นายกฯ ชูแรงงานขับเคลื่อน ศก. ยันรัฐตอบข้อเรียกร้องช่วยเหลือไปมาก พร้อมเร่งออกกฏให้สถานประกอบการที่มีศูนย์เลี้ยงเด็กด้วยลดภาษีได้ ยกมติ ครม.ขึ้นค่าจ้างแรงงาน 11 สาขา คาดปรับค่าแรงขั้นต่ำได้อีก 1 เดือนหน้า พร้อมผลักดันกฎหมาย ขยายสวัสดิการ ก่อสร้างระบบขนส่งมวลชน
วันนี้ (1 พ.ค.) ที่สถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวผ่านรายการ “เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์” ว่า วันที่ 1 พ.ค.เป็นวันแรงงาน อยากขอเรียนว่ารัฐบาลได้ให้ความสำคัญอย่างมากกับงานของพี่น้องแรงงาน เพราะคนเหล่านี้มีบทบาทสำคัญมาก การที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ตนอยากเรียนว่า ในช่วงระยะเวลา 2 ปีกว่าๆ ที่ผ่านมา การดูแลยกระดับความเป็นอยู่ของพี่น้องผู้ใช้แรงงาน ตอบสนองต่อข้อเรียกร้องของผู้ใช้แรงงานซึ่งได้ทำไปมากต่อเนื่อง ปัจจุบันจะเห็นได้ว่างานที่เราให้ความสำคัญช่วยพี่น้องแรงงานที่มีครอบครัวนั้นก็คือ จัดให้มีการดูแลเด็กเล็กในสถานประกอบการ ขณะนี้ได้เร่งหลายๆ ทาง มีการออกกฎระเบียบเพื่อจะให้สถานประกอบการที่ทำศูนย์เด็กเล็กในสถานประกอบการ สามารถเอาค่าใช้จ่ายไปลดหย่อนภาษีได้ เชิญชวนภาคเอกชน และจูงใจทุกรูปแบบเพื่อพี่น้องแรงงานได้ใช้ประโยชน์ตรงนี้
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กล่าวผ่านรายการ “เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์”
นายอภิสิทธิ์กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันเรื่องของค่าตอบแทน ค้าจ้าง คณะรัฐมนตรีในวันอังคารที่ผ่านมา (28 เม.ย.) ได้อนุมัติค้าจ้าง ประกาศค่าจ้างตามมาตรการฝีมือแรงงานใน 11 สาขา ซึ่งเป็นการประกาศครั้งแรก ปกติจะดูแลเฉพาะค่าแรงขั้นต่ำ แต่ตอนนี้ผู้ใช้แรงงานที่มีฝีมือต่างๆ ก็จะมีการประกาศกำหนดค่าจ้างครั้งแรก มีตั้งแต่ 200 กว่าบาทไปถึง 500 กว่าบาท ซึ่งก็ถือว่า นี้จะเป็นหลักประกันของพี่น้องผู้ใช้แรงงาน ได้ผ่านมาตรฐานฝีมือแรงงาน ก็จะมีค่าจ้างที่มีความเป็นธรรม ก็เป็นอีกแนวทางหนึ่งในการช่วยต่อสู้ในเรื่องของค่าครองชีพ ส่วนเรื่องของค่าจ้างขั้นต่ำนั้น ก็อยู่ในช่วงที่มีการปรับให้สอดคล้องกับค่าครองชีพอีกครั้งหนึ่ง คาดว่าจะดำเนินการได้อีก 1 เดือนข้างหน้า นี่คือสิ่งที่ทำอย่างต่อเนื่อง ส่วนเรื่องของการผลักดันกฎหมายหลายฉบับ เช่น เรื่องความปลอดภัยอาชีวอนามัย และเรื่องของกฎหมายอื่นๆ ด้านแรงงาน รวมไปถึงการยกเลิกข้อสงวนตามข้อตกลงระหว่างประเทศมีการผลักดันอย่างต่อเนื่อง และสิ่งที่เน้นย้ำตลอด คือ เรื่องการเปิดโอกาสให้แรงงานนอกระบบเข้าอยู่ในประกันสังคม โดยจ่ายสมทบ 30 บาท 50 บาท ผู้ใช้แรงงานจ่ายสมบท 70 บาท 100 บาท จะเริ่มต้นได้ในวันนี้ เป็นการขยายเรื่องสวัสดิการให้ควบคุม ตลอดจนถึงการรับงานไปทำที่บ้านก็จะมีผลบังคับใช้แรงงานเหล่านี้ นอกจากนี้งานด้านอื่นๆ เกี่ยวกับเศรษฐกิจ สังคม รัฐบาลยังเดินหน้าต่อเนื่อง จะไปดูการก่อสร้างระบบขนส่งมวลชนในกรุงเทพมหานคร-ปริมณฑล การลงทุนในโครงสร้างขั้นพื้นฐาน