โฆษกมหาดไทยประกาศศึก ก.พ.ค.ไม่มีอำนาจชี้นิ้วในคืนตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครองให้ “วงศ์ศักดิ์” ยันเป็นเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ตามระเบียบข้าราชการพลเรือน โยน ครม.ตัดสินป้องรัฐมนตรี ไม่ต้องรับผิดชอบ เหตุใช้อำนาจโดยชอบแล้ว ซัด ก.พ.ค.ทำกลไกบิดเบี้ยว ย้ำศาลปกครองมีอำนาจตามรัฐธรรมนูญ กรณี “วงศ์ศักดิ์” ควรให้ศาลปกครองวินิจฉัย
วันนี้ (4 เม.ย.) นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงปัญหาในกระทรวงมหาดไทยที่จะต้องปฏิบัติตามคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) ที่ให้คืนตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครองให้นายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ ซึ่งขณะนี้นายมงคล สุรัสสัจจะ ดำรงตำแหน่งอยู่ว่า รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ชัดเจนเรื่องอำนาจหน้าที่ศาลปกครองในการพิจารณาวินิจฉัยข้อพิพาทเกี่ยวกับเรื่องการใช้อำนาจปกครอง คือหากใครก็ตามที่เห็นว่าการใช้อำนาจการปกครองมิชอบ รัฐธรรมนูญก็คุ้มครอง แต่ในเรื่องของระเบียบข้าราชการพลเรือนนั้น กฎหมายระบุว่าหากข้าราชการพลเรือนใดถูกคำสั่งลงโทษที่ไม่เป็นธรรมก็สามารถร้องต่อ ก.พ.ค. ซึ่งวันนี้กรณีเรื่องนายวงศ์ศักดิ์ และฝ่ายบริหาร คือ กระทรวงมหาดไทย ได้มีคำสั่งโยกย้ายบุคคลอยู่ 6 ราย เป็นการใช้อำนาจตามปกติของฝ่ายบริหารที่มีอำนาจในการโยกย้ายบุคคลในระนาบเดียวกันเพื่อความเหมาะสม และนายวงศ์ศักดิ์ไม่เคยถูกลงโทษทางวินัยที่สามารถใช้สิทธิในการที่จะไปยื่นต่อ ก.พ.ค. และ ก.พ.ค.ไม่สิทธิที่จะพิจารณาเรื่องของนายวงศ์ศักดิ์ เพราะไม่เคยถูกลงโทษทางวินัย เป็นการใช้อำนาจหน้าที่ตามปกติของฝ่ายบริหารของกระทรวงมหาดไทย และกรณีที่อ้างวว่าถูกกลั่นแกล้งเรื่องนั้นเรื่องนี้ กรณีนี้ไม่ได้มีการลงโทษทางวินัย กรณีดังกล่าวในลักษณะของนายวงศ์ศักดิ์ เทียบกับกรณีของนายพีรพล ไตรทศาวิทย์ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย ซึ่งนายกรัฐมนตรีมีคำสั่งให้ย้ายมาเป็นที่ปรึกษาฝ่ายข้าราชการประจำ หรือกรณีของนายสุกิจ เจริญูรัตนกุล อดีตอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งถูกคำสั่งจากกระทรวงให้ย้ายไปเป็นผู้ตรวจราชการ แต่คณะกรรมการชุดนี้ไม่ได้รับเรื่องและในที่สุดก็ยกคำร้อง ซึ่งกรณีเดียวกันแต่การวินิจฉัยของคณะกรรมการชุดนี้ต่างกัน และความจริงนายวงศ์ศักดิ์ควรจะไปยื่นเรื่องต่อศาลปกครอง และก.พ.ค.ไม่ควรรับเรื่อง ซึ่งการวินิจฉัยถือเป็นการก้าวล่วงอำนาจของศาลปกครอง ซึ่งมีอำนาจตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดหรือไม่
“วันนี้ผมทราบบว่าคุณมงคล สุรัสสัจจะ อธิบดีกรมการปกครอง ซึ่งเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ เพราะไปนั่งอยู่ในตำแหน่งนั้นอยู่ ได้ยื่นเรื่องต่อศาลปกครอง และเรื่องนี้ศาลปกครองก็รับเรื่องเอาไว้แล้ว ดังนั้น ควรต้องตั้งคำถามว่คณะกรรมการชุดนี้ก้าวล่วงและละเมิดต่ออำนาจศาลปกครองหรือไม่” นายศุภชัยกล่าว
