xs
xsm
sm
md
lg

ก.พ.ค.ยันไม่ก้าวล่วงอำนาจ ครม.มติคืนเอ้าอี้อธิบดีให้ “วงศ์ศักดิ์”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศราวุธ เมนะเศวต  (แฟ้มภาพ)
“ก.พ.ค.” ยันมติคืนเก้าอี้อธิบดีกรมการปกครองให้ “วงศ์ศักดิ์” ไม่ก้าวล่วงอำนาจ ครม. และไม่ 2 มาตรฐาน ระบุทำตามอำนาจหน้าที่ทางกฎหมาย หากคำร้องสมบูรณ์ก็วินิจฉัยได้ทันที บอกไม่ติดใจ “มท.” ย้ำ ก.พ.ค.วินิจฉัยคนละส่วนกับ “ป.ป.ช.” ไม่มีผลต่อกัน

นายศราวุธ เมนะเศวต ประธานคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) แถลงชี้แจงภายหลังหารือในที่ประชุม ก.พ.ค.วันนี้ โดยได้นำประเด็นที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ได้พิจารณาเมื่อวันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา ในเรื่องของการคืนตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครอง นายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิพาณิชย์ ซึ่งได้มอบให้คณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอความเห็นเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของ ก.พ.ค. ซึ่งตามมาตรา 31 แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ให้อำนาจ ก.พ.ค. วินิจฉัย ได้ทั้งเรื่องอุทธรณ์และเรื่องร้องทุกข์ ซึ่งกรณีดังกล่าวนั้นเป็นเรื่องร้องทุกข์ที่มีต้นเหตุมาจากปลัดกระทรวงมหาดไทยที่ทำให้เกิดความคับข้องใจอันเนื่องมาจากการกระทำที่ไม่สุจริต หรือมีลักษณะที่เลือกปฏิบัติไม่เป็นธรรมหรือเป็นการใช้ดุลพินิจโดยมิชอบ ซึ่งกรณีย้ายผู้ร้องทุกข์ออกจากตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครองให้ไปดำรง ตำแหน่งผู้ตรวจราชการนั้น เรื่องดังกล่าวนี้ จึงอยู่ในอำนาจหน้าที่ของ ก.พ.ค.และเป็นไปตามเงื่อนไขที่รับพิจารณาไว้

นายศราวุธกล่าวว่า กรณีของนายวงศ์ศักดิ์นั้นเป็นการย้ายตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง ซึ่งเป็นอำนาจของปลัดกระทรวงได้ใช้ดุลพินิจแล้วนำเสนอต่อ ครม.พร้อมทั้งเหตุผลของการตัดสินใจดังกล่าว เพื่อให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดนำเสนอต่อ ครม. เพื่อพิจารณาอนุมัติหรือให้ความเห็นชอบตัวบุคคล ซึ่งหลังจากนั้นนายกรัฐมนตรีจึงนำความกราบบังคมทูลเพื่อโปรดเกล้าฯ ต่อไป และคำวินิจฉัยของ ก.พ.ค. จึงมีผลผูกพันต่อคู่กรณีในการร้องทุกข์ คือ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นต้นเหตุแห่งความคับข้องใจ เนื่องจากการกระทำที่ใช้ดุลพินิจโดยมิชอบในการออกคำสั่งโยกย้าย ซึ่งต่อมานายกรัฐมนตรีได้ออกประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้การโยกย้ายเป็นไปตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนด โดย ก.พ.ค.มิได้มีคำวินิจฉัยก้าวล่วงในส่วนอำนาจของครม.

