“สนธิ” เย้ย “ติ๊งต่าง” จะฟ้องเรื่องอะไร อดีตนักร้องคาเฟ่แต่งงานกับศักดินาเรื่องจริงทั้งหมด จวก “มาร์ค” 2 ปีไม่เคยแก้ปัญหา รอให้เกิดเรื่องก่อนแล้วค่อยบอกเสียใจ ชี้ ปชป.ตกอับ “ไม่เลือกเราเขามาแน่” สิ้นมนต์ แพ้กระแสโหวตโน มามุกใหม่ “เลือกคนเลวน้อยที่สุด” ซัด “สมศักดิ์” มั่วกล่าวหา 4 แกนนำบิดเบือน เรียกร้องสมาชิก ก.ม.ม.สายพันธมิตรฯ ลาออกให้หมด ชื่อ “การเมืองใหม่” ไร้ความหมายถ้า พธม.ไม่หนุน จะเอาไปทำอะไรก็เอาไป
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” ปราศรัยโดย “นายสนธิ ลิ้มทองกุล”
เมื่อเวลา 21.08 น. วันที่ 1 พ.ค. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวปราศรัยบนเวทีสะพานมัฆวานรังสรรค์ ระหว่างการชุมนุม “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” ว่า ที่จริงเมื่อวานนี้ตนไม่ได้ปราศรัยถึงนางติ๊งต่าง หรือกาญจนี วัลยะเสวี อย่างเสียหาย แค่เอาความจริงมาพูดว่าเคยเป็นนักร้องคาเฟ่มาก่อน เคยร้องประจำที่ห้องอาหารครัวหลวง โรงแรมแมนดาริน และรู้จักกับนักดนตรีชื่อแหลม เป็นอย่างดี หลังจากนั้นก็ได้ดิบได้ดีไปแต่งงานกับสามีที่นามสกุลวัลยะเสวี และไปรับงานพรรคประชาธิปัตย์มาด่าพันธมิตรฯ ที่ตนต้องพูดถึงนางติ๊งต่างก็เพราะมาพาดพิงถึงเอเอสทีวีก่อน ไม่เช่นนั้นก็จะไม่ไปยุ่ง แล้วจะมาฟ้องตนในข้อหาอะไร เพราะการที่นางติ๊งต่างเคยเป็นนักร้องคาเฟ่ มีประจักษ์พยานหมด และการที่รู้จักกันดีกับนายแหลมก็ไปตีความเอาเอง ตนไม่ได้บอกว่ามีอะไรกับนายแหลม แล้วที่ไปแต่งงานกับศักดินานามสกุลวัลยะเสวีก็เป็นเรื่องจริง และรูปที่นางติ๊งต่างถ่ายกับคนใหญ่คนโตของพรรคประชาธิปัตย์ก็จริงทั้งนั้น
นายสนธิกล่าวต่อว่า หลังจากนายอภิสิทธิ์มาเป็นนายกฯ แล้ว การประชุมอาเซียนต้องล่มที่พัทยา นายอภิสิทธิ์พูดได้แค่ว่าเสียใจ เสื้อแดงเผาเมืองรอบแรกก็บอกว่าเสียใจ เสื้อแดงปิดแยกสะพานผ่านฟ้าฯ นายอภิสิทธิ์ก็บอกว่าเสียใจ ทหารโดนเสื้อแดงทำร้ายและยิงตาย นายอภิสิทธิ์ก็บอกว่าเสียใจ เสื้อแดงปิดแยกราชประสงค์ นายอภิสิทธิ์ก็บอกแค่ว่าเสียใจ คนสีลมถูกยิงตายโดนตำรวจไล่ตี นายอภิสิทธิ์ก็บอกว่าเสียใจ เสื้อแดงเผาเมืองรอบสอง นายอภิสิทธิ์ก็บอกแค่ว่าเสียใจ ไม่ยกเลิกเอ็มโอยู จนไทยต้องปะทะกับเขมร