xs
xsm
sm
md
lg

"ประพันธ์" ซัด "มาร์ค" แหล! กล่าวหาการชุมนุมทำบ้านเมืองวุ่น ทั้งที่ตัวเองรู้เห็นตั้ง "เสื้อน้ำเงิน - หลากสี"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"ประพันธ์" ชี้เลือกตั้งคราวนี้เป็นการชิงอำนาจระหว่างระบอบ "อภิสิทธิ์ - ทักษิณ" ที่จะทำทุกวิถีทางให้ชนะเนื่องจากเดิมพันสูง เชื่อจะรุนแรงที่สุดด้วย ซัด "มาร์ค" แหล!อ้างบ้านเมืองวุ่นวายเพราะการชุมนุมเพื่อใส่ร้ายพันธมิตรฯ แต่ที่จริงแล้วตัวเองสมรู้ร่วมคิดตั้ง "เสื้อน้ำเงิน - หลากสี" แถมดึงทหารมาเป็นเครื่องมือค้ำบัลลังก์ จนต้องบาดเจ็บล้มตายจากการปราบ "เสื้อแดง"


 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง "รวมพลัง ปกป้องแผ่นดิน" ปราศรัยโดย นายประพันธ์ คูณมี"  

วันนี้ (14 พ.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 22.00น. นายประพันธ์ คูณมี โฆษกคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย กล่าวปราศรัยบนเวที "รวมพลังปกป้องแผ่นดิน" ถึงกรณีที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พูดในงานสัมมนา ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์วันนี้

หนึ่ง นายอภิสิทธิ์ ชูว่าการเมือง การเลือกตั้งคราวนี้ เป็นการเลือกระหว่างนายอภิสิทธิ์ กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เลือกว่าจะให้ใครมาเป็นนายกฯ นี่คือเล่ห์เหลี่ยม เพราะหากเทียบกันในทางการเมืองนายอภิสิทธิ์มีภาษีเหนือกว่า

นายประพันธ์ กล่าวว่า แต่แท้ที่จริงแล้วการเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นการสู้กันระหว่าง 2 ขั้วการเมืองคือ ขั้วนายอภิสิทธิ์ ภายใต้อำนาจของนายสุเทพ นายเนวิน นายบรรหาร นายสุวัจน์ พล.อ.ประวิตร  เพราะวันนี้พรรคประชาธิปัตย์กับ 5 พรรคร่วม ผูกมัดผลประโยชน์กันไว้แล้ว โดยนายสุเทพไปตกลงกันไว้ว่าจะไม่ขัดขวางโครงการที่ 5 พรรคร่วมเสนอ พอจะยุบสภาจึงเกิดการอนุมัติ 200 โครงการ มูลค่าหลายแสนล้านบาท วันนี้ระบอบอภิสิทธิ์ยิ่งใหญ่ขึ้นมาด้วยการปล่อยให้พรรคร่วมโกงเพื่อเอาใจ และดึงทหารมาเป็นพวก ไม่แตกต่างจากระบอบทักษิณเลย เพราะในสมัยทักษิณ กลไกที่ใช้ในการเลือกตั้งก็มีการดึงตำรวจ ข้าราชการ มาช่วย กลไกพวกนี้นายทักษิณใช้มาหมดแล้ว และขณะนี้กลไกพวกนี้อยู่กับนายอภิสิทธิ์หมดแล้ว กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงศึกษาธิการ นี่ตัวดี เลยในการเป็นหัวคะแนนและช่วยโกงเลือกตั้ง

แต่โอกาสที่ประชาธิปัตย์จะชนะเพื่อไทยด้วยคะแนนถล่มทลายไม่มีทางจะเป็นไปได้ เพราะบริหารประเทศล้มเหลวหมดแล้วจะเอานะแนนนิยมจากอะไร ที่สำคัญยังมาเจอกระแสโหวตโนเข้าไปอีก ดังนั้นการเลือกตั้งคราวนี้กลุ่มรัฐบาล มียุทธศาสตร์อย่างเดียวคือต้องทำให้ประชาธิปัตย์ กับ 5 พรรคร่วม ได้รับเลือกตั้งรวมกันแล้วมากกว่าเพื่อไทย นายอภิสิทธิ์ต้องรักษาอำนาจเอาไว้ด้วยการทำทุกวิถีทาง เพราะถ้าไม่ได้เป็นรัฐบาลต่อ ถูกแก้แค้นเอาคืนอย่างหนักแน่ เพราะไปปล้นอำนาจเขามา

นายประพันธ์ กล่าวอกีว่า ส่วนปีกฝ่ายนายทักษิณ ใช้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นเดิมพัน เพราะนี่เป็นโอกาสสุดท้าย ทักษิณต้องทุ่มสุดกำลังในการเลือกตั้งคราวนี้เพื่อให้ได้ 251 เสียงขึ้นไป มีเดิมพันสูง เขาเคยสู้มาแล้วในเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมือง 2 ครั้ง เพื่อล้มอำนาจจากระบอบอภิสิทธิ์ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ วันนี้การต่อสู้จึงต้องทุ่มเพื่อชนะให้ได้ เพราะถ้าไม่ได้ก็ไม่มีโอกาสทวงทรัพย์สิน ที่ถูกยึดไว้ และไม่สามารถกลับประเทศไทยได้ ฐานทางการเมืองอาจถูกตีแตก และยิ่งอ่อนกำลังลงไปอีก

 เห็นหรือยัง การต่อสู้ครั้งนี้ไม่ใช่ระหว่างนายอภิสิทธิ์ และน.ส.ยิ่งลักษณ์ แต่เป็นเรื่องของกลุ่มอำนาจ สุเทพ เนวิน ประวิตร บรรหาร สุวัจน์ อภิสิทธิ์เป็นเพียงหุ่นเชิด เพื่อสู้กับปีกฝ่ายทักษิณ โดยมีทักษิณเป็นผู้บัญชาการ การเลือกตั้งครั้งนี้จะต่อสู้กันอย่างรุนอแรงที่สุด เพราะทั้ง 2 ฝ่ายเดิมพันสูง แพ้ไม่ได้ ซึ่งทั้งสองผ่าย ก็เลวทั้งคู่ ไม่มีใครเป็นตัวเลือกให้ประชาชนได้เลย" นายประพันธ์ กล่าว

นายประพันธ์ กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์บอกอีกว่า 5-6 ปีที่ผ่านมาทำให้ประชาชนมีความทุกข์เพราะการเมืองนอกสภา เพราะการชุมนุม นี่มันเป็นการบิดเบือน เป็นการใส่ร้ายกลบเกลื่อนข้อเท็จจริง เพื่อให้ประชาชนเข้าใจผิดอย่างหน้าด้านๆของนายอภิสิทธิ์ ความจริงแล้ว 5-6 ปีที่ผ่านมา บ้านเมืองวุ่นวายเพราะใคร

หากพี่น้องมีใจเป็นธรรมคิดให้ดี มันเป็นเรื่องของเหลืองและแดงหรือ ที่จริงแล้วมันเป็นเรื่องการแย่งชิงอำนาจระหว่าง ระบอบอภิสิทธิ์ กับระบอบทักษิณ พันธมิตรฯอาจมีส่วนในช่วงแรก แต่นายอภิสิทธิ์จะมาอ้างว่าทำให้บ้านเมืองไม่สงบไม่ได้ เพราะ 193 วัน เป็นการสู้เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติ แล้วถ้าไม่มีการชุมนุมของเราจะมีนายกฯที่ชื่อนายแหลอย่างอภิสิทธิ์หรือ

แต่พอนายอภิสิทธิ์มาเป็นนายก ฯ มันก็เกิดความขัดแย้งระหว่างเสื้อนำเงินกับเสื้อแดง ในการล้มประชุมอาเซียน โดยเสื้อน้ำเงินเนวินก็เป็นผู้ตั้งขึ้นมา ซึ่งก็อยู่ภายใต้การรู้เห็นของนายสุเทพ เหตุการณ์ 19 พฤษภาคม นายอภิสิทธิ์พยายามมาติดต่อให้เสื้อเหลืองออกไปสู้ แต่พวกเราไม่ออก เลยเกิดเสื้อหลากสีขึ้นมา เสื้อหลากสีเป็นการดำเนินการของนายอภิสิทธิ์ ที่บ้านเมืองไม่สงบเพราะการเมืองนอกสภา นั่นก็เพราะการสมรู้ร่วมคิดของนายอภิสิทธิ์ กับนายเนวิน  ไม่ใช่พวกเราแม้แต่น้อย

และที่เลวร้ายที่สุด วันนี้ภายใต้การบริหารงานของนายอภิสิทธิ์ ได้ดึงทหารไปปะทะกับเสื้อแดง เอาทหารไปเป็นเครื่องมือในการค้ำบัลลังก์ จนทหารบาดเจ็บล้มตาย ทหารหาญพึงสำนึกให้ดีเหตุวุ่นวายเกิดจากรัฐบาลและฝ่ายค้าน ไม่เกี่ยวกับพันธมิตรฯแม้แต่น้อย เป็นการพูดเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น

"นายอภิสิทธิ์บอกด้วยว่าประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองอาชีพ ช่วยบอกหน่อยผลงานการบริหารทางการเมืองที่แสดงออกถึงการสร้างชาติ การพาประเทศก้าวหน้า มีอะไรบ้าง มีแต่แก้เกมการเมือง ใส่ร้ายผู้อื่น ทำลายผู้แข่งขันเพียงเพื่อให้ได้ชัยชนะในการเลือกตั้ง อาชีพของคุณก็คือรักษาอำนาจการเมืองสกปรกเท่านั้นเอง ถึงบอกว่าพรรคการเมือง นักการเมืองอาชีพเป็นเรื่องเหลวไหล ไม่มีอาชีอะไรเลย นอกจากแหลไปวันๆ นี่หรืออาชีพของการเป็นพรรคการเมือง" นายประพันธ์ กล่าว  

คำต่อคำ

พ่อแม่พี่น้องที่เคารพรักทุกท่านครับ กราบสวัสดีพี่น้องทางบ้าน และที่รับชมอยู่ต่างประเทศทุกท่าน และสวัสดีพี่น้องพันธมิตรฯ ที่มาจากทั่วประเทศ และมาชุมนุมอยู่ที่นี่ครับ

เมื่อวานก็ขาดงานไป 1 วัน ก็ไปภารกิจเพื่อบ้านเมืองนี่ล่ะครับ ไม่ได้ไปไหนหรอก ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่จะต้องได้พบกับคนที่ได้ให้ข้อมูลความรู้ ที่เป็นประโยชน์ในการที่จะมาพูดคุยกับพ่อแม่พี่น้องเป็นสำคัญ ขาดงานวันเดียว พี่สนธิก็ใช้งานชดเชย 1 เดือนเลย ไม่ต้องไปไหนเลย มันเป็นปัญหาที่จะต้องร้องเรียนกระทรวงแรงงานอยู่เหมือนกันว่า ใช้แรงงานเกินกว่ากฎหมายกำหนดหรือเปล่า