“ก.พ.ค.ขอย้ำจุดยืนว่า การมี ก.พ.ค.เพื่อคุ้มครองระบบคุณธรรมและคุ้มครองการทำงานระหว่างข้าราชการประจำกับฝ่ายการเมือง ซึ่งฝ่ายการเมืองสามารถใช้อำนาจดุลพินิจโดยมีเหตุผล กรณีนี้ ก.พ.ค. มิได้ล่วงอำนาจดุลพินิจของรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรี แต่ได้วินิจฉัยนส่วนของกระบวนการในการโยกย้ายอธิบดีกรมการปกครอง”

นายศราวุธกล่าวว่า ก.พ.ค.ได้ใช้มาตรฐานเดียวกันกับอธิบดีกรมการปกครองในการวินิจฉัยเรื่องร้องทุกข์ กับอีกสองกรณีของกระทรวงมหาดไทย คือกรณีของนายพีระพล ไตรทศาวิทย์ และกรณีของนายสุกิจ เจริญรัตนกุล ซึ่งข้อเท็จจริงแตกต่างไปจากกรณีของนายวงศ์ศักดิ์ ที่มีหลักฐานสนับสนุนว่าเป็นการใช้ดุลพินิจโดยมิชอบของปลัดกระทรวงมหาดไทย ซึ่ง ก.พ.ค.ไม่ได้วินิจฉัยในเรื่องของโครงการเช่าคอมพิวเตอร์ของสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง และการจัดทำบัตรสมาร์ทการ์ด หรือบัตรประชาชนอเนกประสงค์ เนื่องจากยังไม่มีข้อยุติและอยู่ระหว่างการพิจารณาของ ป.ป.ช.

ส่วนกรณีของนายมงคล สุระสัจจะ ที่ได้รับผลกระทบจากคำวินิจฉัยของ ก.พ.ค.ในวันนี้ที่ประชุม ก.พ.ค.มีมติไม่รับเรื่องร้องทุกข์ของนายมงคล ที่มายื่นต่อ ก.พ.ค.เนื่องจากนายมงคลสามารถใช้สิทธิฟ้องศาลปกครองในฐานะผู้ได้รับผลกระทบจากคำนิจฉัยของ ก.พ.ค. ซึ่งจะมีทั้งฝ่ายที่พอใจและฝ่ายไม่เห็นด้วย และตามคำวินิจฉัยถือว่าเป็นที่สุดตามกฎ ก.พ.ค.ว่าด้วยการร้องทุกข์และการพิจารณาวินิจฉัยร้องทุกข์ พ.ศ. 2551

ส่วนที่ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้คณะกรรมการกฤษฎีกาไปดูอำนาจหน้าที่ของ ก.พ.ค.ว่ามีแค่ไหน จะเป็นการขีดเส้นอำนาจหน้าที่ของ ก.พ.ค.หรือไม่นั้น นายศราวุธกล่าวว่า ไม่สามารถขีดเส้นได้ เพราะ ก.พ.ค.ดำเนินการเป็นไปตามกฎหมายทุกอย่าง เราทำในขอบเขตที่ พ.ร.บ.ข้าราชการพลเรือนให้อำนาจ ถ้านอกกฎหมาย ก.พ.ค.คงไม่ไปก้าวร่วมวินิจฉัย และเราก็ไม่หนักใจในเรื่องนี้ ส่วนกรณีที่ ครม.ให้การดำเนินการ รอจนกว่าจะมีคำสั่งเรื่องของนายมงคล สุระสัจจะนั้น นายศราวุธกล่าวว่า เป็นคนละส่วนกันกับการที่จะให้ผู้บังคับบัญชาดำเนินการตามคำวินิจฉัย ไม่มีกฎหมายตรงไหนที่ให้รอคำวินิจฉัยของศาลปกครอง เมื่อ ก.พ.ค.วินิจฉัยไปอย่างไร กฎหมายก็ให้ดำเนินการตามคำวินิจฉัยของ ก.พ.ค.

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากภายใน 60 วันยังไม่มีคำวินิจฉัยของศาลปกครอง กรณีนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป นายศราวุธกล่าวว่า ขึ้นอยู่ที่ผู้เสียหายจะดำเนินการอย่างไร เมื่อถามต่อว่า จากกรณีนี้อาจทำให้ดูว่า ก.พ.ค.มีอำนาจหน้าที่มากเกินไป จะเป็นอุปสรรคในการโยกย้ายกรณีอื่นๆ หรือไม่ นายศราวุธกล่าวว่า ไม่น่าจะเป็นเช่นนั้น เพราะ ก.พ.ค.มีหน้าที่ในการดูแลข้าราชการพลเรือนสามัญ คุ้มครองระบบคุณธรรมไม่ให้ผู้มีอำนาจแต่งตั้งใช้อำนาจหน้าที่โดยไม่ชอบ