นายอภิสิทธิ์ก็บอกแค่ว่าเสียใจ เขมรยิงทหารและประชาชนคนไทยรอบแรก นายอภิสิทธิ์ก็บอกแค่ว่าเสียใจ เขมรยิงทหารและประชาชนคนไทยรอบ 2 นายอภิสิทธิ์ก็บอกว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ เขมรยิงทหารและประชาชนคนไทยรอบ 3 นายอภิสิทธิ์บอกเพราะพันธมิตรฯ ยั่วยุ เขมรยิงเรารอบ 4 นายอภิสิทธิ์ออก พ.ร.ก.มาจัดการกับพันธมิตรฯ ทหารเขมรปะทะกับทหารไทยรอบที่ 5 นายอภิสิทธิ์จะให้อินโดนีเชียเข้ามาอยู่ในแผ่นดินไทย พอเขมรยิงเข้ามาในเดือนเมษายน นายอภิสิทธิ์ก็มัวไปเปิดงานตัดริบบิ้น เขมรยึดปราสาทตาควาย นายอภิสิทธิ์ประชุมเทเลคอนเฟอร์เรนซ์ พอเขมรด่าคนไทยทั้งที่เขายิงคนไทยตาย แล้วไปฟ้องศาลโลก นายอภิสิทธิ์ไม่รู้อมอะไรอยู่ คนเสื้อแดงจาบจ้วง นายอภิสิทธิ์ก็เฉย มีนายกฯ อย่างนี้มันเหมือนมีอะไรอยู่ในบ้าน
นายสนธิกล่าวต่อว่า ขณะนี้กระแสโหวตโนกำลังมาแรง เห็นได้จากการทำสำรวจของเว็บไซต์ MSN ประเทศไทย ซึ่งล่าสุดคะแนนของคนที่จะโหวตโนขึ้นมาอันดับหนึ่ง พรรคเพื่อไทยได้อันดับสอง และพรรคประชาธิปัตย์อยู่อันดับสาม พรรคประชาธิปัตย์ก็เลยมาแนวใหม่ จากเดิมที่บอกว่า “ไม่เลือกเราเขามาแน่” ซึ่งใช้ไม่ได้ผล ก็เปลี่ยนมาเป็นให้เลือกพรรคที่เลวน้อยที่สุด มันมีอยู่หรือ เลวน้อยที่สุด เลวน้อยเลวมากก็คือเลว ทำไมจะต้องเลือกด้วย เพราะฉะนั้นเราต้องโหวตโนเท่านั้น
นายสนธิกล่าวต่อว่า พรรคประชาธิปัตย์ต้องเปลี่ยนจาก “ไม่เลือกเราเขามาแน่” เพราะเขาตอบคำถามไม่ได้ว่า 1.ทำไมปล่อยให้คนเสื้อแดงเผาเมือง และ 2.ยังช่วยประกันตัวคนเสื้อแดงอีก คำว่า ไม่เลือกเราเขามาแน่จึงช่วยไม่ได้ จึงคิดคำพูดใหม่ อ้างว่าอย่างน้อยพวกเขาก็เลวน้อยที่สุด นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ก็ชอบพูดคำนี้ นางติ๊งต่างก็ชอบพูด แต่ก็เท่ากับยอมรับว่า นายอภิสิทธิ์ก็เลว
“เรื่องของเรื่อง เป็นเพราะคุณมาหาเรื่องเอเอสทีวีก่อน มันหนักหัวกบาลอะไรของคุณ ไม่อยากดูเอเอสทีวี ก็ไม่ต้องดู ไปดูช่อง 11 ดูช่อง 9 ดูนายเจิมศักดิ์ นายจิตรกร มาดูเอเอสทีวีทำไม แล้วมาหาว่าเอเอสทีวีคือตัวการทำลายชาติ”