หายไป ไม่ได้มีอะไรที่จะเป็นเรื่องที่ทำให้ท้อแท้ ท้อถอย หรือว่าเสียกำลังใจในการต่อสู้นะครับ ก็มีพี่น้องส่งบทกลอน บทกวี ส่งข้อเขียน ส่งข้อมูล และส่งกำลังใจมาให้เยอะแยะ รวมทั้งเขียนจดหมายมามากมาย เกรงว่า กลัวผมจะท้อจะถอย รับรองครับพี่น้อง ไม่มีถอย แล้วก็ขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมานะครับ ยืนยัน ไม่ต้องห่วงครับ ชีวิตของผมก็บอกแล้วว่า ชาตินี้ก็คงเกิดมาเพื่อเป็นข้าพระบาทและเป็นทาสรับใช้ของพ่อแม่พี่น้องประชาชนล่ะ คงไปไหนไม่ได้ พี่น้องครับ และก็มีความสุขที่ได้อยู่กับพ่อแม่พี่น้องประชาชน

ยิ่งได้อ่านจดหมายที่ทุกท่านเขียนมา มันยิ่งทำให้ผมมีกำลังใจ ว่าจดหมายที่พ่อแม่พี่น้องประชาชนเขียนมาถึงผม มันยิ่งทำให้ผมลืมคำว่าท้อแท้ ท้อถอย และความเหนื่อยยากทั้งหลายทั้งปวงหมดสิ้นเลยครับ

ผมขออนุญาตนะครับ ก่อนอื่น คือนำจดหมายของพ่อแม่พี่น้องที่เขียนมาถึงผม อ่านแล้วก็ทำให้ผมมีกำลังใจมาก เพราะว่าจดหมายแต่ละท่านที่เขียนมานี้ เป็นลายมือของชาวบ้าน เป็นลายมือของพี่น้องประชาชนแท้ๆ เลยที่เขียนมา แล้วก็มีความรู้สึกอย่างไรต่อปัญหาบ้านเมือง และเขาคิดอย่างไร ทุกคนที่อยู่ในซอก ในหลืบ อยู่ในมุมในของประเทศไทย แต่หัวใจของเขาอยู่ที่ประชาชนที่มัฆวานฯ ครับ

อย่างเช่น คนนี้เขียนว่า ถึงคุณประพันธ์ คูณมี ที่รักของพันธมิตรฯ รัฐบาลที่ล้มเหลวที่ผ่านมา 2549 นายสุรยุทธ์ นายกฯ สู้แล้วหยุด นายสมัคร นายกฯ จมูกโต โอ้ว่าทำอาหารเก่ง นายสมชาย นายกฯ ม่าน ... แจกตู้เย็น ชอบฟัน ... (เดี๋ยวผมอ่านไปเดี๋ยวจะหาว่าไปหมิ่นประมาทเขา) นายอภิสิทธิ์ นายกฯ ดีแต่พูด แหล ได้หน้าแล้วลืมหลัง สร้างภาพว่าคนอื่น มันเองโคตรสร้างภาพมากกว่าคนอื่นๆ เสียอีก ทั้งที่ขลาด ดีแต่พูด จริงๆ ผมเป็นเสียงหนึ่งที่จะออกไปเลือกตั้งโหวตโน จากพันธมิตรฯ หน้าจอ

ปล.ผมเป็นแฟนคุณประพันธ์ทุกเทป เช้ามืด เพราะหัวค่ำผมติดธุระ ไม่อาจจะได้ชมรายการสดได้ ผมมีเงินน้อย ฝากมา 100 บาท เที่ยวหน้าจะส่งมาอีก อย่านำชื่อออกอากาศนะครับ เรารู้กัน

แล้วลายมือท่านนี่นะครับ บอกชื่อจริงมา รู้เลยว่าเป็นชาวบ้าน เป็นประชาชนที่มีหัวใจเช่นเดียวกับพวกเรา แม้เงินมันจะน้อยค่า น้อยจำนวน แต่มันทรงคุณค่าสำหรับพวกเรามากครับ ตรงนี้ล่ะครับทำให้มีความสุขมาก

ผมใช้เวลาอ่านจดหมายสักนิดนะครับ แล้วพี่น้องจะมีความสุขไปกับผม วันๆ ผมมีความสุขที่ได้อ่านจดหมายพี่น้องนี่ล่ะครับ เขียนมาดีมากนะครับ อย่างท่านนี้บอกว่า คุณประพันธ์ที่เคารพ (นี่มาจากชลบุรีนะครับ) ดิฉันนักรบหน้าจอ ไปไหนไม่ได้เลย ดูแต่ทีวีทุกวันทุกคืน ดิฉันเปิดตลอดเลย ไม่ปิด ดิฉันได้แฟนต่างชาติ พี่น้องดูลายมือเขาสิครับ เขาอยู่ชลบุรีนะครับ อยู่บางเสร่ แสดงว่ามีจิตใจที่ผูกพันกับพี่น้องมาก เขาบอกว่าเปิด ASTV ตลอด ไม่ปิด

ดิฉันได้แฟนต่างชาติ ซึ่งอายุก็มากแล้ว เมื่อดิฉันดูทีวีเมื่อไร ก็ขนลุกและน้ำตาไหล สงสารประเทศชาติมาก ที่บางเสร่ ไม่มีพวกดิฉัน อยากได้หนังสือของคุณประพันธ์ ฉันก็ติดต่อไม่ได้เลย ส่งมาทางไปรษณีย์ให้ดิฉันหน่อย ฉันจะจ่ายเงินปลายทาง ดิฉันจะให้เลย 1,000 บาท เพื่อช่วยชาติ คุณประพันธ์จะเอาเงินไปไหนก็ได้ ดิฉันอยากทำบุญกับพันธมิตรฯ ด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ บอกที่อยู่มาเรียบร้อย เดี๋ยวผมจะส่งหนังสือไปให้ท่านนะครับ เดี๋ยวจะให้ทีมงานช่วยส่งหนังสือไป

คือดูลายมือนี่รู้เลยว่าเขาเป็นชาวบ้านแท้ๆ มีสามีเป็นชาวต่างชาติ อยู่ในซอกหนึ่งของประเทศไทย คืออยู่ ต.บางเสร่ มีแฟนเป็นชาวต่างชาติ ล้อมรอบด้วยคนที่อาจจะไม่เข้าใจ แต่เธอก็ยังมีหัวใจเชื่อมั่นในสิ่งที่พวกเราทำ จึงเป็นจิตใจที่น่ายกย่อง ปรบมือให้กำลังใจเธอด้วยนะครับ

มีดีๆ เยอะครับ พออ่านแล้วก็จะได้ความสุขไปกับการอ่านหนังสือ อ่านจดหมายที่ท่านเขียนมา

ท่านนี้ก็น่ารักครับ เขาบอกว่า เรียนคุณประพันธ์ที่รัก ชื่นชมคุณประพันธ์อย่างยิ่ง ต้องติดตามฟังทุกวันก่อนนอน เมื่อวานถูกหลอกไปงานของแกนนำเครือข่ายประชาธิปัตย์ แถวลำลูกกา เขาแจ้งว่ามีวงดนตรีสุนทราภรณ์บรรเลง ให้ไปฟังฟรี ผมมันคนแก่ ชอบเพลงเก่าๆ ยอมไปฟังมันหน่อย ปรากฏว่าดนตรีกลายเป็นนักร้องลูกทุ่งโนเนม 2 คน ดนตรีไม่มี แต่เปิดทำนอง จากนั้นก็มีผู้สมัครเขต 5 ปทุมธานี ของพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาแนะนำตัว ชื่อด็อกเตอร์อะไรจำไม่ได้ นามสกุลส่องแสง ตามด้วย ส.ส.2-3 คน มาคุยโม้อวดผลงาน โดยเฉพาะเบี้ยผู้สูงอายุ ต่อสู้มาเป็นยังไง เอาเป็นว่าประชาธิปัตย์มันตอแหลอีกแล้ว หลอกกันดื้อๆ ยังไม่ได้เป็น ส.ส.เลย นี่ก็เป็นคนแถวปทุมธานี ลำลูกกา แล้วก็บอกว่าเงินที่แจก เห็นมั้ยครับมีแจกเงินด้วย แจกมา 100 บาท เขาก็เลยเอามาบริจาค ใส่ซองส่งมาในจดหมาย มาบริจาคให้ ASTV แล้วก็ยังส่งกำหนดการสัมมนาเครือข่ายแกนนำประชาธิปัตย์ เมื่อวันที่ 28 เมษาฯ ห้องอารียา โรงแรมเอเชีย แอร์พอร์ต มีรายการหมด บอกจะมีคนนั้นมา อลงกรณ์มา มีวงดนตรีสุนทราภรณ์ มีอย่างโน้นอย่างนี้ เขาส่งหลักฐานมาด้วย ปรากฏว่าไปแล้วไม่มีอะไร มีนักร้องโนเนม 2 คน แล้วก็แจกเงิน 100 บาท เขาก็เลยเอามาบริจาค

บอกว่ายังไม่ได้เป็น ส.ส.ก็ตอแหลแล้ว ว่าจะมีวงสุนทราภรณ์มา ผมมันคนแก่ หลงรักสุนทราภรณ์ ก็เลยไปฟัง ไปฟังปรากฏไปเจอนักร้องโนเนม ได้เงินมา 100 บาท ก็เลยเอามาบริจาคให้พี่น้องพันธมิตรฯ เห็นมั้ยครับ ก็มีอะไรดีๆ อย่างนี้ล่ะครับ อ่านจดหมายของพี่น้องประชาชนแล้ว

เดี๋ยวนี่อีกฉบับหนึ่ง อันนี้มาจากกระบี่ นี่เรื่องใหญ่ บอกว่ามีคนไปโจมตี นี่จากพี่น้องพันธมิตรฯ กระบี่ เขียนมาหลายหน้า เอาสรุปสาระสำคัญแล้วกัน มีคนพยายามไปโจมตีคุณสนธิ โจมตีคุณจำลอง แล้วก็พยายามไปอ้างทำตัวว่าเป็นแกนนำ เป็นพันธมิตรฯ เคยร่วมต่อสู้กับพวกเรา แล้วก็ไม่ยอมมาร่วมกับเราเพราะอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ไปเชียร์คุณสมศักดิ์ แล้วก็มาด่าคุณจำลอง คุณสนธิ ซึ่งเป็นการกระทำที่น่ารังเกียจมาก คนที่เขียนมาก็บอกว่า คนนั้นโดนพี่น้องพันธมิตรฯ ต่อว่าอย่างรุนแรง แล้วก็ถามว่าทำไมคุณมาพูดอย่างนี้ คุณมีข้อมูล คุณไปรับงานใครมา คุณมีข้อมูลมาจากไหน คนนั้นก็อ้างว่าได้ข้อมูลมาจากลูกสาวคุณสมศักดิ์ ซึ่งแย่มากครับ ไม่น่าเป็นไปได้ แล้วก็ไปด่าไปโจมตีเสียๆ หายๆ เลยถูกประชาชนโจมตี ท่านผู้นี้ก็เลยเขียนมาว่า สงสัยผู้หญิงคนนี้ถูกต่อว่า ก็เลยถึงกับหน้าถอดสี สุดท้ายก็บอกว่า ได้ข่าวมาจากลูกของคุณสมศักดิ์ โกศัยสุข และเธอคงรักคุณสมศักดิ์ อยากให้มีการส่ง ส.ส.พรรคการเมืองใหม่ เลือกตั้ง ผมว่ายายนี่คงฝันอยากให้นายสมศักดิ์เป็นนายกฯ กระมัง เพราะผมดูโหงวเฮ้ง ฮวงจุ้ย ของนายสมศักดิ์แล้ว โอกาสเป็นนายกฯ คงไม่มีเลย ปิดฝาโลงได้เลย แต่ถ้าให้นายสมศักดิ์เป็นตัวแทนโฆษณาให้ร้านไก่ KFC ผมว่าอันนี้ได้เป็นแน่ คนบ้าอะไร หัวล้านแล้วยังไว้เครา กระโดดเหยงๆ เหมือนลิงเหมือนค่าง ซ้ำเลียนแบบทำมือทำไม้เหมือนคางคกขอชีวิต ไม่ให้รถเหยียบอีกต่างหาก นี่สำนวนไม่ธรรมดาเลยครับ

