ข้าราชการกระทรวงมหาดไทย ฟ้องศาลปกครอง เพิกถอนคำสั่ง “มงคล” แต่งตั้งนายอำเภอ ระบุไม่มีอำนาจ หลัง ก.พ.ค.วินิจฉัยให้คืนตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครองแก่ “วงศ์ศักดิ์”
ที่สำนักงานศาลปกครอง ถ.แจ้งวัฒนะ วันนี้ (9 พ.ค.) นายวิเชียร ชิดชนกนารถ นักวิชาการคอมพิวเตอร์ ชำนาญการพิเศษส่วนบริหารและพัฒนาเทคโนโลยีการทะเบียน สำนักบริการการทะเบียน ปฏิบัติหน้าที่ ผอ.ส่วนบริหารและพัฒนาเทคโนโลยีการทะเบียน กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ฟ้องคดี ยื่นฟ้องนายมงคล สุรัจสัจจะ อธิบดีกรมการปกครอง และนายวิเชียร ชวลิต ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1-2 ต่อศาลปกครองกลาง ขอให้ศาลมีคำสั่งไต่สวนฉุกเฉินและขอให้ศาลกำหนดมาตรการหรือวิธีการเพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา เพื่อให้เพิกถอนคำสั่งกรมการปกครอง ที่ 450/2554 ลงวันที่ 4 พ.ค.54 เรื่องย้ายข้าราชการ ซึ่งเป็นข้าราชการตำแหน่งนายอำเภอ (ผอ.ระดับต้น) และข้าราชการส่วนกลางตำแหน่ง ผอ.ส่วน (นักวิชาการชำนาญพิเศษ)
เนื่องจากเห็นว่านายมงคลไม่ได้อยู่ในสถานะอธิบดรกรมการปกครองและไม่มีอำนาจออกคำสั่งหรือลงนามในคำสั่งใดๆ ในฐานะอธิบดีกรมการปกครองจึงไม่มีอำนาจออกคำสั่งดังกล่าวตามคำวินิจฉัยของคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) ที่มีคำวินิจฉัยให้คืนตำแหน่งอธิบดรกรมการปกครองให้แก่นายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทยที่มีผลตั้งแต่วันที่ 27 เม.ย.53
นายวิเชียรกล่าวว่า การยื่นฟ้องในครั้งนี้เนื่องจากตนได้รับคำสั่งย้ายตนไปดำรงตำแหน่งนักวิชาการคอมพิวเตอร์ชำนาญการพิเศษศูนย์เทคโนโลยีการฝึกอบรม วิทยาลัยกรมการปกครอง ปฏิบัติหน้าที่รองอธิการวิทยาลัยกรมการปกครอง รวมทั้งข้าราชการในกรมการปกครองอีกจำนวน 208 ราย โดยมีคำสั่งให้เดินทางไปรับตำแหน่งใหม่และปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 18 พ.ค.นี้ ซึ่งตนในฐานะผู้ปฏิบัติยินดีในการทำงานทุกตำแหน่ง แต่เกิดความสับสนว่าใครเป็นผู้มีอำนาจในการออกคำสั่ง และเชื่อว่าทุกคนที่ได้รับคำสั่งดังกล่าวก็เกิดความสับสนเช่นกัน
เนื่องจากได้ติดตามข่าวก็ทราบว่าทาง ก.พ.ค.ได้มีคำวินิจฉัยให้คืนตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครองให้กับนายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ และขณะนี้ก็อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครอง ดังนั้น ความเข้าใจของตนก็ควรจะให้มีคำสั่งจากศาลปกครองออกมาก่อนจึงจะรู้ว่าอธิบดีกรมการปกครองคือใครกันแน่ จึงเดินทางมายื่นฟ้องต่อศาลปกครอง โดยขอฝากความหวังและเชื่อว่าจะได้รับความเป็นธรรม ทั้งนี้ตนไม่ได้ดำเนินการเพื่อส่วนตัว แต่ทำเพื่อส่วนร่วมให้เกิดความถูกต้องและให้งานในส่วนราชการมีความน่าเชื่อถือมากที่สุด
