงบ และในฐานะของพรรคการเมืองที่อาสาเข้ามารับใช้ประเทศชาติ ก็มีหน้าที่ในการแสดงออกในการร่วมพิทักษ์สถาบันพระมหากษัตริย์ และสถาบันอันเป็นที่รักของคนไทย ทั้งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ โดยเฉพาะสิทธิความชอบธรรมการต่อต้านความรุนแรงอย่างสันติวิธี
“พรรคฯจะร่วมกับคนทุกชุมชนในกทม. ต่อต้านการจลาจลในทุกรูปแบบโดยจะพบปะกับประชาชนในการแสดงพลัง ระหว่างสมาชิกพรรคกับพันธมิตรฯ จะมีการจัดตั้งวอร์รูมเพื่อให้ความคิดเห็น และชี้แนะกับประชาชนในการต่อต้านการจลาจล ผ่านการแจกเอกสารและส่งข้อความไปยังอีเมลล์ของสมาชิกพรรค”
นายสุริยะใส กล่าวว่า พรรคการเมืองใหม่ ประเมินแล้วว่าวันที่ 14 มี.ค.นี้ ทางนปช.จะตั้งเวทีที่เชิงสะพานผ่านฟ้า ซึ่งห่างจากพรรคเพียง 500 เมตร ดังนั้นพรรคได้ทำเรื่องไปยังสน.นางเลิ้ง เจ้าของพื้นที่ กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 และกอ.รมน. ภาค 1 เพื่อจัดกำลังมาช่วยรักษาความปลอดภัย ร่วมกับเจ้าหน้าที่ของพรรค รวมทั้งพรรคยังได้ติดตั้งกล้อง CCTV เพื่อรักษาความปลอดภัยแล้วด้วย ซึ่งพรรคจะปิดทำการในวันดังกล่าว
“พรรคฯจะตั้งศูนย์ปฏิบิตการ(วอร์รูม)เพื่อสื้อสารกับสังคม เพื่อรายงานข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น จากการประสานงานกับทุกชุมชนในกทม.และปริมณฑล ที่เปเนกลไกของทั้งพรรคและพันธมิตรฯ รวมทั้งออกประกาศของ 5 แกนนำพันธมิตรฯหากพบว่า มีสถานการณ์ที่การรักษาความปลอดภัยของภาครัฐไม่สามารถควบคุมภัยคุกคามได้ ขณะเดียวกันยอมรับว่า หากจำเป็นที่จะต้องเคลื่อนไหวมวลชนของพันธมิตรฯทางศูนย์ก็จะประสานงานแจ้งไปยังชุมนุมต่าง ๆ”
นายสุริยะใส ยังเรียกร้องให้ประชาชนทั้งพันธมิตรฯ สมาชิกพรรค และประชาชนทั่วไปร่วมกันใส่เสื้อสีชมพู เพื่อเป็นสัญลักษณ์ในการแสดงออกในการต่อต้านภัยที่เกิดจากการจลาจล
ด้านพล.ร.อ.ประทีป กล่าวว่า ขอให้ประชาชนที่รักษาชุมชนใช้นกหวีดเป็นสัญลักษณ์เพื่อเป่าแจ้งเตือนประชาชนในชุมชนตัวเอง เมื่อพบว่าจะมีการจลาจลเกิดขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คู่มือการต่อต้านการจลาจลของพรรคการเมืองใหม่ มีทั้งหมด 9 ข้อ โดย มีข้อแนะนำในการปฏิบัติเพื่อต่อต้านการเกิดจลาจล ประกอบด้วย 1.ขอให้ตั้งอยู่ในความสงบ ไม่ประมาท ไม่ตื่นตระหนก ตื่นรู้ ตื่นตัว ยึดมั่นสันติวิธี และหลีกเลี่ยงไม่เข้าไปในบริเวณที่มีการชุมนุม 2.ปฏิบัติหน้าที่ของปวงชนชาวไทยตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรา 70 บุคคลมีหน้าที่พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และหารปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
3.ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวของสถานการณ์โดยใกล้ชิด และสื่อสารกันภายในชุมชน โดยใช้เวทีชุมชนหรือเวทีประชาคมร่วมกันประเมิน วิเคราะห์ และกำหนดแผนการป้องกันตนเอง และต่อต้านการจลาจลโดยกำหนดภาระหน้าที่ของแต่ละคน แต่ละฝ่ายให้ชัดเจน 4.เตรียมอุปกรณ์ในการป้องกันภัยต่าง ๆอาทิ ถังดับเพลิง เทียน ไฟฉาย ยาและเวชภัณฑ์สำหรับปฐมพยาบาลเบื้องต้น 5.จัดเดินเวรยาม เฝ้าระวังทั้งในเวลากลางวัน กลางคืน และพกพานกหวีดติดตัวเพื่อให้สัญญาณ 6.ซักซ้อมสัญญาณเตือนภัย-ระดับการเตือนภัยผ่านทางเครื่องมือการสื่อสารในชุมชน เช่น หอกระจายข่าว หรือเสียงตามสายในชุมชน 7.ปกป้องการกระทำที่อาจเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน รวมทั้งสมบัติสาธารณะ 8.ประสานความร่วมมือกับชุมชนต่าง ๆเพื่อถักทอเป็นเครือข่าย การเฝ้าระวัง การเตือนภัย รวมทั้งการหนุนกำลังเข้าไปช่วยเหลือเมื่อเกิดวิกฤติ และ9.ประสานกับเจ้าหน้าที่รัฐ เช่นเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารเพื่อเข้ามาช่วยเหลือป้องกัน
///////////