เดี๋ยวเรื่องนี้ถึงจังหวะหนึ่ง ผมมีข้อมูล และจะพูดให้ฟังว่าแก๊งไหนบ้างที่มันเข้าไปร่วมหัวกันเพื่อที่จะยึดพรรคการเมืองใหม่ เป็นแก๊งชั่วแก๊งหนึ่งก็แล้วกันนะครับ ที่จะเข้าไปยึดพรรคการเมืองใหม่ เป็นพวกแก๊งซากเดนการเมืองที่ เขาเรียกว่าเป็นพวกสารพิษตกค้างที่ไร้สาระทางการเมืองแล้ว เป็นพวกสัมพเวสีที่ไม่มีที่ไปแล้ว พยายามจะไปยึดพรรคการเมืองใหม่ แต่สุดท้ายพี่น้องครับ เขาจะต้องแพ้พลังของสมาชิกพรรคการเมืองใหม่ หัวใจพันธมิตรฯ อย่างแน่นอนครับ

ก็ต้องให้กำลังใจคุณสุริยะใส และพวก ที่จะต่อสู้และกำจัดคนที่ไม่รักดี คนที่ทรยศพี่น้องประชาชนครับ เดี๋ยวผมมีข้อมูลผมจะมาพูดในวันหนึ่งให้พี่น้องฟัง แต่ผมเอาไว้ก่อน รับรองพี่น้องครับ วันนี้ก็มีข้อมูลส่วนหนึ่ง ลงตีแผ่ไปที่ในหนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการแล้ว ถ้าท่านสนใจอยากไปอ่านก็ไปอ่านได้ นี่เป็นบางส่วน และคนของเราที่ผมเคยบอกว่า พรรคหนึ่งมาเสนอเงินให้ 50 ล้าน เพื่อดึงตัวไปลงเลือกตั้งนั้น ผมจะพูดให้ฟังว่า ใคร มาจากไหน พรรคไหนเสนอ

ก็มาจากแก๊งพวกที่คิดจะมายุบพรรคการเมืองใหม่นี่ล่ะครับ พี่น้องครับ เพราะฉะนั้นวันนี้ที่การเมืองใหม่เขามาลง ผมเห็นแว้บๆ ที่รายสัปดาห์ พี่น้องต้องไปอ่าน เดอะอ้วน เด็จพี่ และสมศักดิ์ โกศัยสุข กับปริศนา ทำไมอยากกระสันลงเลือกตั้งเหลือเกิน มันมีรายละเอียดมากกว่านี้ อันนี้เป็นเพียงน้ำจิ้ม รายละเอียดรอฟังประพันธ์พูด แล้วพี่น้องจะถึงบางอ้อว่า ทำไมถึงหน้าด้าน อยากจะลงเลือกตั้ง

เดี๋ยวดูจดหมายอีกฉบับหนึ่งแล้วกันนะครับ พี่น้อง อันนี้ท่านนิรนามเขียนมา แล้วมีฝากบทกลอนมาด้วย เรียนคุณประพันธ์ คูณมี ที่บ้านเป็นพันธมิตรฯ ทั้งหมด เห็นตามมติส่วนใหญ่โหวตโนทั้งบ้าน ขอมีส่วนร่วมกับคุณประพันธ์ เลยแต่งกลอนตามประสามือใหม่มาฝากพันธมิตรฯ ทั่วโลก ไม่ธรรมดา มือใหม่แต่อยากฝากให้ทั่วโลก

เนื้อหาอาจจะไปกระทบใครบางคนในโลกนี้ แต่ไม่ได้ระบุชื่อแต่อย่างใด ฉะนั้นกรุณาอย่าเสือกกินปูนร้อนท้อง อย่ามาโวยวาย ถือเสียว่ากลอนบทนี้เป็นเสียงบ่นจากสวรรค์ก็แล้วกัน ไม่ธรรมดานะ พี่น้องพันธมิตรฯ นี่เป็นคนที่มีวาทะ คารมคมคาย เป็นคนที่มีความรู้ ฟังรายการแล้วก็การปราศรัยบนเวทีแล้ว ท่านเขียนมาไม่ระบุชื่อจริงๆ นะครับ เหมือนกับว่า ถ้าใครอยากจะเสนอตัวว่าตัวเองเป็นสัตว์ประเภทไหนบนบิลบอร์ดโฆษณา ก็ออกรับได้เลยนะครับ

ท่านเขียนมาอย่างนี้ว่า แสนระอา ไอ้พวกควาย ขายชาติแดก (ฟังดูมันก็คำไทยนะครับ ไม่หยาบ)

แสนระอาด ไอ้พวกควาย ขายชาติแดก
มันไม่แปลก ไอ้หน้าดำ ทำไขสือ (ใครจะยอมรับว่าตัวเองหน้าดำก็ยอมรับไปแล้วกัน)
พวกบัวแก้ว บางกลุ่ม มันร่วมมือ
ช่วยกระพือ ว่าแดนไทย ใช่ของเรา

เพราะน้ำมัน ถึงกระสัน อยากขายชาติ
ยอมเป็นทาส ให้ฮุนเซน เหยียบศักดิ์ศรี
ยอมทุกอย่าง แม้ว่าไทย ถูกย่ำยี
ทั้งหมดนี้ ไอ้หน้าดำ กำหนดเอง

เลวระยำ ต่ำช้า มันน่าแปลก
ขายชาติแดก มันทำลง งงจริงหนอ
ชาติตัวเอง ทำลงไป ได้ลงคอ
ชั่วจริงหนอ ไอ้หน้าดำ ระยำจริง

ขอสาปแช่ง พวกขายชาติ จงวิบัติ
ทรัพย์สมบัติ ที่โกงมา จงฉิบหาย
โคตรตระกูล ที่ชั่วช้า จงวอดวาย
หลังความตาย อเวจี ที่หมายเอย

ไม่ธรรมดานะครับ พี่น้องเราก็ไม่ธรรมดา จดหมายที่เขียนมาเยอะแยะนะครับ ผมอาจจะอ่านไม่ครบหมดทุกฉบับ ก็เลือกมาบางฉบับที่ เรียกว่า อ่านแล้วได้สาระ นี่อีกท่านหนึ่งก็เหมือนกัน ท่านเขียนมาสรุปดีมาก ว่าปัญหาของรัฐบาลอภิสิทธิ์นั้นเป็นอย่างไร มีความล้มเหลวในเรื่องอะไรบ้าง มีความไม่ดีไม่งามเมื่อเทียบเคียงกับรัฐบาลอื่นๆ อย่างไร เขียนมาบอกว่า เป็นคนบ้านนอก มาอยู่กรุงเทพฯ แต่ท่านพิมพ์มาอย่างดี เรียบร้อย เดี๋ยววันหลังผมจะได้เอามาพูดคุยกับพี่น้องต่อไปนะครับ

ขอบคุณจดหมายทุกฉบับนะครับ พี่น้องที่เขียนมา และก็ขอบคุณทุกกำลังใจที่เขียนมาถึงผมนะครับ

พี่น้องที่เคารพรักครับ เมื่อวานถึงแม้ว่าผมจะอยู่ข้างนอก ผมก็ฟังและติดตามทุกคำพูดที่คุณสนธิพูดนะครับ คุณสนธิได้พูดเรื่องของพรรคชาติไทย พรรคการเมือง แบบอย่างของพรรคการเมืองที่เลว ใช่มั้ยครับ

แม้จะมีพาดพิงถึงผมเล็กน้อย ก็ถือว่าไม่เป็นไร ไม่ประท้วง ไม่คัดค้าน แล้วก็อยู่เฉยๆ ไม่พูดถึงจะดีกว่า ใช่มั้ยครับ

วันนี้ผมก็จะมาพูดคุยกับพี่น้อง พูดคุยให้พี่น้องเข้าใจว่า การเมือง การเลือกตั้ง ที่กำลังเป็นอยู่ และที่กำลังจะถึงในขณะนี้ ทุกครั้งที่มีการรณรงค์เลือกตั้ง ก็จะมีคำๆ หนึ่ง ที่คณะกรรมการจัดการเลือกตั้ง และคณะกรรมการที่รณรงค์ให้ประชาชนไปใช้สิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้ง มักจะพูดอยู่เสมอว่า ให้สามัคคีกันไปใช้สิทธิ์เลือกคนดีเข้าสภา ใช่มั้ยครับ นี่ก็เป็นมุกเก่าๆ เป็นการรณรงค์แบบเก่าๆ และเป็นการรณรงค์ที่งมงายและซ้ำซาก ของการเลือกตั้งที่ผ่านมา

ความจริงแล้วพี่น้องลองนึกดูสิครับ ถ้าในบรรดาคนที่มาสมัครเลือกตั้งมาพิจารณาให้ประชาชนเลือก มาจากคนและพรรคที่มันเลวทั้งนั้น หยิบอันไหนมามันก็เลวทั้งนั้น แล้วคุณมารณรงค์ให้ผมเลือกคนดี คนดีมันหาได้ที่ไหนในพรรคการเมือง ใช่มั้ยครับ มันไม่มี ก็มาหลอกลวงให้ประชาชนเลือกคนดีเข้าสภา มันจะไปเลือกได้ที่ไหน หยิบคนไหนมา มันก็ได้คนเลวเข้าสภาอยู่วันยันค่ำ งบประมาณที่ใช้ไปเพื่อการรณรงค์ จะเอานักรัฐศาสตร์ หลักการเลือกคนดีเป็นคนอย่างนี้ 1..2..3..4..5.. พรรคดีๆ เป็นอย่างนี้ พวกนักรัฐศาสตร์ นักวิชาการ ก็ดีแต่ท่องตำรา บ้าน้ำลาย เท่านั้นเองครับ

แต่ในโลกของความเป็นจริง นักการเมืองที่มาให้ประชาชนเลือก มันก็เป็นเหมือนป้ายโฆษณาที่พวกเรารณรงค์โหวตโนนั่นล่ะครับว่า อย่าปล่อยสัตว์เข้าสภา นี่เป็นการโฆษณารณรงค์ที่ได้ผลที่สุด ทรงพลังที่สุด และเป็นเชิงสัญลักษณ์ที่ตรงเป้าที่สุดกับพฤติกรรมของนักการเมืองไทย ใช่มั้ยครับ

