เมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้(28 มี.ค) ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย พร้อมนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองโฆษกพรรค เข้ายื่นหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยมีเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.เป็นผู้รับหนังสือแทน
เนื้อหาสาระที่ระบุในหนังสือดังกล่าว เรียกร้องให้ ป.ป.ช.ดำเนินการไต่สวนใน 2 กรณี คือ
1.ดำเนินการไต่สวนดำเนินคดีกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และเจ้าหน้าที่รัฐทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกรณีมีพฤติกรรมส่อไปในทางปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ใช้อำนาจฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญและกฎหมาย โดยมีพฤติกรรมเข้าไปก้าวก่ายหรือแทรกแซงหน่วยงานรัฐที่มีหน้าที่จัดเก็บภาษีและกระบวนการยุติธรรมในการดำเนินคดีผู้กระทำผิดในข้อหาแสดงภาษีอันเป็นเท็จเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีในคดีการนำเข้าบุหรี่ของบริษัทฟิลลิป มอร์ริส (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งทำให้รัฐเสียประโยชน์ถึง 68,881,394,278.69 บาท
2.ดำเนินการไต่สวนดำเนินคดีกับนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ที่เกี่ยวข้องในกรณีที่คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) ได้มีคำวินิจฉัยข้อร้องทุกข์ของนายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิพาณิชย์ ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากกรณีถูกย้ายจากอธิบดีกรมการปกครองไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ตามมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 27 เมษายน 2553 ว่าเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดย ก.พ.ค.มีมติยกเลิกคำสั่งกระทรวงมหาดไทยที่ย้ายนายวงศ์ศักดิ์ จากตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครองไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย และให้นายวงศ์ศักดิ์กลับไปนั่งตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครอง โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 27 เมษายน 2553 อันเป็นวันออกคำสั่ง แต่ปลัดกระทรวงมหาดไทย โดยความเห็นชอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาข้อกฎหมาย โดยยังไม่ดำเนินการคืนตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครองให้แก่นายวงศ์ศักดิ์ ทั้งที่ ก.พ.ค.ก็มีมติชัดเจนแล้วว่าให้คืนตำแหน่งในทันทีเพราะคำสั่งถูกยกเลิก
กรณีดังกล่าวถือว่านายชวรัตน์ มีความผิดสองส่วนคือ การย้ายนายวงศ์ศักดิ์ โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ร่วมกับปลัดกระทรวงมหาดไทยในขณะนั้น และการไม่ยอมคืนตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครองร่วมกับปลัดมหาดไทยคนปัจจุบัน
เนื้อหาสาระที่ระบุในหนังสือดังกล่าว เรียกร้องให้ ป.ป.ช.ดำเนินการไต่สวนใน 2 กรณี คือ
1.ดำเนินการไต่สวนดำเนินคดีกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และเจ้าหน้าที่รัฐทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกรณีมีพฤติกรรมส่อไปในทางปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ใช้อำนาจฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญและกฎหมาย โดยมีพฤติกรรมเข้าไปก้าวก่ายหรือแทรกแซงหน่วยงานรัฐที่มีหน้าที่จัดเก็บภาษีและกระบวนการยุติธรรมในการดำเนินคดีผู้กระทำผิดในข้อหาแสดงภาษีอันเป็นเท็จเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีในคดีการนำเข้าบุหรี่ของบริษัทฟิลลิป มอร์ริส (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งทำให้รัฐเสียประโยชน์ถึง 68,881,394,278.69 บาท
2.ดำเนินการไต่สวนดำเนินคดีกับนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ที่เกี่ยวข้องในกรณีที่คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) ได้มีคำวินิจฉัยข้อร้องทุกข์ของนายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิพาณิชย์ ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากกรณีถูกย้ายจากอธิบดีกรมการปกครองไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ตามมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 27 เมษายน 2553 ว่าเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดย ก.พ.ค.มีมติยกเลิกคำสั่งกระทรวงมหาดไทยที่ย้ายนายวงศ์ศักดิ์ จากตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครองไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย และให้นายวงศ์ศักดิ์กลับไปนั่งตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครอง โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 27 เมษายน 2553 อันเป็นวันออกคำสั่ง แต่ปลัดกระทรวงมหาดไทย โดยความเห็นชอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาข้อกฎหมาย โดยยังไม่ดำเนินการคืนตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครองให้แก่นายวงศ์ศักดิ์ ทั้งที่ ก.พ.ค.ก็มีมติชัดเจนแล้วว่าให้คืนตำแหน่งในทันทีเพราะคำสั่งถูกยกเลิก
กรณีดังกล่าวถือว่านายชวรัตน์ มีความผิดสองส่วนคือ การย้ายนายวงศ์ศักดิ์ โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ร่วมกับปลัดกระทรวงมหาดไทยในขณะนั้น และการไม่ยอมคืนตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครองร่วมกับปลัดมหาดไทยคนปัจจุบัน