วานนี้(4 เม.ย.) นายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ได้เข้ายื่นฟ้องนายวิเชียร ชวลิต ปลัดกระทรวงมหาดไทย ต่อศาลปกครองกลาง ภายหลังคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (กพค.) มีคำวินิจฉัยให้นายวงศ์ศักดิ์ กลับไปดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครอง และให้คำสั่งมีผลตั้งแต่วันที่ 27 เม.ย.53 เป็นต้นมา แต่ปลัดกระทรวงมหาดไทย ยังไม่ปฏิบัติตามคำวินิฉัย กพค. โดยยังคงให้นายมงคล สุระสัจจะ ปฏิบัติหน้าที่เป็นอธิบดีกรมการปกครองอยู่ รวมถึงนายมงคล ยังยื่นฟ้องศาลปกครองว่า คำวินิจฉัยของกพค.ไม่สมบูรณ์ และขอให้ศาลคุ้มครองชั่วคราว ขอระงับการปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของ กพค. เพื่อมาเป็นเหตุไม่ต้องปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของ กพค. จึงเห็นว่าปลัดกระทรวงมหาดไทย จงใจหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือเอื้อประโยชน์บุคคลอื่นโดยทุจริต จึงขอให้ศาลปกครองมีคำพิพากษาให้ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของกพค. ฉบับลงวันที่ 11มี.ค. 54 เรื่องดำที่ 5320047 เรื่องแดงที่ 0041254 ระหว่างนายวงศ์ศักดิ์ กับปลัดกระทรวงมหาดไทย โดยทันที และขอให้ศาลมีคำสั่งไต่สวนฉุกเฉินเพื่อกำหนดมาตรการหรือวิธีการบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนมีคำการพิพากษาคดี
นายวงศ์ศักดิ์ กล่าวว่า ที่ยื่นฟ้องเพราะเกรงว่าปลัดกระทรวงมหาดไทย จะใช้การรอคำสั่งของศาลปกครองมาประวิงเวลาไม่ปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของกพค. ตอนนี้ทำให้ตนรู้สึกเดือดร้อนมาก เพราะไม่ทราบว่าจะต้องปฏิบัติหน้าที่อะไร หากปฏิบัติหน้าที่อธิบดีกรมการปกครอง ก็ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากยังไม่มีคำสั่งจากปลัดกระทรวงมหาดไทย และหากปฏิบัติหน้าที่ตรวจราชการฯ ก็จะขัดคำวินิจฉัยของ กพค.ซึ่งจะขัดต่อกฎหมายด้วย นอกจากนี้ความไม่ชัดเจนของตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครอง
**ศาลยกคำขอไต่สวนฉุกเฉินฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังนายวงศ์ศักดิ์ ได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองแล้ว ศาลก็มีคำสั่งยกคำขอไต่สวนฉุกเฉินเพื่อกำหนดมาตรการบรรเทาทุกข์ชั่วคราว และขอให้รอคำสั่งของศาลฯว่าจะรับคำฟ้องดังกล่าวไว้พิจารณาวินิจฉัยหรือไม่ ซึ่งก่อนหน้านั้นเมื่อวันที่ 31 มี.ค. นายมงคล สุระสัจจะ ได้ยื่นฟ้องก.พ.ค. เพื่อขอให้เพิกถอนคำสั่งกระทรวงมหาดไทย และประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีที่ เกี่ยวกับการตั้งนายวงศ์ศักดิ์ไปเป็นรักษาราชการในตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย และให้ตัวเองรักษาการในตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครองนั้น ขณะนี้ศาลยังไม่มีคำสั่งใด ๆ
ทั้งนี้ นายวงศ์ศักดิ์ ได้รับแจ้งจากศาลปกครองแล้วถึงการยกคำขอไต่สวนฉุกเฉินฯ แต่เชื่อว่าศาลจะดำเนินการตามขั้นตอนที่เร่งด่วน และไม่ว่าคำสั่งจะออกมาอย่างไรก็พร้อมจะยอมรับ
**อุ้ม “ปู่จิ้น”ไม่ต้องรับผิดชอบ
นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าว ว่า ศาลปกครองมีอำนาจวินิจฉัยข้อพิพาทเกี่ยวกับการใช้อำนาจปกครองมิชอบ แต่ในเรื่องของระเบียบข้าราชการพลเรือนนั้น กรณีดังกล่าวถือเป็นการใช้อำนาจโดยชอบตามปกติในการโยกย้ายบุคคลในระนาบเดียวกันเพื่อความเหมาะสมของรมว.มหาดไทย ดังนั้น นายวงศ์ศักดิ์ ควรไปยื่นเรื่องต่อศาลปกครอง และก.พ.ค.ไม่ควรรับเรื่องของนายวงศ์ศักดิ์ มิฉะนั้นการวินิจฉัยของก.พ.ค.อาจเป็นการก้าวล่วงอำนาจของศาลปกครองที่มีอำนาจตามรัฐธรรมนูญหรือไม่
ส่วนการที่นายอภิสิทธิ์ ย้ำว่าต้องปฏิบัติตามมติก.พ.ค.นั้น สิ่งที่นายกรัฐมนตรีพูดก็ถูก แต่เราต้องล้วงลึกเข้าไปดูเจตนารมณ์ของกฎหมาย ส่วนจะตัดสินใจอย่างไร ครม.จะพิจารณาอย่างไรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะในวันนี้ไม่ทราบว่าระบบคุณธรรมคืออะไร.
