มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี เตรียมทูลเกล้าฯ ถวายปริญญานิติศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์แด่ “พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา” และขอเชิญเฝ้ารับเสด็จฯ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ในวโรกาสเสด็จเป็นองค์ประธาน งานพระราชทานปริญญาบัตร มหาวิทยาลัยราชภัฏเขตภาคใต้ ประจำปี 2554 ระหว่างวันที่ 10-12 เมษายน 2554 ณ หอประชุมวชิราลงกรณ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี
พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงเป็นพระธิดาพระองค์แรกในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ทรงสำเร็จการศึกษานิติศาสตรบัณฑิต เกียรตินิยมอันดับสอง จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รัฐศาสตรบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เนติบัณฑิตไทยจากเนติบัณฑิตยสภา ระดับปริญญาโทและปริญญาเอกทางด้านกฎหมายจากมหาวิทยาลัยคอร์เนล สหรัฐอเมริกา
หลังจากทรงสำเร็จการศึกษา ทรงปฏิบัติพระภารกิจในฐานะเลขานุการเอกประจำคณะทูตถาวรแห่งประเทศไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ตลอดระยะเวลาที่ทรงประจำการอยู่ทรงปฏิบัติพระภารกิจนักการทูตด้วยความเป็นผู้นำ และทรงอุทิศทุ่มเทพระวรกายด้วยพระปรีชาสามารถ พระปฏิภาณไหวพริบ พระวิริยะอุตสาหะ พระอัธยาศัยและพระจริยวัตรอันงามสง่า เป็นที่ประจักษ์แก่ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ทรงเพิ่มเกียรติภูมิให้แก่ประเทศไทย
เมื่อเสด็จฯ กลับประเทศไทย ทรงปฏิบัติราชการในตำแหน่งพนักงานอัยการ ทรงประกอบพระกรณียกิจด้วยพระวิริยะอุตสาหะในท้องถิ่นห่างไกล โดยมีพระประสงค์เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้แก่ประชาชนทุกระดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทรงมีพระเมตตาต่อผู้ต้องขังหญิงและเด็กทารกที่มารดาคลอดในเรือนจำซึ่งถือเป็นผู้บริสุทธิ์ จึงทรงมีพระดำริโครงการกำลังใจเพื่อช่วยเหลือผู้ต้องขังหญิงและเด็กติดผู้ต้องขังตามมาตรฐานองค์การสหประชาชาติ
พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงรับเป็น “ทูตสันถวไมตรี” (Goodwill Ambassador) ให้แก่กองทุนการพัฒนาเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติ (ยูนิเฟม) ในโครงการ Say NO to Violence Against Women ประเทศไทย ทรงเชิญชวนคนไทยลงชื่อสนับสนุนการยุติความรุนแรงให้ครบ 500,000 ชื่อ พร้อมลงพระนามในโปสการ์ด เพื่อเป็นหนึ่งเสียงที่ร่วมต่อต้านความรุนแรงต่อผู้หญิง ทรงเห็นความสำคัญของปัญหาความรุนแรงต่อผู้หญิงในประเทศไทยและทั่วโลกที่กำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน
พระกรณียกิจที่ทรงปฏิบัติไม่เพียงเป็นที่ประจักษ์ของพสกนิกรชาวไทย แต่ยังเป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาประชาคมโลกอีกด้วย องค์การสหประชาชาติว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรม (UNODC) จึงได้ขอประทานทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลเชิดชูเกียรติยศสูงสุด Medal of Recognition แด่พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ด้วยสำนึกในพระกรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อการพัฒนาด้านกระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านสิทธิของผู้ต้องขังหญิงภายใต้โครงการกำลังใจ รวมถึงการเป็นทูตสันถวไมตรีในโครงการต่อต้านความรุนแรงต่อผู้หญิงของกองทุนการพัฒนาสตรีแห่งสหประชาชาติ
ด้วยพระวิริยะ พระปรีชาสามารถและพระอัจฉริยภาพในด้านกฎหมาย กระบวนการยุติธรรม การทูต การอาชีพและสังคมสงเคราะห์ ซึ่งถือเป็นคุณูปการอย่างยิ่งต่อพสกนิกรชาวไทย สภามหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานีจึงมีมติเป็นเอกฉันท์ ขอประทานทูลเกล้าฯ ถวายปริญญานิติศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ แด่พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เพื่อเฉลิมพระเกียรติคุณให้ปรากฏและเป็นสิริมงคลอันสูงสุดแก่มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานีสืบไป
