เป็นไปตามคาด...การคืนเก้าอี้ “อธิบดีกรมการปกครอง”ให้กับ นายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พานิชย์ ต้องมีปัญหา เพราะล่าสุด นายวิเชียร ชวลิต ปลัดกระทรวงมหาดไทย เล่นแง่ ด้วยการไม่ยอมปฏิบัติตามมติของคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม...
ที่สั่งให้กระทรวงมหาดไทยคืนเก้าอี้อธิบดีกรมการปกครองมาเกือบ 15 วันแล้ว โดยตามหลักแล้วกระทรวงมหาดไทยจะต้องดำเนินการตามมติของก.พ.ค.ภายใน 15 วัน
ขณะที่ตอนนี้วงศ์ศักดิ์และทีมงานยืนกรานว่า เขาคือ อธิบดีกรมการปกครองตัวจริง ไม่ใช่ “เฮียหมง” มงคล สุระสัจจะ แต่ ปลัดฯวิเชียรก็รับลูกมาจากชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทยและเนวิน –ศักดิ์สยาม ชิดชอบ สองพี่น้องแห่งภูมิใจไทย ที่สั่งการเด็ดขาดห้ามคืนเก้าอี้อธิบดีกรมการปกครองให้วงศ์ศักดิ์
เหตุผลที่ไม่ยอมคืนเก้าอี้สำคัญตัวนี้ ก็เพราะตอนนี้กำลังจะเข้าสู่การเลือกตั้ง ขืนให้วงศ์ศักดิ์ มีอำนาจคุมการปกครอง ดูแลพื้นที่เลือกตั้งระดับอำเภอ-หมู่บ้านทั่วประเทศ ก็ไม่แตกต่างไปจากยื่นดาบให้ศัตรู-ฝ่ายตรงข้ามกุมความได้เปรียบในการเลือกตั้ง
ก็รู้กันดีว่า วงศ์ศักดิ์ไม่ใช่คนไร้ราก แต่มีความแนบแน่นใกล้ชิดกับพรรคเพื่อไทยตั้งแต่ระดับพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ-สมชาย วงศ์สวัสดิ์ จนถึงสุพล ฟองงาม เลขาธิการพรรคเพื่อไทย
ดังนั้น ลูกไล่นักการเมืองอย่างปลัดฯวิเชียร ก็ต้องพยายามยื้อไม่ยอมคืนเก้าอี้ให้วงศ์ศักดิ์ทุกวิถีทาง ตอนนี้ก็แกล้งออกอุบายไปแล้ว ด้วยการทำหนังสือถึงก.พ.ค.เพื่อถามความเห็นในข้อกฎหมายว่า สามารถให้ตำแหน่งอื่นในระนาบเดียวกันคือซี 10 ที่ไม่ใช่อธิบดีได้หรือไม่ และที่สำคัญคือกระทรวงมหาดไทยทำหนังสือขอเปิดเพิ่มตำแหน่ง “รองปลัดกระทรวงมหาดไทย”อีกหนึ่งตำแหน่ง เป็นกรณีพิเศษ
นี่เป็นกลยุทธ์ของกระทรวงมหาดไทย ที่เตรียมเอาเก้าอี้ “รองปลัดกระทรวงมหาดไทย” หากก.พ.อนุมัติเปิดตำแหน่งใหม่ให้กับวงศ์ศักดิ์ ไม่ใช่ตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครอง
หากคิดจะแก้ปัญหาด้วยวิธีนี้ ก็ย่อมเกิดคำถามว่า แล้วทำไมไม่เอาเก้าอี้รองปลัดกระทรวงมหาดไทยให้กับมงคล แทนที่จะเป็นวงศ์ศักดิ์ก็จบเรื่อง แต่ถ้ายืนยันจะทำวิธีนี้ เรื่องก็จะต้องลุกลามบานปลายไปแน่
เมื่อมาในเหลี่ยมนี้ ก็สะท้อนว่า “วิเชียร-ชวรัตน์-ศักดิ์สยาม” แข็งขืนอย่างถึงที่สุด ไม่ยอมทำตามมติก.พ.ค.และคำสั่งของอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีที่เป็นประธานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(ก.พ.)