**มาร์คลอยตัวรอฟังศาลปกครอง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ครม.รับทราบเรื่องที่คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(กพ.)และคณะกรรมการกฤษฎีกา เสนอความเห็นต่อคำวินิจฉัย ก.พ.ค.โดยให้คืนตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครอง ให้กับนายวงศ์ศักดิ์ ในขณะที่ นายมงคล ยังดำรงตำแหน่งอยู่ ซึ่งขั้นตอนการดำเนินการต่างๆได้ส่งให้ทางหน่วยงานกระทรวงมหาดไทยไปดำเนินการ ขณะเดียวกันกรณีของ นายมงคล ที่ได้รับผลกระทบจึงไปร้องศาลปกครอง ก็อยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลปกครอง จึงหวังว่าศาลปกครองจะมีแนวทางที่จะทำให้ทางหน่วยงานไปดำเนินได้ตามกรอบเวลาที่กำหนดไว้ คือ 60วัน ส่วนถ้ายังไม่มีความชัดเจนภายใน 60วัน จะต้องมีการดำเนินการต่อไป
ส่วนหากยังไม่ชัดเจนจะต้องคืนตำแหน่งหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เท่าที่ดูขณะนี้ถ้าศาลยังไม่ชี้อะไร น่าจะต้องดำเนินการไปตามที่ ก.พ.และกฤษฎีกา สรุปมา
เมื่อถามว่าเหมือนมีการมุ่งไปให้ความเป็นธรรมกับ นายมงคลมากว่าที่จะคืนความเป็นธรรมให้นายวงศักดิ์ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า “ไม่ใช่ครับ” คงจะเป็นเรื่องที่ว่าถ้าศาลชี้อย่างไรออกมาคงจะมีความชัดเจนมากขึ้นว่าจะมีแนวปฏิบัติควรจะเป็นอย่างไร
**โยนกฤษฎีกาชี้ขาดคำสั่ง"กพค."
นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกรัฐบาล กล่าวว่า ครม.รับทราบในเรื่องนี้ โดยยืนยันว่า การแต่งตั้งดังกล่าว ครม.ได้ดำเนินการตามขั้นตอนของระเบียบที่ถูกต้อง โดยมีมติว่า ได้รับแจ้งเรื่องที่นายมงคล ได้ยื่นต่อศาลปกครอง และมีความเห็นว่า ควรรอผลการพิจารณาของศาลปกครอง ที่อยู่ในระหว่างพิจารณาขอคุ้มครองชั่วคราวดังกล่าว ทั้งนี้จะยื่นให้คณะกรรมการกฤษฎีกาไปพิจารณาทางวิชาการว่า คำสั่งของกพค.มีอำนาจลบล้าง คำสั่งทางกฎหมายหรือไม่
นายวงศ์ศักดิ์ กล่าวว่า ที่ยื่นฟ้องเพราะเกรงว่าปลัดกระทรวงมหาดไทย จะใช้การรอคำสั่งของศาลปกครองมาประวิงเวลาไม่ปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของกพค. ตอนนี้ทำให้ตนรู้สึกเดือดร้อนมาก เพราะไม่ทราบว่าจะต้องปฏิบัติหน้าที่อะไร หากปฏิบัติหน้าที่อธิบดีกรมการปกครอง ก็ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากยังไม่มีคำสั่งจากปลัดกระทรวงมหาดไทย และหากปฏิบัติหน้าที่ตรวจราชการฯ ก็จะขัดคำวินิจฉัยของ กพค.ซึ่งจะขัดต่อกฎหมายด้วย นอกจากนี้ความไม่ชัดเจนของตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครอง
**ศาลยกคำขอไต่สวนฉุกเฉินฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังนายวงศ์ศักดิ์ ได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองแล้ว ศาลก็มีคำสั่งยกคำขอไต่สวนฉุกเฉินเพื่อกำหนดมาตรการบรรเทาทุกข์ชั่วคราว และขอให้รอคำสั่งของศาลฯว่าจะรับคำฟ้องดังกล่าวไว้พิจารณาวินิจฉัยหรือไม่ ซึ่งก่อนหน้านั้นเมื่อวันที่ 31 มี.ค. นายมงคล สุระสัจจะ ได้ยื่นฟ้องก.พ.ค. เพื่อขอให้เพิกถอนคำสั่งกระทรวงมหาดไทย และประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีที่ เกี่ยวกับการตั้งนายวงศ์ศักดิ์ไปเป็นรักษาราชการในตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย และให้ตัวเองรักษาการในตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครองนั้น ขณะนี้ศาลยังไม่มีคำสั่งใด ๆ
ทั้งนี้ นายวงศ์ศักดิ์ ได้รับแจ้งจากศาลปกครองแล้วถึงการยกคำขอไต่สวนฉุกเฉินฯ แต่เชื่อว่าศาลจะดำเนินการตามขั้นตอนที่เร่งด่วน และไม่ว่าคำสั่งจะออกมาอย่างไรก็พร้อมจะยอมรับ