Related Link
SRU
พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงเป็นพระธิดาพระองค์แรกในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ทรงสำเร็จการศึกษานิติศาสตรบัณฑิต เกียรตินิยมอันดับสอง จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รัฐศาสตรบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เนติบัณฑิตไทยจากเนติบัณฑิตยสภา ระดับปริญญาโทและปริญญาเอกทางด้านกฎหมายจากมหาวิทยาลัยคอร์เนล สหรัฐอเมริกา
หลังจากทรงสำเร็จการศึกษา ทรงปฏิบัติพระภารกิจในฐานะเลขานุการเอกประจำคณะทูตถาวรแห่งประเทศไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ตลอดระยะเวลาที่ทรงประจำการอยู่ทรงปฏิบัติพระภารกิจนักการทูตด้วยความเป็นผู้นำ และทรงอุทิศทุ่มเทพระวรกายด้วยพระปรีชาสามารถ พระปฏิภาณไหวพริบ พระวิริยะอุตสาหะ พระอัธยาศัยและพระจริยวัตรอันงามสง่า เป็นที่ประจักษ์แก่ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ทรงเพิ่มเกียรติภูมิให้แก่ประเทศไทย
เมื่อเสด็จฯ กลับประเทศไทย ทรงปฏิบัติราชการในตำแหน่งพนักงานอัยการ ทรงประกอบพระกรณียกิจด้วยพระวิริยะอุตสาหะในท้องถิ่นห่างไกล โดยมีพระประสงค์เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้แก่ประชาชนทุกระดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทรงมีพระเมตตาต่อผู้ต้องขังหญิงและเด็กทารกที่มารดาคลอดในเรือนจำซึ่งถือเป็นผู้บริสุทธิ์ จึงทรงมีพระดำริโครงการกำลังใจเพื่อช่วยเหลือผู้ต้องขังหญิงและเด็กติดผู้ต้องขังตามมาตรฐานองค์การสหประชาชาติ
พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงรับเป็น “ทูตสันถวไมตรี” (Goodwill Ambassador) ให้แก่กองทุนการพัฒนาเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติ (ยูนิเฟม) ในโครงการ Say NO to Violence Against Women ประเทศไทย ทรงเชิญชวนคนไทยลงชื่อสนับสนุนการยุติความรุนแรงให้ครบ 500,000 ชื่อ พร้อมลงพระนามในโปสการ์ด เพื่อเป็นหนึ่งเสียงที่ร่วมต่อต้านความรุนแรงต่อผู้หญิง ทรงเห็นความสำคัญของปัญหาความรุนแรงต่อผู้หญิงในประเทศไทยและทั่วโลกที่กำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน
พระกรณียกิจที่ทรงปฏิบัติไม่เพียงเป็นที่ประจักษ์ของพสกนิกรชาวไทย แต่ยังเป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาประชาคมโลกอีกด้วย องค์การสหประชาชาติว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรม (UNODC) จึงได้ขอประทานทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลเชิดชูเกียรติยศสูงสุด Medal of Recognition แด่พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ด้วยสำนึกในพระกรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อการพัฒนาด้านกระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านสิทธิของผู้ต้องขังหญิงภายใต้โครงการกำลังใจ รวมถึงการเป็นทูตสันถวไมตรีในโครงการต่อต้านความรุนแรงต่อผู้หญิงของกองทุนการพัฒนาสตรีแห่งสหประชาชาติ
ด้วยพระวิริยะ พระปรีชาสามารถและพระอัจฉริยภาพในด้านกฎหมาย กระบวนการยุติธรรม การทูต การอาชีพและสังคมสงเคราะห์ ซึ่งถือเป็นคุณูปการอย่างยิ่งต่อพสกนิกรชาวไทย สภามหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานีจึงมีมติเป็นเอกฉันท์ ขอประทานทูลเกล้าฯ ถวายปริญญานิติศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ แด่พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เพื่อเฉลิมพระเกียรติคุณให้ปรากฏและเป็นสิริมงคลอันสูงสุดแก่มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานีสืบไป
Related Link
SRU