เนื่องจากสองฝ่ายนี้เป็นปฏิปักษ์กันอย่างรุนแรงมาก่อน วงศ์ศักดิ์ซึ่งเป็นกลุ่มอำนาจเก่าก็พร้อมปักหลักตอบโต้กลุ่มอำนาจใหม่ในมหาดไทยแบบหมูไม่กลัวน้ำร้อน เขาเคยออกมาให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนและต่อกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม รวมถึงตอนไปการกับกรรมการป.ป.ช.ในเรื่องการสอบสวนการทุจริตสอบเข้าโรงเรียนายอำเภอและโครงการเช่าคอมพิวเตอร์ของกรมการปกครองว่า
สาเหตุที่ทำให้ถูกย้ายจากอธิบดีกรมการปกครอง เพราะไม่สนองตอบการสั่งการและแทรกแซงจากฝ่ายการเมืองในการฝากเด็กสอบเข้าโรงเรียนนายอำเภอและการอนุมัติโครงการเช่าคอมพิวเตอร์ของกรมการปกครองรวมถึงการเร่งรัดออกบัตรสมาร์ทการ์ด จึงทำให้ฝ่ายการเมืองไม่พอใจและหาเหตุสั่งเด้งจากเก้าอี้
จริงอยู่ มันยังเป็นแค่การฟังความข้างเดียวจากวงศ์ศักดิ์ ซึ่งยังไม่สามาถเชื่อได้ว่าข้อเท็จจริงจากฝ่ายวงศ์ศักดิ์ที่กล่าวหาฝ่ายการเมืองจะเป็นจริงหรือไม่ คงต้องรอให้การสอบสวนของทางป.ป.ช.สรุปผลออกมาก่อน เพื่อเป็นการรับฟังข้อมูลสองด้าน
แต่พฤติการณ์หลายอย่างของฝ่ายการเมืองในกระทรวงมหาดไทย ทำให้คนส่วนใหญ่เชื่อเช่นนั้น คือเชื่อว่าวงศ์ศักดิ์ไม่สนองตอบคำสั่งทางการเมืองที่ไม่ปกติ และนี้คงเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ความพยายามในการยื้อไม่คืนเก้าอี้ให้วงศ์ศักดิ์เกิดขึ้นอย่างถึงที่สุด
ยิ่งมีข่าวว่าในการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายชวรัตน์ รมว.มหาดไทยของพรรคเพื่อไทยที่ผ่านมา ซึ่งแม้ไม่มีหมัดน็อกเอาผิดชวรัตน์กลางสภาได้ แต่ก็รู้กันดีว่า เพื่อไทยได้ข้อมูลหลายเรื่องมาปะติดปะต่อกันซักฟอกชวรัตน์จากคนในกระทรวงมหาดไทยโดยฝ่ายภูมิใจไทยเชื่อว่า วงศ์ศักดิ์น่าจะมีส่วนแบ็คอัพข้อมูลให้ด้วยส่วนหนึ่ง จึงทำให้ฝ่ายภูมิใจไทยต้องทำทุกอย่างเพื่อสกัดวงศ์ศักดิ์ไม่ให้กลับมาเป็นอธิบดีกรมการปกครองให้ได้
ถึงตอนนี้ก็ต้องดูแล้วว่า อภิสิทธิ์ ในฐานะประธานก.พ.จะหาทางออกในเรื่องนี้อย่างไร จะยืนยันในคำพูดและหลักการที่ต้องการให้ทุกหน่วยราชการยึดถือมติก.พ.ค.หรือจะโอนอ่อนตามพรรคภูมิใจไทย
ยิ่งเมื่อฝ่ายก.พ.โดยนทิกร กาญจนะจิตรา เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(ก.พ.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) ออกมาเปิดเผยว่าได้ทำหนังสือแจ้งไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.)เมื่อวันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา เพื่อชี้แจงขั้นตอนการคืนตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครองให้นายวงศ์ศักดิ์ อันเป็นท่าทีของก.พ.ที่ยืนยันตามความเห็นของก.พ.ค.คือให้ทำดังนี้