**อุ้ม “ปู่จิ้น”ไม่ต้องรับผิดชอบ
นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าว ว่า ศาลปกครองมีอำนาจวินิจฉัยข้อพิพาทเกี่ยวกับการใช้อำนาจปกครองมิชอบ แต่ในเรื่องของระเบียบข้าราชการพลเรือนนั้น กรณีดังกล่าวถือเป็นการใช้อำนาจโดยชอบตามปกติในการโยกย้ายบุคคลในระนาบเดียวกันเพื่อความเหมาะสมของรมว.มหาดไทย ดังนั้น นายวงศ์ศักดิ์ ควรไปยื่นเรื่องต่อศาลปกครอง และก.พ.ค.ไม่ควรรับเรื่องของนายวงศ์ศักดิ์ มิฉะนั้นการวินิจฉัยของก.พ.ค.อาจเป็นการก้าวล่วงอำนาจของศาลปกครองที่มีอำนาจตามรัฐธรรมนูญหรือไม่
ส่วนการที่นายอภิสิทธิ์ ย้ำว่าต้องปฏิบัติตามมติก.พ.ค.นั้น สิ่งที่นายกรัฐมนตรีพูดก็ถูก แต่เราต้องล้วงลึกเข้าไปดูเจตนารมณ์ของกฎหมาย ส่วนจะตัดสินใจอย่างไร ครม.จะพิจารณาอย่างไรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะในวันนี้ไม่ทราบว่าระบบคุณธรรมคืออะไร.
**มาร์คลอยตัวรอฟังศาลปกครอง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ครม.รับทราบเรื่องที่คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(กพ.)และคณะกรรมการกฤษฎีกา เสนอความเห็นต่อคำวินิจฉัย ก.พ.ค.โดยให้คืนตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครอง ให้กับนายวงศ์ศักดิ์ ในขณะที่ นายมงคล ยังดำรงตำแหน่งอยู่ ซึ่งขั้นตอนการดำเนินการต่างๆได้ส่งให้ทางหน่วยงานกระทรวงมหาดไทยไปดำเนินการ ขณะเดียวกันกรณีของ นายมงคล ที่ได้รับผลกระทบจึงไปร้องศาลปกครอง ก็อยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลปกครอง จึงหวังว่าศาลปกครองจะมีแนวทางที่จะทำให้ทางหน่วยงานไปดำเนินได้ตามกรอบเวลาที่กำหนดไว้ คือ 60วัน ส่วนถ้ายังไม่มีความชัดเจนภายใน 60วัน จะต้องมีการดำเนินการต่อไป
ส่วนหากยังไม่ชัดเจนจะต้องคืนตำแหน่งหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เท่าที่ดูขณะนี้ถ้าศาลยังไม่ชี้อะไร น่าจะต้องดำเนินการไปตามที่ ก.พ.และกฤษฎีกา สรุปมา
เมื่อถามว่าเหมือนมีการมุ่งไปให้ความเป็นธรรมกับ นายมงคลมากว่าที่จะคืนความเป็นธรรมให้นายวงศักดิ์ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า “ไม่ใช่ครับ” คงจะเป็นเรื่องที่ว่าถ้าศาลชี้อย่างไรออกมาคงจะมีความชัดเจนมากขึ้นว่าจะมีแนวปฏิบัติควรจะเป็นอย่างไร
**โยนกฤษฎีกาชี้ขาดคำสั่ง"กพค."
นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกรัฐบาล กล่าวว่า ครม.รับทราบในเรื่องนี้ โดยยืนยันว่า การแต่งตั้งดังกล่าว ครม.ได้ดำเนินการตามขั้นตอนของระเบียบที่ถูกต้อง โดยมีมติว่า ได้รับแจ้งเรื่องที่นายมงคล ได้ยื่นต่อศาลปกครอง และมีความเห็นว่า ควรรอผลการพิจารณาของศาลปกครอง ที่อยู่ในระหว่างพิจารณาขอคุ้มครองชั่วคราวดังกล่าว ทั้งนี้จะยื่นให้คณะกรรมการกฤษฎีกาไปพิจารณาทางวิชาการว่า คำสั่งของกพค.มีอำนาจลบล้าง คำสั่งทางกฎหมายหรือไม่