ไม่ว่าลิงแจกกล้วย มันด่ากันอยู่ในสภา ส่งอาวุธลับ แจกกล้วยกันเป็นแถวเลย ลิงหลอกเจ้าทั้งนั้น ไม่ว่าเหี้ยแอบกินของชาวบ้าน แอบขโมย และพฤติกรรมต่ำทราม เห็นเงินภาษีของประชาชนไม่ได้ มันต้องแย่งกันปล้น แย่งกันขโมย

ไม่ว่าสุนัขก็ตาม มันก็เป็นสุนัขฟันหักที่กินเนื้อ กินทรัพย์สินของประชาชนอย่างเดียว เฝ้าบ้านไม่ได้ เห่าไม่ได้ คอยมีหน้าที่ให้นักการเมืองจูงอย่างเดียว ไม่ว่าเสือ สิงห์ กระทิง แรด วัวควาย ตัวอย่างที่เวทีนี้อธิบายไปนั้น มันตรงกับพฤติกรรมของนักการเมืองทั้งนั้นเลยครับ

แล้ววันนี้ก็ต้องขอบคุณ กกต.ที่ได้มีคำวินิจฉัยว่าการโฆษณานี้ไม่เป็นความผิดตามกฎหมายพระราชบัญญัติเลือกตั้งอะไรเลย และดีที่สุดครับ ท่าน กกต. นี่เราไม่ขายลิขสิทธิ์นะครับ เราให้ กกต.เอาไปรณรงค์ฟรีเลย ในการรณรงค์เลือกตั้ง กกต.ควรเอาอันนี้ไปรณรงค์ให้ประชาชนบอกว่า อย่าปล่อยสัตว์ไปเข้าสภา ครับ ดีกว่าไปใช้วาทกรรมเก่าๆ ไปลงคะแนนเลือกคนดีเข้าสภา ประชาชนบอกคนดีอยู่ไหนวะ ต้องเอาเครื่องเอ็กซเรย์ เอาแว่นขยายไปส่องหา ก็ยังหาไม่เจอ ใช่มั้ยครับ ไอ้ที่เอามาให้เราเลือกเนี่ยมันไม่มีคนดีให้เลือกเลย ใช่มั้ยครับ เพราะฉะนั้นรณรงค์ว่าอย่าปล่อยสัตว์เข้าสภานั้นดีกว่าครับ กกต.ครับ เราไม่สงวนลิขสิทธิ์ เอาไปใช้ในการรณรงค์ ปลุกระดมให้ประชาชนไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งได้ โดยการได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักร ยินดีครับ

พี่น้องครับ ทีนี้ วันนี้แรงบันดาลใจที่ผมอยากจะพูด นั่นก็คือว่า เมื่อการเลือกตั้งมันมาถึงแบบนี้ และก็รัฐบาลที่หาเสียง หรือว่าการรณรงค์ที่จะมาให้ประชาชนเลือกนั้น มันเป็นการรณรงค์ที่ทำให้พี่น้องประชาชนจะต้องมาขบคิดอีกมากมาย หลายครั้ง ต้องทบทวนอีกหลายปัญหา แต่ว่าข้อมูลอันหนึ่งที่เป็นแรงบันดาลใจให้ผมต้องอยากจะพูดในวันนี้คือ คำสัมภาษณ์ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และบทความในหนังสือพิมพ์หลายฉบับ ก็พยายามเขียนในทำนองว่า 1. การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการสู้กัน ให้ประชาชนเลือก ระหว่างว่าจะเลือกเอานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกฯ หรือจะเลือกเอาคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์พยายามจะชูประเด็นนี้ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นการเลือกระหว่าง พี่น้องประชาชนจะเลือกอภิสิทธิ์ หรือจะเลือกยิ่งลักษณ์เป็นนายกฯ

เห็นมั้ยครับ ผมจะพูดให้เห็นถึงเล่ห์เหลี่ยมและความแหลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และจะชี้เปรียบเทียบให้เห็นว่า แท้จริงแล้วการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นอย่างไร

และประเด็นที่ 2 ที่นายอภิสิทธิ์ชอบอ้างและพูดนี้ ผมคิดว่าเป็นประเด็นที่เราจะต้องมาทำความเข้าใจและได้เห็นถึงเล่ห์เหลี่ยมของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และคนในพรรคประชาธิปัตย์

นายอภิสิทธิ์บอกว่า เขากล่าวระหว่างเปิดการสัมมนาผู้สมัครพรรค ส.ส.พรรค ที่โรงแรมมิราเคิล เขาบอกว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองอาชีพ ผมจะชี้ให้เห็นว่าคุณเป็นพรรคการเมืองอาชีพอะไร และอาชีพประเภทไหน อาชีพเพื่อหารายได้อย่างไร ผมจะชี้ให้ประชาชนเห็น ความเป็นพรรคการเมืองอาชีพคืออะไร และ 2. เขาบอกว่า การจะทำอะไรต้องจริงๆ ไม่ใช่ทำเล่นๆ ดังนั้นโอกาสที่พรรคได้มอบให้ทุกคนจึงเป็นโอกาสสำคัญที่ต้องมารับใช้ประชาชน ผลของการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นจะมีผลกระทบต่อประเทศชาติและประชาชน นี่ประเด็นที่ 1

และประเด็นที่ 2 ที่เขาพูด เขาบอกการเมืองครั้งนี้มีความแตกต่างจากที่ผ่านมา 5-6 ปีที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนมีความทุกข์ เพราะมีการเมืองนอกสภา เป็นการเมืองของการชุมนุมประท้วง การเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นการเลือกตั้งที่เข้มข้น เข้มแข็ง เห็นมั้ยครับ นายอภิสิทธิ์กำลังป้ายสี ใส่สีตีไข่ และกำลังบอกว่า 5-6 ปีที่ผ่านมานั้น ประชาชนทุกข์เพราะมีการชุมนุมนอกสภา มีการเล่นการเมืองนอกสภา ผมก็จะชี้ให้เห็นว่าเขาทุกข์เพราะการเมืองนอกสภา หรือเขาทุกข์เพราะมีคนอย่างคุณเป็นนายกรัฐมนตรี

คือคนแบบนี้มันพูดเอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น แล้วผมจะชี้ให้เห็นว่า ทั้งสองพรรคเวลานี้มันแข่งกัน โดยมีเดิมพันคืออะไร มันเลวกันอย่างไร และอนาคตของชาติบ้านเมืองจะเป็นอย่างไร แท้ที่จริงแล้วการเมืองการเลือกตั้งครั้งนี้มันเป็นการต่อสู้ระหว่างใครกับใคร ด้วยเหตุผลข้อมูลข้อเท็จจริงอย่างไรต่างหากครับ

ประเด็นที่ 1 พี่น้องครับ นายอภิสิทธิ์พยายามจะชูว่า การเมืองการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการช่วงชิงอำนาจกันระหว่าง 2 พรรคใหญ่ เป็นการให้ประชาชนเลือกว่า จะเลือกเอาอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ หรือจะเลือกเอายิ่งลักษณ์เป็นนายกฯ เห็นมั้ยเล่ห์เหลี่ยม ชั้นเชิงทางการเมืองของนายอภิสิทธิ์ เพราะถ้าเอาตัวนายอภิสิทธิ์มาเทียบกับยิ่งลักษณ์ แน่นอน นายอภิสิทธิ์ย่อมเหนือกว่ายิ่งลักษณ์ หรือไม่ก็พอๆ กัน แต่นายอภิสิทธิ์อาจจะมีภาษีเหนือกว่าเล็กน้อย เพราะเป็นอดีตนายกฯ และผ่านการเป็นนายกฯ มาแล้ว ใช่มั้ยครับ

ส่วนยิ่งลักษณ์ยังไม่เคยผ่านการเป็น ส.ส. ไม่เคยผ่านการเป็นผู้แทน ไม่เคยผ่านการบริหารทางการเมือง แต่ข้อได้เปรียบของยิ่งลักษณ์ ก็คือ ยิ่งลักษณ์อาจจะมีภาษีเหนือกว่านายอภิสิทธิ์ ตรงยิ่งลักษณ์เคยบริหารธุรกิจขนาดใหญ่มาแล้ว โดยที่นายอภิสิทธิ์ทั้งชีวิตไม่เคยทำมาหารับประทานอะไรเลย นอกจากเป็นนักการเมืองอาชีพ

มันก็ต่างกันในมุมนี้ แต่ถ้าพูดถึงในเวทีเลือกตั้ง ในการหาเสียงเลือกตั้ง ถ้าชูประเด็นว่าใครเหมาะสมจะเป็นนายกฯ แน่นอนครับ นายอภิสิทธิ์ย่อมมีภาษีเหนือกว่านางยิ่งลักษณ์เป็นแน่ ถ้าในมุมนี้ ถูกต้องมั้ยครับ นายอภิสิทธิ์ก็เลยเลือกชูประเด็นว่า เป็นการโน้มน้าวประชาชนทั้งประเทศให้ตัดสินใจ เพื่อตัดสินใจง่ายว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการสู้กันระหว่างอภิสิทธิ์กับยิ่งลักษณ์ โดยปกปิด และกลบเกลื่อนความเลวร้ายของระบอบอภิสิทธิ์ กับระบอบทักษิณไว้ ทำให้ประชาชนไขว้เขวและบิดเบือนไปจากข้อเท็จจริงนี้ นี่คือเล่ห์เหลี่ยมชั้นเชิงทางการเมืองของอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

แท้ที่จริงแล้วการเลือกตั้งครั้งนี้มันเป็นการสู้กันระหว่าง 2 ขั้วการเมือง ขั้วหนึ่งคือนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำ เป็นขั้ว โดยมีนายสุเทพ นายเนวิน นายสุวัจน์ นายบรรหาร พล.อ.ประวิตร แก๊งที่เป็นรัฐบาลอยู่ในขณะนี้ เป็นขั้วหนึ่ง พูดง่ายๆ มันเป็นการสู้กันระหว่างระบอบอภิสิทธิ์ หรือระบอบมาร์ค เนวิน สุเทพ ประวิตร บรรหาร สุวัจน์ นั่นเองครับ เพราะก๊วนนี้ได้มีการผูกมัดผลประโยชน์กันไว้แล้วในระหว่างเป็นรัฐบาล โดยระหว่างการเป็นรัฐบาล ข้อตกลงที่สุเทพไปตกลงกับพรรค 5 ร่วมรัฐบาลก็คือ ถ้าโครงการใดที่ 5 พรรครัฐบาลเสนอขึ้นมา คุณอย่าขวางนะ คุณต้องไม่ขัดขวางการทำมาหากินของพรรคร่วมรัฐบาล และยอมยกกระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม และต้องแก้รัฐธรรมนูญ

เพราะฉะนั้นในระหว่าง 5 พรรคร่วมรัฐบาล มาร่วมรัฐบาลกับนายอภิสิทธิ์ สุเทพ เขาจึงอิ่มหมีพีมันและได้ทุกอย่างตามความต้องการทุกโครงการ นายอภิสิทธิ์-สุเทพ ไม่กล้าขวางพรรคร่วมรัฐบาล เขาจึงร่วมกันได้

และวันนี้พอจะยุบสภา นายอภิสิทธิ์ก็สนองความต้องการของ 5 พรรคร่วมรัฐบาลโดยการอนุมัติ 200 โครงการเป็นแสนๆ ล้าน แจกทุกพรรคร่วมรัฐบาลอย่างอิ่มหมีพีมัน พร้อมหน้าพร้อมตากัน เพื่อเป็นกระสุนดินดำไปสู่การแข่งขัน การเลือกตั้ง ใช่มั้ยครับ