1.ให้ยกเลิกประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องให้นายวงศ์ศักดิ์พ้นจากอธิบดีกรมการปกครอง และคำสั่งให้นายมงคล สุระสัจจะ รักษาการอธิบดีกรมการปกครองย้อนหลังไปตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2553 ซึ่งเป็นวันที่ประกาศดังกล่าว มีผลบังคับใช้
2.ให้กระทรวงมหาดไทยจัดหาตำแหน่งใหม่ให้นายมงคล ทั้งนี้กรณีไม่อาจแต่งตั้งข้าราชการผู้นั้นกลับไปดำรงตำแหน่งเดิมได้ ถ้ามีตำแหน่งระดับเดียวกัน ซึ่งข้าราชการผู้นั้นมีคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งที่ว่างอยู่ ให้แต่งตั้งข้าราชการผู้นั้นไปดำรงตำแหน่งที่ว่างอยู่ หรือหากไม่มีตำแหน่งอธิบดีก็ต้องเป็นตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ เป็นต้นจากนั้นต้องแจ้งต่อ สลค.รับทราบ โดยให้มีผลย้อนหลังตั้งแต่ 1 มิถุนายน 2553 ที่นายมงคลเข้ามารักษาการตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครองแทนนายวงศ์ศักดิ์
3. ให้ทำเรื่องขออนุมัติแต่งตั้งนายวงศ์ศักดิ์เป็นอธิบดีกรมการปกครอง มีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 27 เมษายน 2553 เป็นต้นไปและขออนุมัติแต่งตั้งนายมงคลดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (เทียบเท่าระดับ 10 ตามที่กระทรวงมหาดไทยกำหนด) ต่อไป
หากอภิสิทธิ์ ยังคงปล่อยให้ภูมิใจไทยบริหารงานในกระทรวงมหาดไทยแบบไม่เคารพหลักเกณฑ์กติการการบริหารราชการแผ่นดิน และยื้อเวลากลั่นแกล้งข้าราชการไปเรื่อยๆ แบบนี้ก็ย่อมแสดงให้เห็นว่าอภิสิทธิ์ บริหารการเมืองมากกว่าบริหารความถูกต้อง
เนื่องจากมหาดไทยเวลานี้ ก็เห็นกันชัดว่าคนใหญ่คนโต คนกุมอำนาจเวลานี้ล้วนเป็นพวกสิงห์เสื้อน้ำเงิน พรรคภูมิใจไทยทั้งสิ้น ใครไม่ใช่พวกก็ต้องกระเด็นกระดอนออกไปจากศูนย์อำนาจ
ล่าสุดก็เอาเด็กเนวินคือ สมพงษ์ อรุณโรจน์ปัญญา จากรองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ให้ไปรักษาการผู้ว่าฯบึงกาฬ และเตรียมแต่งตั้งให้เป็นผู้ว่าฯบึงกาฬเต็มตัวเร็วๆนี้
โดยรู้กันดีว่า อดีตรองผวจ.สุรินทร์ คนนี้ เป็นสายตรงของพวกเนวิน สนิทกับทั้งเนวิน และทรงศักดิ์ ทองศรี อดีตรมช.คมนาคม ที่จะส่งเมียตัวเองลงสมัครส.ส.บึงกาฬ พรรคภูมิใจไทย แถมเป็นรุ่นน้องรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สิงห์ขาว กับมานิต วัฒนเสน อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้เดินเข้าออกพรรคภูมิใจไทยอย่างไม่ขัดเขินตอนเป็นเบอร์หนึ่งในมหาดไทย
