แฉพฤติกรรมเถื่อนแก๊งนักเลือกตั้ง ส่งชายฉกรรจ์ขวางทางเข้าห้องประชุม ก.ม.ม. ห้ามสมาชิกพรรคเข้าฟังมติกรรมการบริหาร “เจ๊กอบ เกาะสมุย” โดนผลักอกจนเซถลาพร้อมพันธมิตรฯ หญิงจากโคราช ทั้งที่เป็นสมาชิกพรรค หลังพยายามเข้าพบ “สมศักดิ์” เพื่อถามเหตุผลห้ามสมาชิกเข้าห้องประชุม เผยรู้สึกเหมือนโจรเข้ายึดบ้าน เป็นกรรมการก่อตั้งพรรคแท้ๆ ยังถูกกระทำแบบนี้ แล้วชาวบ้านจะพึ่งได้อย่างไร
นางชญาดา ศริญญามาศ อายุ 53 ปี พันธมิตรฯ นครราชสีมา และกรรมการศูนย์ของพรรคการเมืองใหม่ จ.นครราชสีมา ได้เล่าเหตุการณ์ที่มีกลุ่มชายฉกรรจ์เข้ามาผลักอกขณะที่ขอขึ้นไปฟังมติที่ประชุมบริหารพรรคการเมืองใหม่ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 29 เม.ย.ว่า เมื่อเวลา 14.00 น.วันเดียวกัน ตนได้เดินทางไปยังที่ทำการพรรคการเมืองใหม่ เพื่อรอฟังมติที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคว่าจะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งเลือกตั้งเป็น ส.ส.ในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้หรือไม่ เมื่อไปถึงที่บริเวณชั้น2 พบว่า มีกลุ่มคนซึ่งตนไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนนั่งขวางบันไดทางขึ้นไปยังห้องประชุมชั้น 4 โดยหนึ่งในกลุ่มคนดังกล่าวได้ห้ามตนขึ้นไปยังห้องประชุม อ้างว่าวันนี้เป็นการประชุมของกรรมการบริหารพรรค และกรรมการสาขาของพรรคเท่านั้น สมาชิกพรรคไม่เกี่ยว เขาไม่ได้เชิญมาจึงขึ้นไปไม่ได้ ตนจึงขอถ่ายรูปกลุ่มคนที่มาขัดขวาง แต่ถูกปฏิเสธ โดยอ้างว่าเป็นการละเมิดสิทธิ
นางชญาดากล่าวต่อว่า ระหว่างนั้นได้มีผู้หญิงคนหนึ่งกล่าวต่อว่านายสนธิ ลิ้มทองกุล และ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ ด้วยถ้อยคำหยาบคาย ตนไม่เห็นด้วยจึงได้เกิดการโต้เถียงกันขึ้น กระทั่งต่อมานางชญาบุญ เพชรพรหม อายุ 50 ปี พันธมิตรฯ เกาะสมุย และเป็นกรรมการก่อตั้งพรรคการเมืองใหม่ ที่ทราบข่าวได้เดินทางมาสมทบ พร้อมกับบอกให้ตนสงบสติอารมณ์ พร้อมไปพูดคุยกับกลุ่มคนดังกล่าว จากนั้นนางชญาบุญได้ขอขึ้นไปยังชั้น 4 เพื่อรอฟังมติพรรค เมื่อเดินขึ้นบันได้ขั้นที่สองได้ถูกผู้หญิงคนหนึ่งผลักออกจนเซถลา ตนจึงพยายามเข้าช่วย แต่ถูกชายฉกรรจ์อีกคนผลักเช่นเดียวกัน จากนั้นได้มีการ์ดมาช่วยแยกทั้งสองฝ่ายออกจากกัน
“โดยส่วนตัวที่ถูกผลักพี่ไม่รู้สึกเจ็บแม้แต่น้อย แต่มันเจ็บใจ เพราะพรรคการเมืองใหม่ก็เหมือนบ้านของเรา แต่กลับให้ใครก็ไม่รู้มาทำกับพวกพี่ซึ่งเป็นกรรมการก่อตั้งพรรค และปัจจุบันก็ยังเป็นสมาชิกพรรคอยู่ถึงขณะนี้” นางชญาดากล่าว