เพราะฉะนั้นการเลือกตั้งมันจึงเป็นการสู้กันระหว่างขั้วอำนาจ ที่ว่าเลวแบบหน้าหล่อ ก๊วนหนึ่ง แก๊งหนึ่ง โดยมีอภิสิทธิ์เป็นตัวหุ่นเชิด และเป็นรัฐบาลหุ่นเชิด เป็นนอมินีของนายสุเทพ ประวิตร สุวัจน์ เนวิน ทั้งนั้น นายอภิสิทธิ์ไม่เคยแสดงบทบาทในการปกป้องผลประโยชน์ชาติ จับโครงการทุจริตคอร์รัปชั่นได้แม้แต่เรื่องเดียว

ในเวลาที่นายอภิสิทธิ์ขึ้นมาเป็นนายกฯ ครั้งแรก นายอภิสิทธิ์พยายามเดินสายไปขอความเห็นชอบ ขอคำแนะนำจากผู้หลักผู้ใหญ่ และประชาชนก็ให้โอกาส พวกเราก็ให้โอกาส ใช่มั้ยครับ แม้ว่าเราจะรู้ว่าการที่นายอภิสิทธิ์ได้เป็นรัฐบาลคราววนั้น มาจากการที่ใช้กำลังทหารส่วนหนึ่งไปดึงตัวนักการเมืองปีกฝ่ายพรรคเพื่อไทย บีบคั้น กดดัน ข่มขู่ เพื่อให้คนพวกนี้มาร่วมเป็นรัฐบาล แล้วเมื่อมาร่วมเป็นรัฐบาลแล้ว พรรคพวกนี้ยินดีมา แต่ก็ต่อรองได้ผลประโยชน์ไปด้วย เมื่อต่อรองสมประโยชน์กันก็ไปตั้งรัฐบาล

การร่วมรัฐบาลครั้งนั้น ประชาชนก็ยอมทำใจ แม้ว่าจะรังเกียจพรรคร่วมรัฐบาล 5 พรรค ซึ่งเวลามันอยู่กับทักษิณ มันก็โกงทุจริตคอร์รัปชั่น กินไม่ยั้งเหมือนกัน ใช่มั้ยครับ แต่พวกเราประชาชนขณะนั้นก็จำใจจำยอม เพราะไม่มีทางเลือก เพราะการเมืองในระบอบมันมีอยู่แค่นี้ ถ้าไม่มาฝั่งนี้ก็ต้องไปฝั่งโน้น แต่การจำยอมของประชาชนในวันนั้นไม่ใช่ยอมให้นายอภิสิทธิ์ปู้ยี่ปู้ยำประเทศอย่างไรก็ได้ ใช่มั้ยครับ ไม่ใช่ปล่อยให้พรรคร่วมรัฐบาลโกงกินอย่างไรก็ได้ ไม่ใช่ปล่อยให้คนในพรรคประชาธิปัตย์โกงกินอย่างไรก็ได้ ไม่ใช่ยอมให้นายอภิสิทธิ์ย่ำยีระบอบประชาธิปไตย ขายชาติขายแผ่นดินอย่างไรก็ได้ การยินยอมของประชาชนในขณะนั้นก็เพราะว่า นายอภิสิทธิ์บอกว่าจะทำให้บ้านเมืองดีขึ้น จะหนีจากการเมืองที่ล้มเหลว จะปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ จะแก้ไขปัญหาบ้านเมืองที่เป็นความเรียกร้องต้องการของประชาชน ใช่มั้ยครับ

เช่นเดียวกัน ในวันที่คนเขาไปเลือกพรรคไทยรักไทย เลือกพรรคของระบอบทักษิณ ก็ไม่ได้หมายความว่าพี่น้องประชาชนยอมให้ทักษิณมาใช้อำนาจปู้ยี่ปู้ยำ โกงบ้านกินเมืองอย่างไรก็ได้

เมื่อทักษิณมาปกครองบ้านเมือง ระบอบทักษิณปกครองบ้านเมือง โกงบ้านกินเมือง ทุจริตคอร์รัปชั่น ประชาชนจึงต้องลุกออกมาต่อต้านคัดค้าน ขับไล่ ใช่มั้ยครับ

การให้โอกาสรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ก็อยู่บนเงื่อนไขเดียวกันของพี่น้องประชาชน ว่าเราให้โอกาสคุณ เพราะคุณสร้างภาพ ทำหน้าหล่อว่าจะมาทำการเมืองให้เป็นประชาธิปไตย จะมาแก้การเมืองที่ล้มเหลว จะมาแก้ปัญหาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง จะมาปกป้องสถาบัน จะมาปกป้องชาติ ปกป้องแผ่นดิน จะไม่ขายชาติขายแผ่นดิน เราจึงให้โอกาสคุณเป็นอย่างดี และให้ความร่วมมือ แม้ว่าเราจะขมขื่นใจ ใช่มั้ยครับ

ทีนี้ในระยะเริ่มแรก ก็จะเห็นว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ทำตัวเรียบร้อย ทำตัวดี ทำออกกฎเหล็ก 9 ข้อ อย่างโน้นอย่างนี้ ทำเหมือนกับว่าจะมาทำการเมืองให้ดีขึ้น เหมือนกับว่าจะมาปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน พอพรรคร่วมรัฐบาลเสนอโครงการรถเมล์ 4,000-5,000 คัน ก็ทำเป็นตีหน้าบาง ทำเป็นคัดค้าน ฟังเสียงประชาชน พอเขาจะเสนอไม่ลงโทษพัชรวาท หรืออะไร ก็ทำเป็นโต้แย้งคัดค้านในระยะแรกๆ หลังจากนั้นมันหุบปากและไม่เคยคัดค้านเลยครับ

เช่นเดียวกัน แรกๆ ไปขอความเห็นจาก ฯพณฯ พล.อ.เปรม ผมรู้มา ไปคารวะ ไปขอความเห็น ไปขอพร ไปขอคำแนะนำในวาระโอกาสปีใหม่ สงกรานต์ ไปขอคำแนะนำจากท่านเรื่องอะไรครับ ก็ไปขอคำแนะนำจาก ฯพณฯ พล.อ.เปรม ในฐานะที่ พล.อ.เปรม เคยมีประสบการณ์ในการบริหารพรรคการเมืองที่มาจากร้อยพ่อพันแม่ เสือ สิงห์ กระทิง แรด พวกนี้ เป็นพวกพรรคการเมือง นักการเมือง ที่เคยอยู่ร่วมรัฐบาล พล.อ.เปรม มาแล้ว ไม่ว่า พล.อ.ชาติชาย นายบรรหาร มนตรี แม้กระทั่งคนที่อยู่ในขณะนี้ สุวัจน์ พรรคประชาธิปัตย์ พวกนี้เคยอยู่ร่วมรัฐบาลสมัย พล.อ.เปรม มาแล้ว

อภิสิทธิ์ก็ไปขอคำแนะนำในทำนองว่า เขาจะบริหารรัฐบาลผสมนี้อย่างไร เพื่อให้เป็นที่พอใจของพี่น้องประชาชน และทำให้รัฐบาลเดินหน้าสร้างสรรค์บ้านเมืองได้ ท่านก็ให้ข้อแนะนำไปว่า ท่านนายกฯ ก็อย่าไปยอมเขาทุกอย่าง ถ้าเขาขออะไรมา ถ้าเห็นว่ามันไม่สมควร หรือมันไม่ถูกต้อง เราก็ต้องพิจารณาให้รอบคอบ และอะไรที่มันพอยอมได้ และเป็นประโยชน์ ก็อาจจะปล่อยให้เขาพิจารณา หรือให้การสนับสนุนเขาไปได้ ท่านแนะนำอย่างนี้ นายอภิสิทธิ์ปรากฏว่ารับคำแนะนำแล้วเป็นยังไงครับ ปรากฏมาถึงเอาเข้าจริง เขาขอให้อะไรมา มันให้เขาทุกอย่างครับ แล้วไอ้ที่คัดค้าน ไอ้ที่ติง ก็ติงพอเป็นพิธี ไม่มีสักข้อที่ปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้หลักผู้ใหญ่ แม้แต่ข้อเดียวครับ มันถึงเป็นอย่างนี้

เพราะฉะนั้นวันนี้ พี่น้องครับ ระบอบอภิสิทธิ์จึงได้ยิ่งใหญ่ขึ้นมาโดยการอุ้มชูของนักการเมืองโกง และได้กระชับอำนาจเข้ามาอย่างเหนียวแน่น โดยพยายามไปดึงทหารมาเป็นพวก เป็นแนวร่วม ผ่านการประสานงานของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ส่วนมหาดไทย ใช้กลุ่มเนวิน กลุ่มชวรัตน์ ชาญวีรกูล ครอบงำกระทรวงมหาดไทยอย่างทั่วด้าน การแต่งตั้งผู้ว่าฯ แต่งตั้งนายอำเภอ เป็นไปตามโผของพรรคภูมิใจไทยทั้งนั้นครับ

ขณะเดียวกัน การแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจไปเป็นผู้บัญชาการภาค ไปเป็นผู้ดำรงตำแหน่งผู้บังคับการ หรือผู้กำกับการในจังหวัดต่างๆ ซึ่งกลไกที่จะช่วยการเลือกตั้ง และสามารถเอาชนะได้ดีที่สุดคือกลไกของมหาดไทย กับกลไกตำรวจ วันนี้นายอภิสิทธิ์ โดยผ่านการปฏิบัติการของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ จับมือกับเนวิน จับมือกับ พล.อ.ประวิตร ได้กระชับอำนาจโดยเอาทหาร ข้าราชการ ตำรวจ พวกนี้ รวมทั้งข้าราชการมหาดไทย มาเป็นพวก เป็นเครื่องมือ ใครไม่ช่วย รับรองครับ นี่คือการเมืองในระบอบอภิสิทธิ์ ก็ไม่แตกต่างจากระบอบทักษิณ ใช่มั้ยครับ

ในสมัยทักษิณก็ใช้วิธีนี้ กลไกที่ใช้โกงการเลือกตั้งที่ทรงประสิทธิภาพที่สุด คือตำรวจ คือข้าราชการมหาดไทย คือครู และข้าราชการกระทรวงสาธารณสุข พวก อสม.หัวคะแนนชั้นดีเลยครับ แล้วก็ทหาร

พี่น้องครับ วันนี้กลไกพวกนี้ทักษิณใช้มาหมดแล้ว ที่ได้คะแนนถล่มทลาย 200 กว่าเสียง เกือบจะได้เสียงข้างมาก มากกว่า 300 เสียงด้วยซ้ำไป เขาใช้กลไกนี้ ขณะนี้กลไกนี้อยู่กับรัฐบาลนายอภิสิทธิ์หมดครับ กระทรวงสาธารณสุขใครคุม กระทรวงศึกษาฯ ใครคุม ประชาธิปัตย์ใช่มั้ยครับ สาธารณสุข กับกระทรวงศึกษาฯ นี่ตัวดี ในการเป็นหัวคะแนนและช่วยโกงเลือกตั้ง ผมจะบอกให้ครับ