ไม่รู้เรื่องแบบนี้ อภิสิทธิ์รู้หรือไม่? หรือว่ารู้แต่เอามือปิดตา แบบรู้เห็นเป็นใจไปกับเขาด้วย
ที่สั่งให้กระทรวงมหาดไทยคืนเก้าอี้อธิบดีกรมการปกครองมาเกือบ 15 วันแล้ว โดยตามหลักแล้วกระทรวงมหาดไทยจะต้องดำเนินการตามมติของก.พ.ค.ภายใน 15 วัน
ขณะที่ตอนนี้วงศ์ศักดิ์และทีมงานยืนกรานว่า เขาคือ อธิบดีกรมการปกครองตัวจริง ไม่ใช่ “เฮียหมง” มงคล สุระสัจจะ แต่ ปลัดฯวิเชียรก็รับลูกมาจากชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทยและเนวิน –ศักดิ์สยาม ชิดชอบ สองพี่น้องแห่งภูมิใจไทย ที่สั่งการเด็ดขาดห้ามคืนเก้าอี้อธิบดีกรมการปกครองให้วงศ์ศักดิ์
เหตุผลที่ไม่ยอมคืนเก้าอี้สำคัญตัวนี้ ก็เพราะตอนนี้กำลังจะเข้าสู่การเลือกตั้ง ขืนให้วงศ์ศักดิ์ มีอำนาจคุมการปกครอง ดูแลพื้นที่เลือกตั้งระดับอำเภอ-หมู่บ้านทั่วประเทศ ก็ไม่แตกต่างไปจากยื่นดาบให้ศัตรู-ฝ่ายตรงข้ามกุมความได้เปรียบในการเลือกตั้ง
ก็รู้กันดีว่า วงศ์ศักดิ์ไม่ใช่คนไร้ราก แต่มีความแนบแน่นใกล้ชิดกับพรรคเพื่อไทยตั้งแต่ระดับพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ-สมชาย วงศ์สวัสดิ์ จนถึงสุพล ฟองงาม เลขาธิการพรรคเพื่อไทย
ดังนั้น ลูกไล่นักการเมืองอย่างปลัดฯวิเชียร ก็ต้องพยายามยื้อไม่ยอมคืนเก้าอี้ให้วงศ์ศักดิ์ทุกวิถีทาง ตอนนี้ก็แกล้งออกอุบายไปแล้ว ด้วยการทำหนังสือถึงก.พ.ค.เพื่อถามความเห็นในข้อกฎหมายว่า สามารถให้ตำแหน่งอื่นในระนาบเดียวกันคือซี 10 ที่ไม่ใช่อธิบดีได้หรือไม่ และที่สำคัญคือกระทรวงมหาดไทยทำหนังสือขอเปิดเพิ่มตำแหน่ง “รองปลัดกระทรวงมหาดไทย”อีกหนึ่งตำแหน่ง เป็นกรณีพิเศษ
นี่เป็นกลยุทธ์ของกระทรวงมหาดไทย ที่เตรียมเอาเก้าอี้ “รองปลัดกระทรวงมหาดไทย” หากก.พ.อนุมัติเปิดตำแหน่งใหม่ให้กับวงศ์ศักดิ์ ไม่ใช่ตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครอง
หากคิดจะแก้ปัญหาด้วยวิธีนี้ ก็ย่อมเกิดคำถามว่า แล้วทำไมไม่เอาเก้าอี้รองปลัดกระทรวงมหาดไทยให้กับมงคล แทนที่จะเป็นวงศ์ศักดิ์ก็จบเรื่อง แต่ถ้ายืนยันจะทำวิธีนี้ เรื่องก็จะต้องลุกลามบานปลายไปแน่
เมื่อมาในเหลี่ยมนี้ ก็สะท้อนว่า “วิเชียร-ชวรัตน์-ศักดิ์สยาม” แข็งขืนอย่างถึงที่สุด ไม่ยอมทำตามมติก.พ.ค.และคำสั่งของอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีที่เป็นประธานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(ก.พ.)
