ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชักไม่แน่ใจ โยนวุ่น “กฤษฎีกา” ศึกษาอำนาจ “ก.พ.ค.มีมติคืนตำแหน่งอธิบดีกรมการปครอง “วงศ์ศักดิ์” ระบุนายกฯ ยกเลิกประกาศแต่งตั้ง “มงคล” ไม่ได้ ชี้รอศาลปกครองฟันธง
วันนี้ (4 เม.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอัชพร จารุจินดา เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม. ได้สั่งการให้คณะกรรมการกฤษฎีกาไปพิจารณาทางวิชาการว่า ขอบเขตอำนาจของคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) สามารถที่จะพิจารณาสั่งการเพื่อลบล้างคำสั่งทางปกครองได้เลยหรือไม่ ทั้งนี้ ไม่ได้มีกำหนดเวลาในการศึกษาเนื่องจากขณะนี้นายมงคล สุระสัจจะ อธิบดีกรมการปกครอง ได้ไปฟ้องศาลปกครองกลางเพื่อขอคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวอยู่ ซึ่งต้องรอความชัดเจนจากศาลปกครองก่อน
นายอัชพรกล่าวว่า ในที่ประชุม ครม.วันนี้มีรัฐมนตรีหลายคนตั้งข้อสังเกตว่า โดยปกติแล้ว ก.พ.ค.เมื่อพิจารณาเสร็จแล้ว และหากเห็นว่ามีอะไรที่ไม่เป็นธรรมก็ให้แจ้งมายังหน่วยงานที่รับผิดชอบออกคำสั่งไปดำเนินการพิจารณาต่อไป เช่น การร้องทุกข์ว่าผู้บังคับบัญชาไม่ให้ความเป็นธรรมเพียงพอ ก็สามารถแจ้งกลับมาเพื่อให้ผู้บังคับบัญชาเปลี่ยนแปลงและให้ความเป็นธรรมกับผู้ร้องทุกข์ แต่จะไม่มีผลที่จะไปลบล้างคำสั่งทางปกครองได้ ซึ่งที่ผ่านมาในอดีตก็ดำเนินการอย่างนี้มาโดยตลอด แต่ครั้งนี้เหมือน ก.พ.ค.มีอำนาจสั่งการไปเลย
เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกากล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ที่ ครม.ได้เคยขอความเห็นจากคณะกรรมการกฤษฎีการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวนั้น เป็นการขอความเห็นจากกฤษฎีกา กรณีที่ ก.พ.ค.บอกให้นายกรัฐมนตรีสั่งยกเลิกประกาศสำนักนายกฯที่ให้นายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ พ้นจากอธิบดีกรมการปกครอง และให้นายมงคล สุระสัจจะ เป็นอธิบดีกรมการปกครองแทน คณะกรรมการกฤษฎีกาได้ให้ความเห็นไปว่า ประกาศดังกล่าวไม่ได้เป็นประกาศแต่งตั้ง แต่เป็นประกาศรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ดังนั้น นายกฯ ไม่สามารถยกเลิกได้ เว้นแต่มีพระบรมราชองค์การเป็นอย่างอื่น จึงจะเปลี่ยนแปลงได้
เลขาฯ กฤษฎีกา กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ ครม.ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการรับผิดชอบ เพราะตามกฎหมาย ครม.มีอำนาจเฉพาะ เมื่อกระทรวงมหาดไทย (มท.) เสนอเรื่องเข้ามาจะต้องพิจารณาไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ครม.มีหน้าที่ดูข้อกฎหมายและกระบวนการแต่งตั้งเท่านั้น ซึ่งเรื่องนี้ไปสู่กระบวนการศาลปกครองแล้วจึงต้องรอฟังว่าศาลปกครองจะมีคำวินิจฉัยชี้ขาดอย่างไร
วันนี้ (4 เม.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอัชพร จารุจินดา เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม. ได้สั่งการให้คณะกรรมการกฤษฎีกาไปพิจารณาทางวิชาการว่า ขอบเขตอำนาจของคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) สามารถที่จะพิจารณาสั่งการเพื่อลบล้างคำสั่งทางปกครองได้เลยหรือไม่ ทั้งนี้ ไม่ได้มีกำหนดเวลาในการศึกษาเนื่องจากขณะนี้นายมงคล สุระสัจจะ อธิบดีกรมการปกครอง ได้ไปฟ้องศาลปกครองกลางเพื่อขอคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวอยู่ ซึ่งต้องรอความชัดเจนจากศาลปกครองก่อน
นายอัชพรกล่าวว่า ในที่ประชุม ครม.วันนี้มีรัฐมนตรีหลายคนตั้งข้อสังเกตว่า โดยปกติแล้ว ก.พ.ค.เมื่อพิจารณาเสร็จแล้ว และหากเห็นว่ามีอะไรที่ไม่เป็นธรรมก็ให้แจ้งมายังหน่วยงานที่รับผิดชอบออกคำสั่งไปดำเนินการพิจารณาต่อไป เช่น การร้องทุกข์ว่าผู้บังคับบัญชาไม่ให้ความเป็นธรรมเพียงพอ ก็สามารถแจ้งกลับมาเพื่อให้ผู้บังคับบัญชาเปลี่ยนแปลงและให้ความเป็นธรรมกับผู้ร้องทุกข์ แต่จะไม่มีผลที่จะไปลบล้างคำสั่งทางปกครองได้ ซึ่งที่ผ่านมาในอดีตก็ดำเนินการอย่างนี้มาโดยตลอด แต่ครั้งนี้เหมือน ก.พ.ค.มีอำนาจสั่งการไปเลย
เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกากล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ที่ ครม.ได้เคยขอความเห็นจากคณะกรรมการกฤษฎีการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวนั้น เป็นการขอความเห็นจากกฤษฎีกา กรณีที่ ก.พ.ค.บอกให้นายกรัฐมนตรีสั่งยกเลิกประกาศสำนักนายกฯที่ให้นายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ พ้นจากอธิบดีกรมการปกครอง และให้นายมงคล สุระสัจจะ เป็นอธิบดีกรมการปกครองแทน คณะกรรมการกฤษฎีกาได้ให้ความเห็นไปว่า ประกาศดังกล่าวไม่ได้เป็นประกาศแต่งตั้ง แต่เป็นประกาศรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ดังนั้น นายกฯ ไม่สามารถยกเลิกได้ เว้นแต่มีพระบรมราชองค์การเป็นอย่างอื่น จึงจะเปลี่ยนแปลงได้
เลขาฯ กฤษฎีกา กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ ครม.ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการรับผิดชอบ เพราะตามกฎหมาย ครม.มีอำนาจเฉพาะ เมื่อกระทรวงมหาดไทย (มท.) เสนอเรื่องเข้ามาจะต้องพิจารณาไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ครม.มีหน้าที่ดูข้อกฎหมายและกระบวนการแต่งตั้งเท่านั้น ซึ่งเรื่องนี้ไปสู่กระบวนการศาลปกครองแล้วจึงต้องรอฟังว่าศาลปกครองจะมีคำวินิจฉัยชี้ขาดอย่างไร