มหาดไทย ข้าราชการมหาดไทย ผู้ว่าฯ ปลัด นายอำเภอ อบต. อบจ. คุม องค์กรปกครองท้องถิ่น คือมหาดไทย ตำรวจ ขึ้นกับรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง สุเทพ ทหารขึ้นกับฝ่ายประชาธิปัตย์โดยตรง เพราะ พล.อ.ประวิตร มาเป็นรัฐมนตรีฯ กลาโหมในโควต้าของพรรคประชาธิปัตย์ครับ

เพราะฉะนั้นการเลือกตั้งครั้งนี้ทำไมนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ถึงมั่นใจว่าตัวเองจะได้เสียงมากกว่า 200 เสียง ผมก็บอกว่า ถ้ามันเป็นการเลือกตั้งโดยไม่ใช้การโกง ไม่ใช้กลไกอำนาจข้าราชการมาช่วยในการเลือกตั้งแล้ว ไม่มีวันที่จะชนะ เพราะตามประวัติศาสตร์ของพรรคประชาธิปัตย์ เลือกตั้งคราวใดก็แพ้ เป็นรัฐบาลไม่เคยเลือกตั้งชนะ นี่เป็นสถิติอยู่แล้ว

และถ้าดูจากผลงานในการบริหารประเทศ รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ล้มเหลวในการบริหารประเทศทุกด้าน เพราะฉะนั้นโอกาสที่คะแนนจะแลนด์สไลด์ ถล่มทลาย มาเลือกนายอภิสิทธิ์นั้น ฝันซะเถอะครับ ไม่มีทางที่จะเป็นไปได้ แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจก็ล้มเหลว ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นก็ล้มเหลว ปัญหาเสียชาติ เสียแผ่นดิน เสียเอกราช ก็ทำอะไรไม่ได้ ปล่อยให้เขมรมารุกรานแผ่นดินไทย การทุจริตคอร์รัปชั่น ปล่อยปละละเลย ไม่เคยเอาใจใส่ ทุกเรื่องเขาล้มเหลวหมด แล้วเขาจะเอาความนิยมจากอะไร ใช่มั้ยครับ เพราะไม่มีผลงานที่โดดเด่นในระหว่าง 2 ปีกว่าที่เป็นรัฐบาลเลย แม้แต่น้อย เมื่อเทียบกับรัฐบาลอื่นเขา ที่สำคัญ ยังมาเจอกระแสรณรงค์โหวตโนของพวกเราเข้าไปอีก

ดังนั้นการเลือกตั้งครั้งนี้ มันจึงเป็นการเลือกตั้งมันจึงเป็นการเลือกตั้งของกลุ่มอำนาจที่อยู่ในอำนาจขณะนี้ ที่นำโดยมาร์ค เนวิน สุเทพ ประวิตร บรรหาร สุวัจน์ แก๊งนี้ครับ แก๊งนี้มียุทธศาสตร์อย่างเดียวว่า ทำยังไงให้ประชาธิปัตย์ + ภูมิใจไทย และ+ 5 รัฐบาล ให้ได้เสียงมากกว่าพรรคเพื่อไทย ที่จะไปรวมพรรคอื่นมา แล้วถ้าพรรคเพื่อไทยได้ไม่เกิน 251 ก็ทำให้พรรคเพื่อไทยไม่สามารถที่จะมาร่วม ดึงพรรคร่วมรัฐบาลไปเป็นคะแนน เป็นฐานให้เป็นรัฐบาลได้ ถ้าพรรคเพื่อไทยจะสามารถเป็นรัฐบาลได้ ต้องมาประมูลซื้อเอาคะแนนเสียงจาก 5 พรรคร่วมรัฐบาล ต้องดึงบรรหาร ดึงสุวัจน์ ไปร่วมจึงจะสามารถรวมเสียงได้มากกว่า ใช่มั้ยครับ

ดังนั้นการเลือกตั้งครั้งนี้มันจึงเป็นการเดิมพันกันระหว่างใครล่ะ ฝ่ายอภิสิทธิ์ วันนี้ 1. ต้องรักษาอำนาจเอาไว้ ใช่มั้ยครับ เพราะเป็นรัฐบาลและมีอำนาจอยู่แล้ว ต้องรักษาอำนาจเอาไว้ ก็อยากเป็นรัฐบาลต่อไป เพราะถ้าไม่ได้เป็นรัฐบาลต่อไป รับรองครับ ถูกแก้แค้น เอาคืนอย่างหนักแน่นอนครับ ทำไมถึงต้องถูกแก้แค้นเอาคืน เพราะไปปล้นคนเขามา นี่ 1

2. ในระหว่างเป็นรัฐบาล รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ได้ใช้กลไกของทหารไปปราบปรามการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง และทำให้คนเสื้อแดงบาดเจ็บล้มตายไป 90 กว่าศพ แล้วทหารก็ตาย ก็บาดเจ็บไปไม่น้อย เป็นเครื่องมือค้ำจุนอำนาจของรัฐบาล ใช่มั้ยครับ

ถ้าเกิดอีกฝ่ายหนึ่งมาเอาคืนล่ะ อันที่ 3 ก็คือข้าราชการที่เคยได้ดิบได้ดีในระบอบทักษิณ วันนี้ถูกอภิสิทธิ์ย้ายออกไปแล้วเอาคนของตัวเองเข้ามาแทนหมด

4. ขณะนี้ทักษิณกำลังถูกตามล้างตามเช็ด ด้วยเรื่องอะไรครับ ผลจากการที่ศาลมีคำสั่งให้ยึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้าน เรื่องสัญญาสัมปทานดาวเทียม เรื่องการผิดสัญญา เรื่องโทรศัพท์มือถือ เรื่องการไม่จ่ายค่าสัมปทาน โดยเอาภาษีสรรพสามิตมาทดแทน ทุกอย่างจะถูกเรียกเก็บคืนหมดครับ เพราะฝ่ายนี้ก็ต้องตัดกำลังไม่ให้ทักษิณมีกำลังที่จะมาฟื้นอำนาจคืน

นี่คือการทำการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ และพวก ขณะนี้ก็คือ ต้องรักษาอำนาจของตัวเองไว้ให้ได้ จึงต้องทำทุกวิถีทางให้ชนะในการเลือกตั้ง แล้วถ้าทำทุกวิถีทาง พี่น้องก็นึกเอาแล้วกันว่าเขาก็รู้ว่าทักษิณทำอย่างไร แล้วทางฝ่ายนี้จะทำอย่างไรจึงจะชนะเขา ผมเชื่อแน่ว่า ไอ้ที่ผ่านมา ที่ไม่โกง ไม่ซื้อเสียง หาเสียงโดยสุจริต ใช้นโยบาย นะ รับรองครับ คนที่เป็นรัฐบาลก็อย่าไว้วางใจ มันไม่มีวิธีอื่นใดที่จะไปชนะฝั่งโน้น นอกจากต้องใช้เครื่องมือเหล่านี้เอาชนะในทางการเมืองและการเลือกตั้งเท่านั้นครับ

ส่วนไอ้ปีกฝ่ายทักษิณล่ะ ฝ่ายทักษิณ เวลานี้ใช้การเลือกตั้งนี้เป็นเดิมพันอำนาจสูงสุด เพราะถ้าทักษิณไม่สามารถเลือกตั้งชนะ ไม่สามารถกลับมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล นี่ก็เป็นโอกาสที่จะต้องยิ่งจะทำให้กำลังของกลุ่มทักษิณอ่อนกำลังลง ใช่มั้ยครับ ทักษิณจึงต้องทุ่มสุดกำลังในการให้ได้ชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ ถ้าได้ 251 เสียงขึ้นไป นั่นคือความชอบธรรมที่เขาจะเป็นแกนจัดตั้งรัฐบาล ใช่มั้ยครับ การจะทำให้ได้ 251 เสียงนั้น พรรคเพื่อไทยและทักษิณมีเดิมพันสูงครับ พี่น้อง เขาสู้มาแล้ว ในระหว่างที่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์เป็นรัฐบาล ปีกฝ่ายทักษิณได้บัญชาการรบสู้กับพรรคประชาธิปัตย์ และรัฐบาลอภิสิทธิ์มาแล้ว ครั้งหนึ่ง 10 เมษายน ใช่มั้ยครับ เกิดจลาจลเผาบ้านเผาเมืองรอบแรกไปแล้ว

ครั้งที่สอง 19 พฤษภาฯ นี่ก็เผาบ้านเผาเมืองรอบ 2 ไปแล้ว ทักษิณทุ่มเทไปเพื่อการต่อสู้ครั้งนี้ผมว่าหลายพันล้าน เผลอๆ อาจจะเกือบหมื่นล้านครับ เพื่อล้มอำนาจของระบอบอภิสิทธิ์ ทำไมทักษิณถึงต้องการล้มอำนาจระบอบอภิสิทธิ์ เพราะระบอบอภิสิทธิ์ไปปล้นอำนาจมาจากระบอบทักษิณ ใช่มั้ยครับ แต่ทำมาแล้ว 2 ครั้ง เขาล้มเหลว ไม่ประสบความสำเร็จ

วันนี้การต่อสู้และการสู้รบมันมาเผชิญหน้ากันอยู่ที่สนามเลือกตั้งครั้งนี้ครับ เลือกตั้งครั้งนี้จึงเป็นเดิมพันสูงสุดที่ทักษิณต้องทุ่มเพื่อเอาชนะให้ได้ ใช่มั้ยครับ

เพราะอะไรครับ เพราะถ้าทักษิณไม่มีโอกาสกลับมาเป็นรัฐบาล เขาก็ไม่มีโอกาสที่จะทวงทรัพย์สินที่ถูกยึดอยู่ขณะนี้คืนได้ ใช่มั้ยครับ แล้ว 2. เขาก็ไม่มีโอกาสที่จะกลับมาประเทศไทย เพราะถ้าเขาได้เสียงข้างมาก เขาก็มีโอกาสที่จะออกกฎหมายมานิรโทษฯ ความผิดของเขา เพื่อให้เขากลับมาเป็นรัฐบาล และให้เขากลับมาอยู่เมืองไทยได้โดยไม่ต้องจำคุก ไม่ต้องรับโทษ จากการกระทำของตัวเองใช่มั้ยครับ และ 3. ถ้าเขาไม่เอาชนะการเมืองการเลือกตั้งครั้งนี้ได พวกของเขา กลุ่มคนเสื้อแดง และฐานทางการเมืองของเขาก็อาจจะถูกตีแตก ถูกพรรคฝ่ายรัฐบาลดูดเอาไปอีก ก็ยิ่งจะอ่อนกำลังลง และสูญเสียความเชื่อมั่น และยิ่งจะทำให้ฐานมวลชนของเขาร่อยหรอลง เป้าหมายทางการเมืองของเขา โอกาสที่จะประสบความสำเร็จก็ยิ่งใหญ่ห่างไกลไปอีก เขาจึงต้องทุ่มเทในการเลือกตั้งครั้งนี้อย่างถึงที่สุด และต้องทำทุกวิถีทางให้ชนะรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ครับ