ด้าน นางชญาบุญกล่าวว่า ตนได้เดินทางมาถึงที่ทำการพรรคการเมืองใหม่เมื่อเวลา 17.30 น.เพื่อมารอฟังมติกรรมการบริหารพรรค เมื่อมาถึงบริเวณชั้น 2 ก็พบสมาชิกพรรคที่เป็นพันธมิตรฯ กว่า 40 คนที่มารอฟังมติพรรคเช่นเดียวกัน และเห็นนางชญาดานั่งร้องไห้เพราะทนไม่ได้ที่มีคนในพรรคมากล่าวโจมตีนายสนธิ และ พล.ต.จำลอง กระทั่งเวลา 18.00 น.ทางกลุ่มพันธมิตรฯ ที่รออยู่ได้ให้ตนเป็นตัวแทนขึ้นไปถามผลการลงมติ เพราะแต่ละคนมารอตั้งแต่ช่วงบ่ายยังไม่ได้รับประทานอาหาร หากยังไม่ลงมติจะรับประทานอาหารก่อน ซึ่งตอนนั้นตนก็ไม่รู้มาก่อนว่ามีการห้ามไม่ให้เข้าฟังมติพรรค จึงได้เดินขึ้นบันไดและพบว่ามีคนนั่งขวางทางขึ้นอยู่ 3 แถว โดยแถวแรกเป็นชายฉกรรจ์ 4 คน แถวที่สองเป็นผู้หญิง 4 คน และแถวสุดท้ายเป็นผู้หญิง 3 คน ตนจึงขอทางกลุ่มคนดังกล่าว ซึ่งในตอนแรกคิดว่า เป็นกลุ่มพันธมิตรฯ เช่นเดียวกับตนที่มานั่งรอฟังมติพรรค แต่มานั่งรอที่บันได
นางชญาบุญกล่าวต่อไปว่า กลุ่มคนดังกล่าวได้สอบถามว่าตนเป็นใครจะไปไหน ตนจึงบอกว่าตนเป็นกรรมการก่อตั้งพรรค จะไปพบนายสมศักดิ์ โกศัยสุข หัวหน้าเพรรคการเมืองใหม่ เพื่อสอบถามมติพรรค กลุ่มคนดังกล่าวจึงได้ขอดูบัตร ตนบอกว่าขณะนี้ตนพกมาเพียงบัตรสมาชิกพรรค บัตรกรรมการพรรคอยู่ที่บ้าน จึงถูกปฏิเสธไม่ให้ขึ้น ตนจึงถามกลับว่าคนพวกนี้เป็นใครซึ่งได้รับคำตอบว่าเป็นกรรมพรรคจากต่างจังหวัด มาคอยป้องกันไม่ให้มีใครไปรบกวนการประชุมของกรรมการบริหารพรรค ตนจึงได้ถามกลับไปว่า เดี๋ยวนี้เขาเอาคนมากั้นคนกันแล้วหรือ นี่ตนเองเป็นสมาชิกพรรค เป็นกรรมการก่อตั้งพรรคยังถูกห้าม แล้วประชาชนที่ไม่ใช่สมาชิกพรรค ไม่ใช่พันธมิตรฯ จะหวังเข้ามาพึ่งพาพรรค จะยากลำบากแค่ไหน นายสมศักดิ์ เป็นนายกฯ หรืออย่างไรจึงเข้าพบไม่ได้ เมื่อได้ยินดังนั้นผู้หญิงซึ่งยืนขวางอยู่ได้ผลักอกตนจนเซถลาก่อนจะมีการโต้เถียง เมื่อเห็นดังนั้น นางชญาดาและคนอื่นๆ จึงพยายามเข้ามาช่วยจึงถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ผลักอกเช่นเดียวกัน แต่โชคดีที่นายจาตุรันต์ บุญเบญจรัตน์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรค มาเป็นผู้ไกล่เกลี่ยจนเหตุการณ์สงบลง
“เสียใจตรงที่ เดินเข้าไปความรู้สึกเหมือนบ้านโดนยึด เหมือนมีคนแปลกหน้าอยู่ในบ้าน มีโจรมาขึ้นบ้านแล้วปล้นบ้านไปต่อหน้าต่อตา ดิฉันเป็นกรรมการรุ่นแรก รุ่นก่อตั้งพรรค ซึ่งที่ผ่านมาทุกคนในพรรคต่างรู้จักเป็นอย่างดี ยังถูกกระทำถึงขนาดนี้ หากเป็นประชาชนทั่วไปที่หวังพึ่งพรรคจะถูกกระทำขนาดไหน แล้วจะสามารถหวังพึ่งพาพรรคการเมืองใหม่ได้อย่างไร” นางชญาบุญกล่าว
นางชญาบุญกล่าวอีกว่า แม้จะรู้สึกผิดหวังกับพรรคการเมืองใหม่ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ตนจะไม่ลาออก จะยังคงเป็นสมาชิกพรรคต่อไปเพื่อนำพาพรรคไปในแนวทางที่ถูกต้อง และจะเดินหน้าโหวตโนในการเลือกตั้งครั้งที่จะถึงนี้