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีนายวงศ์ศักดิ์จะต้องมีการเรียกมาสอบอีกครั้งหรือไม่ นายศราวุธกล่าวว่า ไม่ต้อง แต่ต้องดูจากคำร้องของนายวงศ์ศักดิ์ว่าสมบูรณ์หรือไม่ มีข้อเท็จจริงอะไรที่อยากสอบถามก็ถึงจะเชิญมา หากคำร้องทุกข์ชัดเจนแล้วเราก็จะไม่เชิญมา ส่วนจะไปกระทบกับใครนั้นทาง ก.พ.ค.ไม่จำเป็นต้องเชิญเข้ามา เพราะ ก.พ.ค.เมื่อได้รับคำร้องทุกข์ก็จะให้ผู้บังคับบัญชาไปแก้คำร้องทุกข์ กรณีนายวงศ์ศักดิ์ก็ได้ให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยทำคำแก้ร้องทุกข์มา องค์คณะวินิจฉัย ก.พ.ค.ก็จะดู เมื่อข้อเท็จจริงสมบูรณ์ก็ทำคำวินิจฉัยได้ทันที

ส่วนกรณีที่เกิดขึ้น นายมานิต วัฒนเสน อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ทำหนังสือร้องเรียนมาใช่หรือไม่ นายศราวุธกล่าวว่า ใช่ แต่ทั้งคู่ไม่ใช่คู่กรณี เพียงแต่บอกว่าการดำเนินการตั้งแต่ต้นนั้นไม่ชอบตามระบบคุณธรรม เราไม่ได้ก้าวล่วงถึงใคร แม้แต่นายกรัฐมนตรีที่บอกให้ยกเลิกประกาศ เราก็ไม่ได้บอกว่านายกรัฐมนตรีทำไม่ชอบไม่เคยก้าวล่วงลงไปเลย เราไม่ได้มีการก้าวล่วงไปถึงใคร เมื่อถามว่า ในที่ประชุม ก.พ.ค.วันนี้ (5 เม.ย.) มีการวิเคราะห์หรือไม่ว่า เพราะอะไรกระทรวงมหาดไทยจึงไม่ดำเนินการตามมติของ ก.พ.ค. นายศราวุธกล่าวว่า มีการพูดกันอยู่ แต่เราไม่ได้ติดใจอะไร เพราะการดำเนินการต้องใช้เวลาตามขบวนการทางกฎหมาย

ผู้สื่อข่าวถามว่า จากคำวินิจฉัยของ ก.พ.ค.ที่ระบุว่าการโยกย้ายแต่งตั้งนายวงศ์ศักดิ์ไม่ชอบ จะส่งผลต่อการพิจารณาของ ป.ป.ช.ด้วยหรือไม่ นายศราวุธกล่าวว่า เป็นคนละส่วนกัน แม้ ป.ป.ช.จะสอบแล้วว่าเรื่องนี้ไม่ผิด แต่กระบวนการที่เข้าไปสั่งการโดยไม่ชอบเป็นคนละเรื่องกัน ไม่ส่งผลต่อการพิจารณาของ ป.ป.ช.แต่อย่างใด ส่วนอำนาจการตัดสิน ก.พ.ค.ขอยืนยันว่ายังมีอำนาจอยู่ แต่ ก.พ.ค.ก็ไม่ใช่ศาล ที่จะบอกว่ายกเลิกอันนั้นอันนี้เลยก็ไม่ใช่

ต่อข้อถามว่าการที่หน่วยงานไม่ค่อยให้ความร่วมมือ คิดว่าจะมีกฎหมายอะไรทำให้มติ ก.พ.ค.เป็นผลหรือไม่ นายศราวุธกล่าวว่า ที่ผ่านมาตนเห็นว่าส่วนใหญ่ก็ให้ความร่วมมือ แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่ที่อาจจะผูกขัดกันในช่วงแรก ต่อไปคงไม่มีปัญหาอะไร
กำลังโหลดความคิดเห็น