นายศุภชัยกล่าวว่า ประเด็นที่นายมงคลร้องศาลปกครองคือคำสั่งของ ก.พ.ค.ที่มีคำสั่งให้โยกนายมงคลออกจากตำแหน่งนี้ออกไป แล้วให้เยียวยานายมงคล ซึ่งนายมงคลได้รับการแต่งตั้งมาโดยชอบด้วยกฎหมายตามอำนาจหน้าที่ จึงต้องร้องศาลเพื่อคุ้มครองตัวเอง และสิ่งที่ ก.พ.ค.บอกว่าจะพิทักษ์ระบบคุณธรรมมาคุ้มครองนายวงศ์ศักดิ์ ก็อยากถามว่านายวงศ์ศักดิ์กับนายมงคลก็ฐานะไม่ต่างกัน เหตุใดไม่คิดจะคุ้มครองนายมงคล และในวันนี้หากนายวงศ์ศักดิ์ไปใช้สิทธิต่อศาลปกครองแล้ว ก็ควรที่จะให้ศาลปกครองใช้อำนาจตรงนั้น และ ก.พ.ค.ควรจะนิ่ง ทั้งนี้เห็นว่าหาก ก.พ.ค.มีคำสั่งเช่นนี้ การบริหารราชการแผ่นดินของแต่ละกระทรวงก็จะมีปัญหาหมด เพราะแปลว่า ก.พ.ค.มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดยิ่งกว่าผู้บริหารของแต่ละกระทรวง ต่อไปรัฐมนตรีจะโยกย้ายใครโดยเห็นความเหมาะสมไม่ได้
ส่วนที่นายกรัฐมนตรีย้ำว่าต้องปฏิบัติตามมติ ก.พ.ค.นั้น นายศุภชัยกล่าวว่า ที่นายกรัฐมนตรีพูดก็ถูก แต่หากเราต้องล้วงลึกเข้าไปดูเจตนารมณ์ของกฎหมาย ส่วนจะตัดสินใจอย่างไร ครม.จะพิจารณาอย่างไรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะในวันนี้ไม่ทราบว่าระบบคุณธรรมคืออะไร และสมมติว่ามีข้อมูลว่า นายวงศ์ศักดิ์ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้ตรวจราชการ แต่อาศัยว่ามีความสัมพันธ์ส่วนตัวกับผู้สมัครบางคน อีกทั้งนายวงศ์ศักดิ์เคยเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี อีกทั้งมีข่าวว่าเคยไปลงพื้นที่ว่าที่ผู้สมัคร พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีต ผบ.ทบ.หากมีใครร้องมา แปลว่าฝ่ายบริหารไม่มีสิทธิตรวจสอบหรือไม่ เพราะจะอ้างว่าไปในฐานะส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับราชการ แล้วพอจะโยกย้าย กลายเป็นว่าฝ่ายประจำไม่มีสิทธิทำอะไรหรือไม่
เมื่อถามว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้สั่งการปลัดกระทรวงมหาดไทยว่าอย่าเพิ่งดำเนินการโยกย้ายตามคำสั่ง ก.พ.ค.หรือไม่ นายศุภชัยกล่าวว่า รัฐมนตรีไม่ได้สั่งอะไร และเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ ครม.ต้องตัดสิน และเข้าใจว่าวันนี้ ก.พ.อาจจะมีเรื่องเข้าสู่การพิจารณาเป็นวาระเพื่อทราบ ซึ่งเห็นว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่ ครม.จะต้องรับทราบอย่างเดียว แต่คงต้องพูดคุยกันในที่ประชุมพอสมควร เพราะวันนี้คนที่นั่งเป็นปลัดกระทรวงก็อยู่ในฐานะลำบาก และอยากถามว่า วันนี้อำนาจของ ก.พ.ค.กับศาลปกครอง ส่วนไหนจะมากกว่ากัน แต่สิ่งที่ยืนยันคืออำนาจศาลปกครองเป็นอำนาจที่ให้มาตามรัฐธรรมนูญ แต่กฎหมายที่ให้อำนาจ ก.พ.ค.เพิ่งออกมาสมัยรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ อย่างไรก็ตาม ถ้า ครม.ดึงดันว่าจะต้องว่าไปตาม ก.พ.ค.หรือไม่ ซึ่งแล้วแต่ ครม.จะตัดสินใจอย่างไร
เมื่อถามว่าจะเป็นการหักหน้ากระทรวงมหาดไทยหรือไม่ นายศุภชัยกล่าวว่า ก็ต้องถามว่าจะปกป้องนายวงศ์ศักดิ์ แล้วนายมงคลจะได้รับการปกป้องหรือไม่ หรือ ก.พ.ค.คิดว่ากรณีของนายมงคลค่อยว่ากันอีกครั้งก็จะกลายเป็นเรื่องวัวพันหลัก ส่วนกรณีที่เกิดขึ้น รัฐมนตรีจะต้องรับผิดชอบหรือไม่ นายศุภชัยกล่าวว่า รัฐมนตรีไม่ควรที่จะรับผิดชอบอะไร เพราะประเด็นก็คือ รัฐมนตรีเห็นว่าใช่อำนาจต่างๆ โดยชอบและไม่ควรที่จะมีคณะกรรมการตรงไหนเข้ามาล้วงถึงการใช้ดุลยพินิจอำนาจการบริหารของรัฐมนตรี และสิ่งที่ตนจะบอกคือ ตอนนี้กลไกบิดเบี้ยว ซึ่งรัฐบาลชุดนี้คววรจะทำให้ตรงไปตรงมาจะดีกว่า
เมื่อถามว่าใครต้องรับผิดชอบ นายศุภชัยกล่าวว่า ที่เห็นว่ารัฐมนตรีไม่ควรจะรับผิดชอบ เพราะเห็นว่าไม่ได้ทำผิดอะไร ดังนั้นจะไปรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ทำผิด และสุดท้ายเห็นว่าในที่ประชุม ครม.คงต้องลงมติกัน จะโหวตอีกรอบก็ไม่เป็นไร