เนื่องจากสองฝ่ายนี้เป็นปฏิปักษ์กันอย่างรุนแรงมาก่อน วงศ์ศักดิ์ซึ่งเป็นกลุ่มอำนาจเก่าก็พร้อมปักหลักตอบโต้กลุ่มอำนาจใหม่ในมหาดไทยแบบหมูไม่กลัวน้ำร้อน เขาเคยออกมาให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนและต่อกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม รวมถึงตอนไปการกับกรรมการป.ป.ช.ในเรื่องการสอบสวนการทุจริตสอบเข้าโรงเรียนายอำเภอและโครงการเช่าคอมพิวเตอร์ของกรมการปกครองว่า
สาเหตุที่ทำให้ถูกย้ายจากอธิบดีกรมการปกครอง เพราะไม่สนองตอบการสั่งการและแทรกแซงจากฝ่ายการเมืองในการฝากเด็กสอบเข้าโรงเรียนนายอำเภอและการอนุมัติโครงการเช่าคอมพิวเตอร์ของกรมการปกครองรวมถึงการเร่งรัดออกบัตรสมาร์ทการ์ด จึงทำให้ฝ่ายการเมืองไม่พอใจและหาเหตุสั่งเด้งจากเก้าอี้
จริงอยู่ มันยังเป็นแค่การฟังความข้างเดียวจากวงศ์ศักดิ์ ซึ่งยังไม่สามาถเชื่อได้ว่าข้อเท็จจริงจากฝ่ายวงศ์ศักดิ์ที่กล่าวหาฝ่ายการเมืองจะเป็นจริงหรือไม่ คงต้องรอให้การสอบสวนของทางป.ป.ช.สรุปผลออกมาก่อน เพื่อเป็นการรับฟังข้อมูลสองด้าน
แต่พฤติการณ์หลายอย่างของฝ่ายการเมืองในกระทรวงมหาดไทย ทำให้คนส่วนใหญ่เชื่อเช่นนั้น คือเชื่อว่าวงศ์ศักดิ์ไม่สนองตอบคำสั่งทางการเมืองที่ไม่ปกติ และนี้คงเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ความพยายามในการยื้อไม่คืนเก้าอี้ให้วงศ์ศักดิ์เกิดขึ้นอย่างถึงที่สุด
ยิ่งมีข่าวว่าในการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายชวรัตน์ รมว.มหาดไทยของพรรคเพื่อไทยที่ผ่านมา ซึ่งแม้ไม่มีหมัดน็อกเอาผิดชวรัตน์กลางสภาได้ แต่ก็รู้กันดีว่า เพื่อไทยได้ข้อมูลหลายเรื่องมาปะติดปะต่อกันซักฟอกชวรัตน์จากคนในกระทรวงมหาดไทยโดยฝ่ายภูมิใจไทยเชื่อว่า วงศ์ศักดิ์น่าจะมีส่วนแบ็คอัพข้อมูลให้ด้วยส่วนหนึ่ง จึงทำให้ฝ่ายภูมิใจไทยต้องทำทุกอย่างเพื่อสกัดวงศ์ศักดิ์ไม่ให้กลับมาเป็นอธิบดีกรมการปกครองให้ได้
ถึงตอนนี้ก็ต้องดูแล้วว่า อภิสิทธิ์ ในฐานะประธานก.พ.จะหาทางออกในเรื่องนี้อย่างไร จะยืนยันในคำพูดและหลักการที่ต้องการให้ทุกหน่วยราชการยึดถือมติก.พ.ค.หรือจะโอนอ่อนตามพรรคภูมิใจไทย
ยิ่งเมื่อฝ่ายก.พ.โดยนทิกร กาญจนะจิตรา เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(ก.พ.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) ออกมาเปิดเผยว่าได้ทำหนังสือแจ้งไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.)เมื่อวันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา เพื่อชี้แจงขั้นตอนการคืนตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครองให้นายวงศ์ศักดิ์ อันเป็นท่าทีของก.พ.ที่ยืนยันตามความเห็นของก.พ.ค.คือให้ทำดังนี้
