xs
xsm
sm
md
lg

อบต.พลูตาหลวง ร่วมรณรงค์และพิทักษ์ความรุนแรงต่อหญิง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา - นายกองค์การบริหารส่วนตำบลพลูตาหลวง ร่วมหน่วยงานภาครัฐ เอกชน กลุ่มพลังมวลชน องค์กรพัฒนาสตรี โรงพยาบาลสัตหีบ กม.10 ชมรมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้สูงอายุ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน สนองพระราชดำริ “โครงการ SAY NO TO VIOLENCE AGAINST WOMEN” ประเทศไทยให้ความรู้เรื่องกฎหมาย และเดินรณรงค์ป้องกัน ยุติความรุนแรงต่อผู้หญิง

วันนี้ (10 มี.ค.) นายทวีป แต่งแก้ว นายกองค์การบริหารส่วนตำบลพลูตาหลวง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ประธานในพิธีเปิดโครงการรณรงค์ป้องกันยุติความรุนแรงต่อผู้หญิง โดยมี นายเรืองฤทธิ์ มณีพันธุ์ ปลัดองค์การบริหาร กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์ในการดำเนินงานโครงการยุติความรุนแรงต่อผู้หญิง

โดยได้เชิญ นายปกรณ์ สุคนธชาติ อัยการจังหวัด ประจำสำนักอัยการสูงสุด นางสาวชิดชนก กันสิทธิ์ ผู้อำนวยการ ศูนย์พัฒนาสังคม หน่วยที่ 8 จังหวัดชลบุรี ร้อยตำรวจเอก หญิง กิ่งแก้ว เจริญพิทักษ์ประชา ดาบตำรวจ สนทยา แม่นปืน เป็นวิทยากรพิเศษ ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องกฎหมายใกล้ตัวที่เกี่ยวข้อง เรื่องกฎหมายเกี่ยวกับพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรง ในครอบครัว การคุ้มครองเด็ก และสตรี

นายทวีป แต่งแก้ว นายกองค์การบริหารส่วนตำบลพลูตาหลวง กล่าวว่า การสนองแนวพระราชดำริและเป็นการแสดงความจงรักภักดี อีกทั้งน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ซึ่งทรงเล็งเห็นปัญหาของสังคม ความเดือดร้อนของผู้หญิงเพศอ่อนแอที่ถูกรังแก ถูกกระทำความรุนแรง ทั้งร่างกาย วาจา และจิตใจ จึงทรงมีพระเมตตารับเป็นทูตสันถวไมตรีให้กับยูนิเฟรม ในโครงการ SAY NO TO VIOLENCE AGAINST WOMEN ประเทศไทย และโครงการยุติความรุนแรงต่อผู้หญิง

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างและขยายเครือข่ายในการร่วมกันรณรงค์ ต่อต้านเพื่อยุติความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับผู้หญิง มีกลุ่มเป้าหมายที่ร่วมโครงการจำนวนมาก

โดยเฉพาะคณะผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบล ข้าราชการ สมาชิกสภา องค์กรพัฒนาสตรี ชมรมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ชมรมผู้สูงอายุ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสัตหีบ กม.10 นักเรียนโรงเรียนพลูตาหลวงวิทยา

จากสถานการณ์ปัจจุบันที่ผู้หญิงและเด็กต้องถูกกระทำจากความรุนแรงรูปแบบต่างๆ ทั้งความรุนแรงที่เกิดขึ้นในครอบครัว สามีทุบตีภรรยา และมีการละเมิดทางเพศต่อเด็ก และความรุนแรงที่เกิดในชุมชน โดยเฉพาะชุมชนแออัด ได้แก่ การข่มขืน ลวนลามทางเพศ ต่อกลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 11-18 ปี เป็นกลุ่มที่ถูกกระทำความรุนแรงมากที่สุด ร้อยละ 40 ของผู้หญิงอายุ 15-49 ปี ยอมรับว่าเคยถูกทำร้ายจากสามี หรือคนรัก ปัญหาดังกล่าวนี้จะไม่สามารถยุติได้ ถ้าไม่ได้รับความร่วมมือจากประชาชนทุกหมู่เหล่าที่ต้องช่วยกันสอดส่องดูแลสตรีและเด็ก ที่ล่อแหลมต่อการถูกทำร้าย

โดยเฉพาะประชาชนระดับล่างที่ยังต้องพลัดถิ่น ตระเวนเป็นลูกจ้างหาเช้ากินค่ำ ดื่มสุราเป็นอาจิณ จนขาดสติ ความยั้งคิด จึงสามารถกระทำความรุนแรงต่อภรรยา และบุตรได้ การที่องค์กรต่างๆ กลุ่มพลังประชาชนออกมาร่วมกันรณรงค์ นอกจะเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา แล้วยังสามารถกระตุ้นให้สังคมได้หันมาดูแล ช่วยเหลือกันต่อไป

กำลังโหลดความคิดเห็น