นายสนธิกล่าวต่อว่า มีผู้ใหญ่ที่สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์คนหนึ่งบอกว่า ที่เวทีพันธมิตรฯ ด่ากันแรงมาก แต่ตนเห็นว่าสำหรับคนที่ขายชาติขายแผ่นดิน ด่าแค่นี้ยังน้อยไป ประเด็นที่สำคัญ ที่หาว่าเราด่าแรงนั้นด่าอะไร ก็แค่เอาความชั่วของนักการเมืองมาเปิดเผยแค่นั้นเอง รู้อยู่แล้วว่าตั้งแต่เรามีเอ็มโอยู 43 เป็นต้นมาทำไทยเสียดินแดน แล้วก็ยังโกหก นายปานเทพ พวพงษ์พันธ์ นายเทพมนตรี ลิมปพยอม จึงช่วยกันเปิดหน้าตาคุณออกมา แล้วยังจะให้พวกเราไปกราบคุณอีกหรือ
“ถ้าสิ่งที่คุณทำเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง ออกมาปกป้องชาติ ไม่มีแค่ 3 ขี้ คือ ข้อโม้ ขี้ขลาด ขี้โกง วันนี้เราจะมานั่งที่นี่ทำไม เหนื่อยก็เหนื่อย ร้อนก็ร้อน แต่เนื่องจากคุณไม่ได้ทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมาเมื่อคุณเป็นนายกฯ แล้วคุณมารับตำแหน่งนี้ทำไม ที่ผมเล่าให้ฟัง เป็นความเท็จหรือไง ทุกอย่างที่คุณมีสิทธิ์แก้ไขในฐานะที่เป็นผู้นำประเทศ คุณก็ไม่ทำ คุณรอให้มันเกิดขึ้นก่อน ให้มันมีความเสียหายแล้ว ค่อยมาบอกว่าเสียใจ” นายสนธิกล่าว
นายสนธิกล่าวอีกว่า วันนี้ ตนได้พบกับนางกอบ (นางชญาบุญ เพชรพรหม พันธมิตรฯ เกาะสมุย และกรรมการก่อตั้งพรรคการเมืองใหม่) ซึ่งเสียใจน้ำตาคลอเบ้าที่นายสมศักดิ์ โกศัยสุข หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ ให้สัมภาษณ์เนชั่นว่า วันที่มีการประชุมพรรคการเมืองใหม่นั้น สาเหตุที่ต้องกั้นไม่ให้เข้าฟ้องประชุมก็เพราะไม่ใช่สมาชิกพรรค แต่เป็นพันธมิตรฯ แล้วนายสมศักดิ์ยังกล่าวหาว่าแกนนำบิดเบือนความจริง ก็อยากจะถามนายสมศักดิ์ว่า พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายพิภพ ธงไชย นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ และตน จะพร้อมใจกันบิดเบือนความจริงได้อย่างไร
นายสนธิกล่าวว่า ตนคิดมาแล้ว นี่เป็นความเห็นส่วนตัว ต่อไปนี้อย่าไปยุ่งกับชื่อพรรคการเมืองใหม่อีกเลย ขอให้สมาชิกที่เป็นพันธมิตรฯ ลาออกกันทั้งหมดเลย ให้พวกมันสุมหัวกันเอง ไปลงนรกที่ไหนก็ไป อย่าไปเป็นสมาชิกให้เสียเกียรติพันธมิตรฯ เลย จะมัวทะเลาะกับคนพาลอยู่ทำไม มันอยากโกหกก็ให้โกหกกันเอง ให้ร่วมสังฆกรรมกันเอง พวกเราอย่าไปยุ่ง จะเอาพรรคการเมืองใหม่ไปเป็นสังคมนิยมก็เอาไปเลย ชื่อมันไม่มีความหมายหรอก จะมีก็ต่อเมื่อมีพันธมิตรฯ หนุนหลังอยู่เท่านั้น