พี่น้องเห็นหรือยังครับว่า เมื่อพี่น้องมองภาพทั้งสองด้านอย่างนี้แล้ว การต่อสู้ทางการเมือง การเลือกตั้งครั้งนี้ มันไม่ใช่นายอภิสิทธิ์ มาสู้กับยิ่งลักษณ์ อย่างที่นายแหลพูด ใช่มั้ยครับ มันเป็นเรื่องกลุ่มอำนาจของนายสุเทพ ประวิตร สุวัจน์ บรรหาร เนวิน พวกนี้ ก๊กนี้ โดยมีนายอภิสิทธิ์เป็นเพียงหุ่นเชิด สู้กับปีกฝ่ายของระบอบทักษิณ เพราะทุกคนในพรรคเพื่อไทย และกลุ่มกระบวนการฝ่ายนี้ มีทักษิรเป็นผู้บัญชาการและเป็นผู้นำ ใช่มั้ยครับ

ในปีกฝ่ายนี้เขาก็มีกำลัง มีนายทหารรุ่น 10 จปร.10 ซึ่งยังทำงานรับใช้ทักษิณอยู่ มีอดีตข้าราชการ มีข้าราชการในปัจจุบัน และตำรวจ ที่ยังจงรักภักดีกับระบอบทักษิณอยู่ และมีนักธุรกิจ มีข้าราชการ ที่ยังมีผลประโยชน์เกี่ยวข้อง และเชื่อว่าทักษิณจะมีโอกาสกลับมาชนะ เขาก็ยังเข้าข้างฝ่ายทักษิณอยู่ แม้กระทั่งในหน่วยการเลือกตั้ง หรือกระทรวงมหาดไทย คนของทักษิณก็แฝงอยู่ในทุกหน่วยและกรมกองครับ รวมทั้งทหารตำรวจด้วยเช่นกัน

ผมถึงบอกว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มันจะปะทะกัน และต่อสู้กันอย่างรุนแรงที่สุด เพราะทั้งสองฝ่ายมีเดิมพันสูง แพ้ไม่ได้ทั้งสองฝ่าย ความรุนแรงและการเอาชนะกันทุกวิถีทางมันย่อมเกิดขึ้นใช่มั้ยครับ นี่ดูตามข้อเท็จจริง

ฝ่ายนี้ ทั้งสุเทพ ทั้งเนวิน ทั้งบรรหาร ทั้งสุวัจน์ ทั้งประวิตร ธรรมดาเสียเมื่อไรในการเลือกตั้ง ในการที่จะใช้กลโกงกลเกมในการที่จะเอาชนะฝ่ายโน้น ฝ่ายโน้นก็ไม่ธรรมดา มีคนในทีมงานของเขาเพียบพร้อมหมดเช่นกัน มันไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ การเลือกตั้งครั้งนี้จึงจะเป็นการปะทะกันครั้งสำคัญเพื่อช่วงชิงอำนาจรัฐเท่านั้นครับ

ที่ผมพูดมาทั้งหมดนี้ก็เพื่อมาถึงข้อสรุปให้พี่น้องรับฟังว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ 1. มันไม่ใช่การสู้กันระหว่างอภิสิทธิ์-ยิ่งลักษณ์ 2. การเลือกตั้งครั้งนี้มันชี้ให้เห็นว่า ความรุนแรงและความไม่สงบเรียร้อยในบ้านเมือง 5-6 ปีที่ผ่านมา ที่นายอภิสิทธิ์บอกว่ามันเกิดจากปัญหาการชุมนุมนอกสภานั่นล่ะครับ การเมืองนอกสภา และการชุมนุมประท้วงนั้น มันเป็นการบิดเบือน มันเป็นการโกหก มันเป็นการใส่ร้าย และมันเป็นการกลบเกลื่อนข้อเท็จจริงเพื่อให้ประชาชนเข้าใจผิดอย่างหน้าด้านๆ ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

ความเป็นจริงแล้ว ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ที่บ้านเมืองมันไม่สงบ บ้านเมืองมันวุ่นวาย บ้านเมืองมันมีการปะทะ มีการเสียชีวิต มีการจลาจล มีการเผาบ้านเผาเมืองนั้น พี่น้องที่มีใจเป็นธรรม คิดให้ดีสิครับ มันเป็นเรื่องสู้กันระหว่างเสื้อเหลืองกับเสื้อแดงหรือเปล่า มันเป็นเรื่องของการชุมนุมของพวกเราหรือเปล่า แต่แท้ที่จริงแล้ว มันเป็นการสู้กันระหว่างระบอบอภิสิทธิ์ กับระบอบทักษิณ สู้กันอย่างเอาเป็นเอาตายมาตลอด 5 ปีที่ผ่านมาครับ

พวกเราอาจจะมีส่วนร่วมในช่วงแรก เพราะเราเป็นการชุมนุมขับไล่รัฐบาลทักษิณ แต่การชุมนุมของพวกเรา นายอภิสิทธิ์จะมาอ้างว่าเป็นการชุมนุมที่ทำให้บ้านเมืองไม่สงบ ไม่ได้ ใช่มั้ยครับ เพราะอะไรครับ เพราะการชุมนุมของพี่น้องพันธมิตรฯ 193 วันนั้น เป็นการชุมนุมต่อสู้ขับไล่รัฐบาลโกง รัฐบาลทุจริต รัฐบาลขายชาติ รัฐบาลเผด็จการของระบอบทักษิณ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติโดยส่วนรวม จึงเป็นการต่อสู้ที่ถูกต้องและชอบธรรม รักษาผลประโยชน์ของบ้านเมือง และถ้าไม่มีการชุมนุมของพวกเรา มันจะมีนายกฯ ที่ชื่อนายแหล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เหรอครับ

แน่นอน ในเวลานั้นมันเป็นการเผชิญหน้าระหว่างเรากับทักษิณ และระบอบทักษิณจริง ทักษิณก็ไปตั้งกลุ่มคนเสื้อแดงขึ้นมา และคนที่ตั้งกลุ่มคนเสื้อแดงขึ้นมาก็คือไอ้ห้อย ไอ้โหน ที่มันมาอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ และมาร่วมรัฐบาลวันนี้ ใช่มั้ยครับ ก็คือคนนี้ที่เป็นคนไปตั้งกลุ่มคนเสื้อแดงขึ้นมา แล้วไปชุมนุมที่สวนจตุจักร ไปบุกตึกเนชั่น เอาคนมาปะทะทุบตีทำร้ายการชุมนุมของพี่น้องพันธมิตรฯ ก็มาจากกลุ่มคนเหล่านี้ แต่เหตุการณ์วันนั้นมันก็สงบไปแล้ว และทักษิณก็พ้นจากอำนาจไปแล้ว จึงทำให้บ้านเมืองกลับคืนสู่ความสงบ มันถึงทำให้เกิดกลุ่มโจรกลุ่มใหม่เกิดขึ้น ใช่มั้ยครับ

คำถามก็คือ แล้วจากวันนั้น วันที่คุณขึ้นมาเป็นนายกฯ ความขัดแย้งมันไม่ใช่เหลืองกับแดงแล้วครับ มันเป็นความขัดแย้งระหว่างแดงกับสีน้ำเงิน และสีฟ้า คือความขัดแย้งระหว่างกลุ่มสีน้ำเงิน ที่นายเนวินเป็นคนสนับสนุนจัดตั้งขึ้นมา เพื่อมาก่อกวนการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง และการดำเนินงานของนายเนวิน ก็อยู่ภายใต้ความรู้เห็นของนายสุเทพ และนายอภิสิทธิ์ ทุกประการ

ในระหว่างการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง 19 พฤษภาฯ ที่เกิดเหตุรุนแรง รัฐบาลนายอภิสิทธิ์พยายามจะมาเข็น ส่งคนมาติดต่อ ส่งคนมาให้กลุ่มคนเสื้อเหลืองและพี่น้องพันธมิตรฯ ออกไปช่วยเขา แต่พวกเราไม่ยอมตกเป็นเครื่องมือและไม่ยอมออกไป ใช่มั้ยครับ จึงได้เกิดกลุ่มคนหลากสีขึ้นมา กลุ่มคนหลากสีเกิดจากการดำเนินงานของคนของพรรคประชาธิปัตย์ ใช่มั้ยครับพี่น้อง

เพราะฉะนั้นที่นายอภิสิทธิ์มาบอกว่าบ้านเมืองมันไม่สงบ วุ่นวาย เพราะการเมืองนอกสภา การชุมนุมนอกสภานั้น มันไม่สงบ มันวุ่นวาย ด้วยการเมืองนอกสภา ก็โดยฝีมือการยุยงส่งเสริมและการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ กับเนวิน สมคบกัน ปะทะกับกลุ่มคนเสื้อแดง

เพราะฉะนั้นตั้งแต่การชุมนุมที่ล้มการประชุมอาเซียน กลุ่มเสื้อสีน้ำเงินปะทะกับกลุ่มคนเสื้อแดง ใช่มั้ยครับ ไม่เกี่ยวกับเราเลย การชุมนุมวันที่ 19 พฤษภาฯ ที่เกิดเหตุยิงกันตาย จลาจล ก็ผสมโรงระหว่างกลุ่มคนเสื้อแดงกับกลุ่มคนเสื้อน้ำเงินใส่กันเอง ระหว่างรัฐบาลกับกลุ่มคนเสื้อแดง ไม่เกี่ยวกับพวกเราเลย ใช่มั้ยครับ พวกเราต่างหากที่อยู่เฉยๆ กลับโดนลูกหลงไปต่างหาก เราไม่ได้มีส่วนทำให้บ้านเมืองจลาจลวุ่นวายเลย ความไม่สงบ วุ่นวาย ตลอดเวลาที่เกิดขึ้น เกิดจากการบริหารบ้านเมืองที่ล้มเหลวของนายอภิสิทธิ์ กับปะทะกับระบอบทักษิณ บ้านเมืองจึงลุกเป็นไฟ ไม่ใช่พวกเราแม้แต่น้อยครับ

และที่มันเลวร้ายที่สุด พี่น้องประชาชนที่เคารพรักครับ และบรรดาท่านทหารหาญที่เคารพรัก ท่านรู้มั้ยครับ วันนี้ภายใต้การบริหารงานของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายอภิสิทธิ์ได้ดึงเอาทหารและดึงเอากองทัพไปเผชิญหน้ากับคนเสื้อแดง โดยฝีมือบริหารของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เอาทหารไปเผชิญหน้าทางการเมือง ไปเป็นเครื่องมือปราบจลาจลทางการเมือง ไปเป็นเครื่องมือในการค้ำบัลลังก์รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ทหารบาดเจ็บล้มตายนับร้อยนับพัน เพียงเพื่อปกป้องรัฐบาลแหลโกหกและบริหารไม่เป็น

ทหารหาญพึงจะสำนึกว่าเหตุการณ์วุ่นวายทางการเมืองที่เกิดขึ้นนั้น มันมาจากรัฐบาลเลว กับฝ่ายค้าน ที่นำโดยกลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง ที่ต้องการล้มรัฐบาลนี้และก็ปะทะกัน ไม่ได้เกี่ยวกับการชุมนุมของพี่น้องพันธมิตรฯ แม้แต่น้อยเลย เราชุมนุมทุกวันนี้ก็ไม่มีเหตุรุนแรงใช่มั้ยครับ