1.ให้ยกเลิกประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องให้นายวงศ์ศักดิ์พ้นจากอธิบดีกรมการปกครอง และคำสั่งให้นายมงคล สุระสัจจะ รักษาการอธิบดีกรมการปกครองย้อนหลังไปตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2553 ซึ่งเป็นวันที่ประกาศดังกล่าว มีผลบังคับใช้
2.ให้กระทรวงมหาดไทยจัดหาตำแหน่งใหม่ให้นายมงคล ทั้งนี้กรณีไม่อาจแต่งตั้งข้าราชการผู้นั้นกลับไปดำรงตำแหน่งเดิมได้ ถ้ามีตำแหน่งระดับเดียวกัน ซึ่งข้าราชการผู้นั้นมีคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งที่ว่างอยู่ ให้แต่งตั้งข้าราชการผู้นั้นไปดำรงตำแหน่งที่ว่างอยู่ หรือหากไม่มีตำแหน่งอธิบดีก็ต้องเป็นตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ เป็นต้นจากนั้นต้องแจ้งต่อ สลค.รับทราบ โดยให้มีผลย้อนหลังตั้งแต่ 1 มิถุนายน 2553 ที่นายมงคลเข้ามารักษาการตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครองแทนนายวงศ์ศักดิ์
3. ให้ทำเรื่องขออนุมัติแต่งตั้งนายวงศ์ศักดิ์เป็นอธิบดีกรมการปกครอง มีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 27 เมษายน 2553 เป็นต้นไปและขออนุมัติแต่งตั้งนายมงคลดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (เทียบเท่าระดับ 10 ตามที่กระทรวงมหาดไทยกำหนด) ต่อไป
หากอภิสิทธิ์ ยังคงปล่อยให้ภูมิใจไทยบริหารงานในกระทรวงมหาดไทยแบบไม่เคารพหลักเกณฑ์กติการการบริหารราชการแผ่นดิน และยื้อเวลากลั่นแกล้งข้าราชการไปเรื่อยๆ แบบนี้ก็ย่อมแสดงให้เห็นว่าอภิสิทธิ์ บริหารการเมืองมากกว่าบริหารความถูกต้อง
เนื่องจากมหาดไทยเวลานี้ ก็เห็นกันชัดว่าคนใหญ่คนโต คนกุมอำนาจเวลานี้ล้วนเป็นพวกสิงห์เสื้อน้ำเงิน พรรคภูมิใจไทยทั้งสิ้น ใครไม่ใช่พวกก็ต้องกระเด็นกระดอนออกไปจากศูนย์อำนาจ
ล่าสุดก็เอาเด็กเนวินคือ สมพงษ์ อรุณโรจน์ปัญญา จากรองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ให้ไปรักษาการผู้ว่าฯบึงกาฬ และเตรียมแต่งตั้งให้เป็นผู้ว่าฯบึงกาฬเต็มตัวเร็วๆนี้
โดยรู้กันดีว่า อดีตรองผวจ.สุรินทร์ คนนี้ เป็นสายตรงของพวกเนวิน สนิทกับทั้งเนวิน และทรงศักดิ์ ทองศรี อดีตรมช.คมนาคม ที่จะส่งเมียตัวเองลงสมัครส.ส.บึงกาฬ พรรคภูมิใจไทย แถมเป็นรุ่นน้องรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สิงห์ขาว กับมานิต วัฒนเสน อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้เดินเข้าออกพรรคภูมิใจไทยอย่างไม่ขัดเขินตอนเป็นเบอร์หนึ่งในมหาดไทย
ไม่รู้เรื่องแบบนี้ อภิสิทธิ์รู้หรือไม่? หรือว่ารู้แต่เอามือปิดตา แบบรู้เห็นเป็นใจไปกับเขาด้วย