เพราะฉะนั้นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พูดแบบนี้มันก็ไม่ต่างวาทกรรมของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ไปพูดที่ชุมพร หรือพูดลับหลังกับพี่น้องประชาชนหลายครั้งว่าบ้านเมืองที่วุ่นวายอยู่ขณะนี้เพราะเหลืองกับแดง มันบิดเบือน แล้วที่นายอภิสิทธิ์พูดแบบนี้ในเวทีสัมมนาผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์ ก็เพื่อจะโยนความผิดมาให้ประชาชนผู้ชุมนุม โดยไม่แยกแยะว่าการชุมนุมแบบไหนเป็นการชุมนุมเพื่อประโยชน์ของบ้านเมือง การชุมนุมแบบไหนเป็นไปเพื่อปกป้องชาติ ปกป้องเอกราช อธิปไตย มันตีความว่าผู้ชุมนุมเป็นผู้ก่อปัญหาวุ่นวายในบ้านเมืองไปหมดทุกกลุ่ม โดยไม่แยกแยะ นี่คือความเลวและการบิดเบือนของนักการเมืองครับ

ผมถึงบอกว่านักการเมือง คนแบบนายอภิสิทธิ์ เป็นคนที่พูดเอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น อะไรที่จะเป็นประโยชน์กับตัวเอง เขาก็จะพูด และก็อาศัยความหน้าหล่อ อาศัยความมีชาติตระกูลมาหน้าด้านหลอกประชาชนส่วนใหญ่ให้คล้อยตามและหลงเชื่อ แต่แท้ที่จริงแล้วเป็นนักการเมืองที่ไม่มีความรับผิดชอบ เห็นแก่ตัว หน้าด้าน และบิดเบือนอย่างไร้ยางอายที่สุด

ผมถึงอยากจะกราบเรียนพี่น้อง ที่จะมาพูดวันนี้ก็คือว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มันไม่ใช่การเลือกตั้งที่สู้กันระหว่างยิ่งลักษณ์ กับอภิสิทธิ์ มันเป็นการสู้กันระหว่างระบอบทักษิณ กับระบอบอภิสิทธิ์ ปะทะกัน ชิงอำนาจกัน แล้วที่สำคัญ พี่น้องครับ ไอ้สองฝ่ายที่มาชิงอำนาจกันเนี่ย มันเลวทั้งคู่อีกต่างหากครับ

ไม่มีฝ่ายไหนเป็นตัวเลือกที่ดีให้กับประชาชนเลย ไม่ว่าใครเข้ามาก็โกง และปล้นบ้านกินเมือง เหมือนกันหมด ไม่มีผิด เพราะฉะนั้นคุณอภิสิทธิ์ครับ การเลือกตั้งวันนี้ มันเป็นทางเลือก ทางออกอะไรให้ประชาชน มันก็เป็นทางเลือกเพียงคุณจะเอากลุ่มโกงกลุ่มนี้ หรือจะเอากลุ่มโกงกลุ่มนี้ คุณจะเอานักการเมืองประเภทเลวแบบนี้ หรือจะเอาเลวแบบนี้ เท่านั้นเองครับ ไม่มีอะไรเป็นทางเลือกให้กับประชาชนเลยแม้แต่น้อย

คุณอย่ามาพยายามมาบิดเบือนและใส่ร้ายประชาชน ผมคิดว่าทุกอย่างที่นายอภิสิทธิ์ทำอยู่ในขณะนี้ รัฐบาลที่ทำอยู่ในขณะนี้ เป็นการบิดเบือนใส่ร้ายประชาชนพี่น้องพันธมิตรฯ และเป็นการไม่สำนึกบุญคุณประชาชน ถ้าไม่มีการชุมนุมแบบนี้ ป่านนี้บ้านเมืองไม่รู้ไปถึงไหนแล้ว ใช่มั้ยครับ ระบอบทักษิณไม่รู้ไปถึงไหนแล้ว บ้านเมืองอาจจะเปลี่ยนไปแบบหน้ามือเป็นหลังมือ โดยที่เราคาดคิดไม่ถึง เราอาจจะเสียใจมากกว่านี้ด้วยซ้ำไป

แต่วันนี้เมื่อคุณได้รับโอกาสจากพี่น้องประชาชนให้มาเป็นนายกฯ มาเป็นรัฐบาลแล้ว คำถามก็คือ คุณทำอะไรที่เป็นการสร้างชาติ สร้างการเมืองที่ดีให้กับประชาชนบ้าง มีมั้ย นอกจากมารักษาระบอบการเมืองเลว สามานย์และทุจริตคดโกงเอาไว้ ดังนั้นคำที่ว่าคุณเป็นพรรคการเมืองอาชีพ ผมจึงอยากจะถามว่า คุณมีอาชีพอะไร พรรคการเมืองมีอาชีพอะไร ใช่มั้ย

การเป็นอาชีพนั้น อาชีพเขาใช้สำหรับคนที่ประกอบสัมมาอาชีพ ผมทำอาชีพทนายความ คุณทำอาชีพแพทย์ วิศวกร ค้าขาย หรือทำอาชีพสุจริตต่างๆ เขาเรียกสัมมาอาชีพ อย่างนั้นเรียกว่าเป็นอาชีพได้ แต่การที่คุณเป็นพรรคการเมืองแล้วมาเสนอตัวให้ประชาชนเลือกตั้งนั้น คำว่าเป็นพรรคการเมืองอาชีพ ก็คืออาชีพรักษาอาชีพนักการเมืองโกงนักการเมืองทุจริตเท่านั้นครับ

ถ้าคุณเป็นนักการเมืองอาชีพ คุณช่วยบอกหน่อยสิว่าผลงานในการบริหารในทางการเมืองของคุณที่แสดงออกถึงการสร้างชาติ สร้างการเมืองที่เจริญก้าวหน้า สร้างประเทศ และนำพาสังคมให้ก้าวไปสู่ความก้าวหน้านั้น มีอะไรบ้าง คุณมีอาชีพอย่างเดียว คือแก้เกมการเมือง ใส่ร้ายผู้อื่น ทำลายคู่แข่งขัน แล้วก็หาเล่ห์เหลี่ยม หาคำพูดใส่ร้ายใส่ไคล้ ป้ายสีทำลายผู้อื่น เพียงเพื่อจะให้ได้ชัยชนะในการเลือกตั้งเท่านั้น อาชีพของคุณก็คืออาชีพรักษาอำนาจอันสกปรกและไม่ชอบธรรมเท่านั้นเอง คุณมีอาชีพอะไร

เพราะฉะนั้นผมถึงบอกว่าความเป็นนักการเมืองอาชีพ ความเป็นพรรคการเมืองอาชีพนั้น มันจึงเป็นเรื่องเหลวไหล พรรคการเมือง นักการเมือง มีหน้าที่ทำงานให้ประเทศชาติให้ประชาชื่นชม แต่คุณทำงานให้พรรคร่วมรัฐบาลมีความสุขและมีความชื่นชม ทำให้ทุกพรรคที่เคยได้เคยกินเคยโกงอย่างไร ได้เหมือนเดิม เมื่อมาร่วมรัฐบาลกับคุณ นี่หรือคืออาชีพพรรคการเมืองอย่างคุณที่ตั้งมา 60 กว่าปี

มันไม่มีอาชีพอะไรเลยนะครับ นอกจากอาชีพแหล และอาชีพบิดเบือนใส่ร้ายประชาชน โกหกไปวันๆ เท่านั้นเอง นี่หรือคือความเป็นอาชีพของพรรคการเมือง

พี่น้องครับ ที่พูดมาทั้งหมดนี้ ก็เพื่อจะชี้ให้พี่น้องเห็นว่าการเมืองการเลือกตั้งครั้งนี้มันเป็นการเมือง การเลือกตั้ง ที่ไร้อนาคต ไร้ทางออกสำหรับบ้านเมือง และเป็นการเมืองการเลือกตั้งที่เป็นการสู้กันระหว่าง 2 ขั้วอำนาจที่เลวร้ายทั้งสองขั้ว ที่เป็นอันตรายต่อประชาธิปไตย และเป็นอันตรายต่อชาติบ้านเมืองทั้ง 2 ขั้วครัว ไม่ว่าใครมาเราก็ไม่ต้อนรับและเราก็ไม่ต้องการทั้งนั้น เราจึง (โหวตโน) เราจึง (โหวตโน) เราจึง (โหวตโน) นี่คือการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุดครับ

เอาล่ะครับพี่น้อง ก่อนจะจบ มีพี่น้องมิตรรักแฟนเพลงในรายการของผม ท่านเขียนบทกลอนมาให้กำลังใจและก็เป็นเพลงที่ผมชอบ ผมอยากจะให้พี่น้องได้ฟังและร้องร่วมกันปิดท้ายรายการ เพราะสนธิร้องหนักแผ่นดิน ผมก็จะร้องอีกเพลงที่ดูจะคลาสสิคกว่า

คนที่เขียนบทกลอนบทนี้มา และส่งเพลงนี้มาให้ฟังและร้องร่วมกันเป็นเพลงที่โดนใจผม นะครับ ชอบ คุณบุปผาเจ้าเก่านะครับ ซึ่งเป็นคนที่เขียนบทกวีได้ดีมาก เธอเขียนว่า ท่านกลัวว่าผมจะท้อ กลัวว่าพี่น้องประชาชนจะท้อ เราไม่ท้อใช่มั้ยครับ ท่านเขียนมาว่าอย่างนี้

เธออย่าท้อทิ้งขว้างหนทางฝัน
เราฝ่าฟันมาไกลด้วยใจหมาย
ไกลเกินกว่าจะหยุดเพียงเสียงทักทาย
จะเคียงกายคล้องใจไปด้วยกัน

มันสอดคล้องกับเพลงนี้ ชื่อว่าเพลง If We Hold On Together ฟังแล้วร้องด้วยกันครับ มีคาราโอเกะบนจอด้วย ไม่รู้ฝ่ายทีมงานเปิดได้มั้ยครับ

(เพลง : If We Hold on Together)

จับมือกัน ไปด้วยกัน สู้/ไม่สู้ (สู้ๆ ) ขอบคุณมากนะครับ สวัสดีครับ
“ประพันธ์” คาดเลือกตั้งครั้งนี้เลวร้ายที่สุดในทุกด้าน ย้ำ “โหวตโน” คือทางออก
“ประพันธ์” คาดเลือกตั้งครั้งนี้เลวร้ายที่สุดในทุกด้าน ย้ำ “โหวตโน” คือทางออก
ประพันธ์ คาดการเลือกตั้งครั้งนี้ รุนแรงสุด - โกงสุด - ทำลายสถาบันฯมากสุด ชี้มีแต่ตัวเลือกที่เลวที่สุด ระหว่าง หน้าหล่อ - หน้าเหลี่ยม ประเทศชาติจะเสียหายหนัก ย้ำ โหวตโน คือแสงสว่าง ขอให้เชื่อมั่นว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับประเทศไทย ประพันธ์ คาดการเลือกตั้งครั้งนี้ รุนแรงสุด - โกงสุด - ทำลายสถาบันฯมากสุด ชี้มีแต่ตัวเลือกที่เลวที่สุด ระหว่าง หน้าหล่อ - หน้าเหลี่ยม ประเทศชาติจะเสียหายหนัก ย้ำ โหวตโน คือแสงสว่าง ขอให้เชื่อมั่นว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับประเทศไทย
กำลังโหลดความคิดเห็น